วันศุกร์, มิถุนายน 29, 2561

ดราม่าศรีวราห์ #ระบายน้ำถ้ำหลวงฯ “อาศัยอำนาจอะไรในการเจาะ” ส่วน ผบ.ตร. ตอบสื่อนอกถึงความคืบหน้า “I have no idea.”

ที่นี่ นักข่าวหน้าจอมอนิเตอร์ตามติดสถานการณ์ ๖ วันของการค้นหา ทีมหมูป่าอคาเดมี่ที่หายไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ยังไม่มีข่าวดี มีแต่กำลังใจจากนายกฯ (คนเก่งที่ถึงจะ “ฉลาดบ้างนิดหน่อย” แต่ก็ “ขออย่าดูถูกกันมากนักเลย”) เอาไปมอบให้ถึงที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. บินจี๋ไปเชียงรายแต่เช้า (๒๙ มิ.ย.) เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และครอบครัวของเยาวชนที่ติดอยู่ในถ้ำ (เท่านั้น) กำชับเด็ดขาดไม่ต้องมีรายงานสถานการณ์ ไม่ต้องจัดการต้อนรับให้เอิกเกริก

แต่ช่วยไม่ได้ ในตำแหน่งนายกฯ (ที่ไม่ได้อยากเป็น หากฝืนใจมาช่วยชาติแท้ๆ และเห็นท่าจะต้องอดทนช่วยต่ออีกสักสี่ซ้าห้าปี ถ้าพลังประชารัฐเขาดูดได้ผล) ย่อมต้องมีหน่วยรักษาความปลอดภัยพร้อม K-9 ไปรอรับ และทีม ทส.ติดตามสัก ๒๕ คน
 
“เวลา 07.59 น. สุนัขตำรวจมารักษาความปลอดภัยนายกฯ แต่ไม่ได้มาช่วยการค้นหา ขณะที่นายกฯ และรัฐมนตรีถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง เวลา 8.20 น. และเดินทางไป อ.แม่สาย เข้าพื้นที่” @ThaiPBSNews รายงาน

วันนี้ดร่าม่าเรื่องสื่อซาลงไปเมื่อชัดเจนว่า นักข่าวที่เข้าไปรายงานภายในสถานที่นั้นเจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าไปเพื่อช่วยประชาสัมพันธ์ และไม่ได้กีดขวางการทำงานเนื่องจากเป็นบริเวณที่เปิดให้ถ่ายภาพและถ่ายทำแล้ว

แต่ว่าก็มีดราม่าของพวกเจ้านายฝ่ายตำหวดติดปลายนวมมาเล็กน้อย เมื่อทั่นรอง ผบ.ตร. ไม่เพียงรับฟังรายงานเรื่องการช่วยระบายน้ำของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ทั่นซักไซร้ลงรายละเอียดเหมือนกับว่ารู้ลึกเชียวละ

พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ไล่เรียงกับเจ้าหน้าที่ชนิดว่า “อาศัยอำนาจอะไรในการเจาะ” ได้ประสานกรมอุทธยานหรือยัง ระวังเรื่องกฎหมายให้แม่นๆ นะ แล้วจะขุดจากยอดเขาเนี่ยรู้พิกัดหรือเปล่า ขนาดนั้นกันเลย


ก็ยังดีกว่าทั่น ผบ.ตร.เองนี้ดนึง ซึ่งเจอนักข่าวอัล จาซีราห์ เอาไมค์จ่อปากถามถึงความคืบหน้าของปฏิบัติการค้นหานักเตะเยาวชนและโค้ช ๑๓ คนที่ติดอยู่ในถ้ำ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ดันตอบเวย์น เฮย์ว่า
 
“I have no idea.” ไม่รู้สิ “ต้องไปถามผู้ว่าฯ (เชียงราย) โน่นแน่ะ” นายเฮย์เขาจึงได้ทวี้ตว่า “แล้วทั่นมาที่นี่ทำไม” (วะ) ถ้าทั่นทำการบ้านเสียบ้างจะรู้

ความคืบหน้าของวันมีว่า ยังมีความพยายามสูบน้ำออกจากถ้ำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา จนทำให้ปริมาณน้ำในถ้ำบริเวณโถงแรกลดลงไปบ้าง แต่ก็ยังไม่ช่วยอะไรมากนัก

