วันอังคาร, พฤษภาคม 12, 2558

ดินระเบิด ลูกจิ๋ว



พลานุภาพ การเมือง ของ ชวลิต ยงใจยุทธ ในวัย 83 พลานุภาพ ความคิด


กรองกระแส/มติชนสุดสัปดาห์ 
ฉบับวันที่ 8-14 พฤษภาคม 2558)

ฐานการทหาร
ฐานการเมือง


ทําไมทุกครั้งที่มีการขยับขับเคลื่อนจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จึงก่อให้เกิดผลสะเทือนในเชิงปฏิกิริยาสะท้อนตามมาเหมือนกับระลอกคลื่นในมหาสาคร

อาจเป็นเพราะ 1 นามของคน เงาแห่งไม้

ขณะเดียวกัน อาจเป็นเพราะ 1 เพราะสถานภาพแต่กาลอดีตของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แสดงให้เห็น "เครือข่าย" อันเป็นความสัมพันธ์ค่อนข้างสลับซับซ้อน

ทั้งความสัมพันธ์ทาง "ทหาร" ทั้งความสัมพันธ์ทาง "การเมือง"

"คอนเน็กชั่น" หรือที่เรียกว่า "เครือข่าย" แห่งความสัมพันธ์ต่างหากที่ทำให้แม้วัยจะเหยียบเข้าสู่เลข 83 แล้วก็ยังน่าเกรงขาม

มิอาจสบประมาท มิอาจมองข้ามได้

จากเครือข่ายทางด้าน "การทหาร" ทำให้รากฐานของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หนักแน่นดุจแผ่นผา ไม่เพียงในฐานะ "ลูกป๋า" ทำงานสนองให้กับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ตั้งแต่ยังเป็น ผบ.ทบ. กระทั่งสไลด์เข้าดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนเมษายน 2523

หากยิ่งกว่านั้นตัว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ยังเดินตามรอย "ป๋า" ทั้งในฐานะ ผบ.ทบ. และ ผบ.ทหารสูงสุด และที่สุดก็ "นายกรัฐมนตรี" ในเดือนพฤศจิกายน 2539

นี่ย่อมเป็น "รากฐาน" อันมากด้วยความมั่นคงและ "แข็งแกร่ง"

อย่าดูหมิ่น "ป๋า" 

อย่าดูหมิ่น "ลูกจิ๋ว"

คล้ายกับการทะยานเข้ามาของ คสช. และของรัฐบาลปัจจุบันไม่มีอะไรยึดโยงอยู่กับอำนาจและบารมีของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์

เพราะล้วนเป็น "บูรพาพยัคฆ์"

เติบใหญ่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 เป็นเหล่าทหารราบ มิได้เติบใหญ่ในกองทัพภาคที่ 2 และมิได้เป็นเหล่าทหารม้า

ทั้งยังองอาจ สง่างามภายใต้ร่มธงแห่ง "ทหารเสือราชินี"

แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่า การเคลื่อนไหวของ กปปส. ผ่านกระบวนการ "ชัตดาวน์" กทม. ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 รากฐานสำคัญมาจากพรรคประชาธิปัตย์ รากฐานอันแน่นหนามาจากพื้นที่ภาคใต้

นี่คือปัจจัยในการ "ปูทาง" และสร้าง "เงื่อนไข" ทางการเมือง

ยิ่งกว่านั้น เมื่อมีการสถาปนา "แม่น้ำ 5 สาย" ขึ้น ไม่ว่าแม่น้ำสายที่ 1 คสช. แม่น้ำสายที่ 2 รัฐบาล แม่น้ำสายที่ 3 สนช. แม่น้ำสายที่ 4 สปช. แม่น้ำสายที่ 5 กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็มีเครือข่าย "ลูกป๋า" เข้าไปมีบทบาทร่วมด้วย

หากไม่มีบทบาท ไฉนสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 จึงยังค้างเติ่งอยู่เล่า

หากไม่มีบทบาท ไฉนทุกคราที่มีวาระสำคัญก็จำเป็นต้องมีการตบเท้าเข้าไปแสดงความคารวะอย่างเป็นประจำ

อย่าลืมว่า "ลูกจิ๋ว" ก็เป็น "ลูกป๋า" อย่างยาวนานยิ่งกว่าใครไหนอื่น

รากฐานการทหาร

ฝอ.3 ฝ่ายยุทธการ

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เติบใหญ่ในฐานะนายทหาร "ปฏิบัติการพิเศษ" ทำงานด้านการข่าว ทำงานด้านยุทธการ แม้จะสังกัดเหล่า "ทหารสื่อสาร"

สมญานามแห่ง "ขงเบ้ง" แห่งกองทัพบก มิใช่จับสลากได้

งานด้านหลักของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ คือการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ ไม่ว่าในต่างแดน ไม่ว่าระหว่างชายแดน ไม่ว่าในเขตแทรกซึม

ผลึกแห่งความคิด 1 คือ การเสนอให้จัดตั้ง "ทหารพราน"

ผลึกแห่งความคิด 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างมากก็คือ หลักการ "การเมืองนำการทหาร" อันปรากฏผ่านคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523

นำไปสู่การวางอาวุธ นำไปสู่การยุติ "สงครามกลางเมือง"

ตรงนี้เองจึงทะยานจาก นายทหารคนสนิทรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ไปสู่ตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก รองเสนาธิการทหารบก เสนาธิการทหารบก ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

จากนั้นอำลากองทัพเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้ง รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ในที่สุดก็ "นายกรัฐมนตรี"

เป็นนายกรัฐมนตรีภายหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2539 ในฐานะหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ซึ่งได้ชัยชนะจากการเลือกตั้งของประชาชน

วัย 83 อันสุกงอม

ดินระเบิด ลูกจิ๋ว

เหตุปัจจัยอันใดทำให้อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ต้องออกมาเดินสายทั้งๆ ที่มีอายุย่างเข้าปีที่ 83

เดินสายไปร่วมงานบุญกับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย

เดินสายไปพบปะรับเรื่องราวร้องทุกข์จากเกษตรกรชาวนาผู้ประสบปัญหาในอาชีพในการดำรงชีวิต

รับรู้ความขัดแย้งทางความคิด รับรู้การแตกแยกในทางการเมือง

คำตอบจาก พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เด่นชัดและตรงไปตรงมาว่า เพราะห่วงใยและเห็นใจในชะตากรรมของชาวบ้าน

ไม่ว่าจะเรียกว่า "ราษฎร" ไม่ว่าจะเรียกว่า "พลเมือง"