วันพุธ, มิถุนายน 20, 2561

ประยุทธ์บอกอังกฤษ เลือกตั้งต้องรอโปรดเกล้าฯ อ้าว แล้วเมื่อไหร่ คสช.จะกราบบังคมทูล


เหมือนกับที่เคยบอกอียู ญี่ปุ่น และอเมริกา มาแล้วสี่ห้าหนเรื่องโร้ดแม็พเลือกตั้ง คราวนี้เอาอีกจะบอกอังกฤษว่าต้องรอโปรดเกล้าฯ ภายใน ๙๐ วันเสียก่อน

นักข่าวยังไม่เข้าใจวันไหนแน่วะ จะบอกให้มันแน่นอนกว่านี้สักหน่อยได้ไหม ก็เลยถามนำว่าก่อนพระบรมราชาภิเษกหรา ฮ่าฮ่า ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงได้แย้มออกมานิด “หลังอยู่แล้ว...หลังพระราชพิธีบรมราชาภิเษก”

แล้วเมื่อไหร่จะบรมราชาภิเษกล่ะ สำหรับประยุทธ์บอกว่า “คสช.กำลังพิจารณาอยู่ คือการเตรียมการไปสู่พระราชพิธีบรมราชาภิเษก” แต่ทั่นรองฯ วิษณุ เครืองาม ไม่อย่างนั้น “ระบุว่ายังไม่ทราบวันเวลาชัดเจนเกี่ยวกับวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพราะขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัย”

อ้าว มันวกวนกันไปมากระไรอยู่ ถ้า คสช.เป็นคนจัดการ ก็กราบบังคมทูลฯ ไปเสียสิว่าเมื่อไหร่ วันไหน พระองค์จะได้ทรงวินิจฉัย เตรียมเสด็จกลับมาจากเยอรมนีตามนั้น หรือถ้าทรงติดขัดก็จะได้แจ้งแก่ คสช. ให้เลื่อนขึ้นเลื่อนลงอย่างไร ว่าไป

เท่าที่เคยได้ยินผู้สันทัดราชกรณีกิจของ ร.๑๐ นี่ เรื่องกฎบัตรกฎหมายกราบบังคมทูลไป มักจะทรงพระราชทานกลับมาอย่างรวดเร็วเสียเป็นส่วนใหญ่ ฉะนั้นปัญหาน่าจะอยู่ที่ คสช. มากกว่า เตรียมการแล้วจริงหรือ และไปถึงไหน

อ้างพระบรมราชวินิจฉัยน่ะอาจทำให้ระคายเคืองเบื้องยุคลบาทได้นะ เหมือนที่ประยุทธ์ชอบโทษรัฐบาลที่แล้วตะบัน อะไรหลายอย่าง นโยบายที่เอามาเปลี่ยนชื่อ ประชา (รัฐ+ไทย) นิยมนั่นไง ลอกเขามาแล้วยังคุยทับถมเสียอีก ว่าเอามาทำได้ดีกว่า

ตานี้ รมช. อังกฤษเขาไม่ได้ถนัดชั้นเชิงพูดอ้อมค้อมวกวนอย่างนายกฯ และรองฯ ของไทย เขาพูดชัดเจน “เรายังมีความเข้าใจว่าวันเลือกตั้งจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พระราชพิธีบรมราชาภิเษกจะมีขึ้นก่อนหน้านั้น”
 
นายม้าร์ค ฟีลด์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบีบีซี ก่อนที่จะมีการพบกันระหว่างนางเทริซ่า เมย์ กับประยุทธ์ “เราประกาศอย่างชัดเจนมาตลอดว่าเราอยากเห็นการกลับสู่การเลือกตั้งแบบมีส่วนร่วมอย่างเต็มรูปแบบในประเทศไทยอย่างเร็วที่สุด”

ที่เขายังพูดย้ำหัวตะปูอย่างนั้นอยู่ ก็เพราะ “เรายังไม่สามารถเชื่อได้หมดใจว่าจะมีการเลือกตั้งได้ในเวลานั้นจริง จนกว่าเราจะทราบว่าพิธีบรมราชาภิเษกจะมีขึ้นเมื่อไร”