 
นอกจากนายเวิร์น อันสเวิร์ธ นักดำน้ำชาวอังกฤษใช้เวลาสองชั่วโมงแล้วไม่พบอะไร เช่นเดียวกับหน่วยซีลที่เข้าไปถึงลานหาดพัทยา พบแต่รอยเท้าและรองเท้า อีกทั้งการหย่อนขวดน้ำเข้าไปจากช่องเปิดบนเขา ปรากฏว่ามีร่องรอยขวดน้ำถูกถอดออกไปเหลือแต่เชือก อันเป็นสัญญานข่าวดีแล้ว

ความพยายามขุดเจาะหาเพื่อปิดตาน้ำเกิดติดขัด เจาะไปได้ ๗๐ เมตรต้องหยุดเพราะไฟฟ้าดับ รอเจาะต่อใหม่อีกตอนสายวันนี้


อย่างไรก็ดี ความเคลื่อนไหวของข่าว #ถ้ำหลวงฯ บนโลกไซเบอร์ดำเนินต่อไปไม่หยุดยั้งอย่างรวดเร็วด้วยข้อมูลใหม่ โดยเฉพาะเกี่ยวกับโพลงบนยอดเขาที่ฝ่ายปฏิบัติการกำลังสำรวจหาช่องทางเจาะลงไปสู่โถงของถ้ำ

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมเครื่องเจาะไว้แล้ว ส่วนหนึ่งด้วยความช่วยเหลือของหน่วยทหารอเมริกัน จัสแม็กประเทศไทย ทว่าบรรดานักรบไซเบอรืไปไกลกว่านั้น

เปิดฉากด้วย ภรรยาท่านลอร์ด คอมเม้นต์รายงานของช่องอัมรินทร์ที่ไปสัมภาษณ์ชาวบ้านในพื้นที่ ว่า “ก่อนหน้านี้ชาวบ้านไม่เคยออกมาบอก เพราะเป็นพื้นที่สีแดง” อันหมายถึงเขตลักลอบค้ายาเสพติด ที่ เกี๊ยวเห็นคุณให้รายละเอียด

“พ่อเพื่อนเราเป็นทหารบอกมานะคะ คือเขาปลูกฝิ่นผลิตยาที่ดอยผาหมี แล้วลักลอบขนกันที่ดอยนางนอน เพราะมีจุดเชื่อมไปพม่า” พ้องพอดีกับที่ ‘Millennium Boyz’ แฉ “โพลงที่ดอยผาหมีมันใหญ่มาก ใหญ่จนไม่น่าเพิ่งมาเจอเอาตอนนี้”

ก็เลยเข้าทางที่ คิมบ๊าบบิโพสต์บ้าง “ทำไมมีแต่คนคิดว่าถ้ำนี้มันมีสิ่งลี้ลับ แต่ไม่ค่อยมีใครคิดว่าถ้ำนี้มันเป็นเขตลักลอบค้ายา ที่คนแถวนั้นไม่ค่อยเข้าไป เพราะเขารู้ #ถ้ำหลวง” อ๊ะ เข้าไคล้กับที่คุณนาย เกี๊ยวเขียนไว้

“บางทีเวลาชาวบ้านเข้าไปแถวนั้นแล้วเสียชีวิต เขาก็จะโยนเข้าเรื่อไสยไป จะได้ไม่ต้องโดนขุด พวกพลเมืองดีเขาก้ไม่กล้าพูดแหละ พูดไปก็เหมือนเอามีดมาจ่อคอตัวเอง” ซึ่งก็ตรงกับที่ มาแป๊ปเดียว เดี๋ยวก็ไปเขียนไว้ก่อนหน้านี้เช่นกันว่า

“เส้นทางของถ้ำนี้ไม่ได้มีอาถรรพ์อะไรหรอก...ตอนยังไม่มีวัด ว่ากันว่าเป็นทางเดินของพวกผิดกฎหมายพักของ เพราะบนเขาเป็นหมู่บ้านชาวเขาผาหมีติดชายแดนพม่า แหล่งเพาะพันธุ์ยาเสพติด...บนเขาดอยนางนอนใครหลงเข้าไปเป็นหายไปทุกที

...ที่รู้ๆ กันแม้แต่คนในพื้นที่ขึ้นไปหาของป่า หายสาปสูญหรือกลายเป็นศพตลอด ไม่มีหรอกผีสางมีแต่เจ้าที่เจ้าทางตั้งแหล่งผลิตยาล่ะมากกว่า อาถรรพ์ลูกปืนน่ะสิ...”