หารือเตรียมเลือกตั้งระหว่าง คสช. กับ ๗๔
พรรคการเมือง ผ่านไปท่ามกลางความ ‘พอใจ’ ของบางพรรคหลักๆ และ ‘คึกคัก’ สำหรับบางพักโหลยโท่ย (อย่างพรรคไทยศิวิไลซ์ของม้าร์ค พิทบุล
ที่ตอนเปิดตัวออกมารำดาบกันป้อ)
โดยมีสองพรรคฝ่ายไม่เอา คสช. ‘เพื่อไทยกับอนาคตใหม่’ ไม่ร่วมสังฆกรรมตามที่ประกาศไว้
แม้นว่าครั้งนี้ วิษณุ เครืองาม บอกว่าเป็นแค่ยกแรก ยังจะมีอีกครั้งให้ประยุทธ์
จันทร์โอชา มานั่งประธานเอง
ที่แสดงความพอใจก็มีเช่นตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เมื่อผลการหารือมีทางเป็นไปได้ว่า คสช.
จะผ่อนคลายให้พรรคการเมืองจัดประชุมใหญ่ในช่วงที่สองของสูตร ๓-๓-๕ (เดือน) หรือ ๙๐
วันที่สองหลัง พรป.เลือกตั้งประกาศในราชกิจจานุเบกษา
แต่ก็ไม่ใช่ปลดล็อคทั้งหมด พรรคการเมืองต้องขออนุญาต
คสช. เพื่อจัดประชุมเป็นรายๆ ไป และทำการประชุมไพรมารี่โดยไม่ต้องมีหัวหน้าสาขาพรรคร่วมก็ได้
ขณะเดียวกันก็จะให้กรรมการเลือกตั้งจัดทำการแบ่งเขตพร้อมกันไปในช่วงนี้ด้วย
เกี่ยวกับเรื่องไพรมารี่โหวตที่มีเป็นครั้งแรกในกฎหมายพรรคการเมืองฉบับใหม่
หลายพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคปลาซิวปลาสร้อย รวมทั้งหลายรายที่ประกาศยินดีให้ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ
อีกครั้ง จะด้วยวิธี ‘คนนอก’ ‘คนใน’ ได้ทั้งนั้น
บ้างต้องการให้ยกเลิก บ้างขอให้เลื่อนไปเป็นเลือกตั้งครั้งต่อไป
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รับจะนำไปเสนอที่ประชุม คสช.
คงรู้หมู่รู้จ่าตอนประยุทธ์มาประชุมหารือคราวหน้า ซึ่งจะมีขึ้นหลังมีประกาศ พรป.
เรื่องการได้มาซึ่ง สว. และเลือกตั้ง ส.ส. แล้ว
สำหรับการปลดล็อคพรรคการเมืองทั้งหมดเพื่อที่จะได้หาเสียงกันได้อย่างเต็มที่
ทั่นรองนายกฯ ฝ่ายนิติบริการ ไม่รู้ ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่แน่ ขึ้นอยู่กับ
คสช.พอใจเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เนื่องจากจะต้องยกเลิกคำสั่ง คสช. สำคัญ ๓ ฉบับที่มีไว้ใช้กำกับควบคุมความประพฤติประชาชนให้อยู่ในกรอบอำนาจรัฐประหาร
ได้แก่ ๕๗/๒๕๕๗ ๓/๒๕๕๘ และ ๕๓/๒๕๖๐
แต่ก็พอคาดหมายได้ว่าคงได้ปลดล็อคตอนช่วงที่สามของสูตร
๙๐-๙๐-๑๕๐ (วัน) หลังประกาศราชกิจจาฯ ครบ ๙๐
วันแล้วเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งภายใน ๑๕๐ วัน ที่จะเป็นการรับสมัครผู้เข้าแข่งขัน
๒๐ วัน เหลืออีก ๑๓๐ วันมีเวลาถมเถไป ทั่นรองฯ ว่างั้น
ข้อสำคัญกระบวนการทั้งหมดที่เรียกว่าโร้ดแม็พนี้มียืดมีหยุ่นได้
แต่ไม่ร่นไม่หด ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ คสช.จะวินิจฉัย ๕ ประการ
ได้แก่ข้อแรกพระราชพิธีราชาภิเษกมีเมื่อไหร่ รื่นไหม และพระเจ้าอยู่หัวฯ
ทรงพระราชทานกำหมายลูกกลับลงมาเมื่อไร
ข้อสาม ต้องรอ กกต.ชุดใหม่เป็นผู้ประกาศวันเลือกตั้ง
(ภายในช่วง ๑๕๐ วัน) เพราะตามกฎหมายใหม่ต้องเป็น กกต. ไม่ใช่ คสช. นายวิษณุอ้าง แม้ว่าถ้ายังไม่ได้ชุดใหม่ก็ให้ชุดเก่าทำหน้าที่แทนไปได้
(อันนี้มันย้อนแย้งในตัวเองกระไรอยู่) ทั้งๆ ที่ย้ำว่า “เพียงแต่จะกระทบเรื่องช้าหรือเร็วเท่านั้น”
ข้อต่อไปเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น
ถ้าเกิดมีในช่วงนี้ก็ต้องขยับการเลือกตั้งใหญ่ออกไป “เพื่อจะได้หลบหลีกไม่ให้ซ้ำอยู่ในเดือนเดียวกัน”