นั่นแสดงว่าใครๆ เขารู้ทั้งนั้นว่ามันหน้าที่รัฐบาลจัดการ จะอ้างรอพระราชวินิจฉัย ฟังไม่ขึ้นนักหรอก ซ้ำประยุทธ์พูดบ่ายเบี่ยง อ้างว่ารายการทัวร์อังกฤษ-ฝรั่งเศสครั้งนี้ “เพราะต้องไปทำความเข้าใจกับต่างประเทศในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของไทย และการเปิดโรดโชว์อีอีซี

เลี่ยงบาลี เหมือนว่าจะต้องทำโน่นทำนี่ให้เสร็จเรียบร้อยตอนนี้ ตอนที่ถึงเวลาจะต้องไป เพราะอยู่นานเกินการและเสียงไล่ดังยิ่งขึ้นทุกวัน ที่ผ่านมาเละเทะ ผลาญเงินมากมาย คนในชาติ รวยกระจุก จนกระจายทำมาหากินฝืดเคือง ค่าครองชีพสูง สินค้าราคาตก คนว่างงานเยอะ

มีคนสรุปผลงานสี่ปีของประยุทธ์เอาไว้ตรงเผง ว่าเขาคือ “บิดาแห่งการปลูกพืชหมุนเวียนทดแทน” ดังเช่น กลางปี ๕๘ แก้ปัญหาเกษตร ด้วยการ (จีบปากจีบคอ) พูด แนะประชาชนปลูกหมามุ่ยแทนข้าว อ้างว่าใช้ทำยา ราคากิโลละเป็นหมื่น
 
ที่ไหนได้ขึ้นปี ๕๙ ชาวไร่ชาวนาร้องจ๊าก หมามุ่ยขายไม่ออก คนแนะนำไม่ช่วยหาตลาดให้ พอปลายปี ๖๐ เอาอีก บิ๊กตู่ชวนคนไทยปลูกมะพร้าวน้ำหอม ไม่ทันไรกลางปี ๖๑ ราคามะพร้าวเหลือแค่ลูกละ ๔ บาท ชาวไร่ชุมพรร้องโอดครวญระงม

ครั้นปลายปี ๖๐ ประยุทธ์ออดอ้อนคนใต้ให้ปรับตัวต่อปัญหาราคายางตก ‘free fall’ ไม่มีหูรูด ให้หันไปปลูกปาล์มน้ำมันกันแทน ที่ไหนได้ ต้นปี ๖๑ ราคาปาล์มตกต่ำบ้าง ชาวไร่ยกกันไปเรียกร้องให้รัฐบาลทหารช่วย ต้องคว้าน้ำเหลวโดนประยุทธ์ศอกกลับ หาว่าบอกให้เลิกปลูกแล้วไม่เชื่อ

ยังมีพืชพันธุ์ ประยุทธ์นิยม อีกสองสามอย่างที่นายกฯ คสช. แนะให้ปลูก ได้แก่ มะนาว มังคุด และกล้วยหอม ที่พ้นไปไม่ถึงปี พืชผลเหล่านี้ราคาตกฮวบฮาบ  รวมไปถึงล่าสุดราคาสับปะรดลูกละบาทยังขายไม่ออก ต้องเอามาแจกหรือบริจาคให้วัด
 
จากผลเวรผลกรรมเหล่านี้ของประยุทธ์และรัฐบาล คสช. ชาวบ้านถึงได้เรียกร้องให้มีเลือกตั้งเสียที จะได้มีรัฐบาลที่ต้องฟังเสียงของประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งบ้าง และอย่างน้อยๆ ได้พ้นบ่วงนักถลุงเงินตัวยง เมื่อเห็นตัวเลขกันจะแจ้งแล้วว่า

๔ ปี คสช. สร้างหนี้ไว้ให้ประชาชนจนท่วมหัวแล้ว ๕.๑๘ ล้านล้านบาท แล้วยังมีหนี้ชดเชยการขาดดุลและสำหรับบริหารหนี้อีก๓.๖๙ ล้านล้านบาทด้วย