หรือไม่เช่นนั้นทั่นรองฯ แย้มไว้หน่อยด้วยว่า เลือกท้องถิ่นทีหลังได้
แล้วมาถึงข้อสุดท้ายเป็นท่อนฮุค ที่พวก
คสช.ชอบร้องซ้ำกันประจำว่าต้องดู “ความสงบเรียบร้อยของประเทศ...หากจะเกิดเหตุใดขึ้นในอนาคต
แน่นอนจะกระทบต่อกำหนดเวลาการเลือกตั้ง”
(ดูรายละเอียดยิบได้ที่ https://prachatai.com/journal/2018/06/77571 และ http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/805799)
ทว่าตามโร้ดแม็พที่นายวิษณุสาธยายนี้
มันก็กระทบกำหนดเลือกตั้งเดิมแล้วอีกนิด เมื่อ กกต. ขอว่า ให้วันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ใกล้สิ้นเดือน
ไม่ว่าจะเป็นเดือนไหน ทั่นรองฯ เลยทำตารางเป็นตุ๊กตาไว้ให้
จะเป็น “วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์, ๓๑ มีนาคม, ๒๘ เมษายน หรือ ๕ พฤษภาคม” ย้ำว่านี่แค่ตุ๊กตา
ทั่นรองฯ ขอสื่ออย่าเพิ่งไปพาดหัวว่าเป็น ๒๔ ก.พ. หรือวันไหนแน่ แต่บางกอกโพสต์ก็พาดไปแล้ว
“รัฐบาลทหารส่งสัญญาน ว่าการเลือกตั้งอาจเลื่อนไปเป็นเดือนพฤษภาก็ได้”
‘โพสต์’ เสริมด้วยว่าประยุทธ์ไปพูดที่อังกฤษอาทิตย์ที่แล้ว
เปลี่ยนกำหนดเลือกตั้งจากเดิม (กุมภาแน่นอน) ไปเป็น “ต้นๆ ปี ๖๒ เมื่อถูกนางเธรีซ่า
เมย์ ถามจี้ว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อไหร่แน่”
(https://www.bangkokpost.com/news/politics/1492246/regime-signals-election-could-be-delayed-until-may)
ไม่รู้ว่าภาษา คสช. นี่ต้นเดือนพฤษภาคมถือว่าเป็น
“ต้นๆ ปี” หรือเปล่า แต่ตอนนักข่าวถามนายวิษณุหลังจากเสร็จประชุมหารือกับพรรคการเมืองว่า
จะมีปัจจัยอะไรให้ต้องเลื่อนกำหนดเลือกตั้งออกไปจากที่ทั่นตั้งตุ๊กตาไว้ไหม
ทั่นรองฯ “ไม่รู้”
ถามตื๊ออีกว่า แล้วมีทางหรือไม่ที่กำหนดจะเลื่อนขึ้นมาเป็นก่อนปลายกุมภา
คำตอบจากวิษณุ “ไม่ทราบ” สงสัยจะต้องไปถามสมคิด (จาตุศรีพิทักษ์)
ผู้จัดการพรรคทหารแทน ข่าวว่าปฏิบัติการ ‘ดูด’
ที่สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับสมศักดิ์ เทพสุทิน ลงไป ‘sucker’
แถวอีสาน ได้มาบานตะไท
ดูจากรายชื่อ ส.ส.เก่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือตามที่
จรัญ พงษ์จีน ‘มติชนสุดสัปดาห์’ นำมาเรียงให้เห็นว่าใครบ้างรู้ว่าเขาดูดก็ยินดีให้ดูด มีตั้ง ๓๐
กว่ารายเข้าไปแล้ว บวกกับแถวภาคกลางที่ตกร่องปล่องชิ้นเป็นบริวารของ ‘พลังประชารัฐ’ ไปเรียบร้อย งานนี้ ๔๐-๔๕ ไม่หนี
“ถึงตอนนี้พรรคพลังประชารัฐที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯ รอบสอง ตามสูตร ‘คนใน’ ฝันไปไกลว่าจะได้ที่นั่ง ส.ส. ๒ ระบบ จากเขตเลือกตั้ง-บัญชีรายชื่อ ๑๐๐ ที่นั่ง”
บวกเลขคร่าวๆ กับ สว.
ที่ประยุทธ์ขอตั้งเองละกัน อย่างน้อยๆ ๒๐๐ กับ ส.ส. เก่าภาคเหนือ ที่ ‘สอง ส.’
สุริยะกับสมศักดิ์เตรียมตีท้ายครัวพรรคเพื่อไทยอีก คาดจะได้เสียงในสองสภาทั้งสิ้น ๓๕๐
ขึ้นไป อาจถึง ๓๗๕ ไม่ยาก เพียงพอสำหรับประกาศตั้งรัฐบาลเองสบายๆ
แบบนี้กุญแจสำคัญของการได้เลือกตั้งเร็ว
(ไม่เลื่อน) จะอยู่ที่สอง ส. ถ้าหากปฏิบัติการ ‘ซัคเกอร์’ ได้ผลเกินคาด พวก
คสช.ก็จะอยากให้เลือกตั้งเร็วๆ ปิดจ๊อบรู้แล้วรู้รอดไป
นี่ไม่ใช่แนะทางลัดให้กับอดีต
ส.ส.ทั้งหลายหรอกนะ เดี๋ยวจะหาว่าเสี้ยม
ใครอยากเลือกตั้งเร็ววิ่งโร่ไปหาพลังประชารัฐ แอ่นให้เขาดูดละก็ ได้ทั้งกล่อง
แล้วยังเงินอีกคนละ ๓๐-๕๐ ล้าน