วันศุกร์, กรกฎาคม 05, 2567

ตอนนี้กระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องรถอีวีของจีนใช้กลยุทธ์การตลาดแบบดั๊มพ์ราคาแบบไม่เกรงใจลูกค้าเก่าค่อนข้างแรงทีเดียว - วันนี้คงต้องเตือนรัฐบาลว่าอย่าเพิ่งดีใจกับการเข้ามาลงทุนของจีนมากเกินไป อย่าคิดแต่ด้านบวก ให้คิดในมุมลบด้วย


ภาพจาก บีบีซีไทย
.....
หนุ่มเมืองจันท์
16 hours ago
·
ตอนนี้กระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องรถอีวีของจีนใช้กลยุทธ์การตลาดแบบดั๊มพ์ราคาแบบไม่เกรงใจลูกค้าเก่าค่อนข้างแรงทีเดียว
คนที่แรงที่สุด คือ “ลูกค้าเก่า” ที่ซื้อไป
เพราะเพียงไม่กี่เดือน ราคารถที่เราซื้อมาลดไป 300,000 บาท
ผ่อนทุกเดือนในราคาเดิม แต่มูลค่าสินทรัพย์ที่ผ่อนลดลง
มันเจ็บใจนะครับ
เรื่องรถยนต์ลดราคานั้น คนที่เป็นผู้บริโภคชอบอยู่แล้ว
แต่ต้องมีศิลปะในการลดราคาเพื่อรักษาน้ำใจของลูกค้าเก่า
สมัยก่อนจะเล่นเรื่อง “ของแถม” หรือประกันฟรี
แรงหน่อยก็ทำเป็นมีเงื่อนไขนิดนึงเพื่อคืนส่วนลดเงินสด
ไม่ใช่ลดกันตูมตามแบบนี้
ผมว่าวันนี้ภาคธุรกิจและกระแสสังคมเริ่มกลัวการรุกคืบของ “ทุนจีน” มาก
เพราะวิธีคิดในการทำธุรกิจของจีนนั้นแตกต่างจากญี่ปุ่นหรือประเทศแถบยุโรปที่เราคุ้นเคย
ประเทศอื่นเขากินแบ่ง
ทำอะไรค่อยเป็นค่อยไป
แต่ทุนจีนนั้นทำธุรกิจครบวงจร กินรวบตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ
อย่างที่เมืองจันท์ ตอนนี้ล้งจีนเต็มไปหมด
และมีบางคนเริ่มรุกสู่ “ต้นน้ำ” ด้วยการซื้อสวนทุเรียนผ่านนอมินี
ถ้ารัฐบาลเปิดกว้างให้เช่าที่ดิน 99 ปีได้โดยไม่จำกัดว่าเป็นที่ดินประเภทใด
รับรองสวนทุเรียนเปลี่ยนมือแน่
หรืออย่างทัวร์จีนก็เช่นกัน
ผมเคยหลงเข้าไปโรงแรมขนาดใหญ่ที่รับนักท่องเที่ยวจีนแถวลาดกระบังครั้งหนึ่ง
จะแวบไปเขียนต้นฉบับในล็อบบี้โรงแรม
เดินเข้าไป พนักงานตกใจเลย เพราะไม่คิดว่าจะมีลูกค้าวอล์กอินเข้ามา
ทุกคนพูดภาษาจีน มีบางคนพูดภาษาไทยได้นิดหน่อย
โรงแรมนี้เป็นของทุนจีนครับ
ไม่แปลกที่สมาคมโรงแรมฯจะออกมาคัดค้านเรื่องสัดส่วนต่างชาติในการซื้อคอนโดมิเนียมที่จะขยายจาก 49%เป็น 75%
เพราะเขากลัวว่าจีนจะมาซื้อทั้งตึกและปล่อยเช่านักท่องเที่ยวแข่งกับโรงแรม
ถามว่าเป็นไปได้ไหม
ตอบได้เลยครับว่าเป็นไปได้
หรือธุรกิจรถยนต์อีวีก็เช่นกัน มีคนในแวดวงบอกว่าอะไรที่ขนมาจากเมืองจีนได้ เขาขนมา
ป้ายหน้าโชว์รูมของบางค่ายยังสั่งทำจากเมืองจีนเลยครับ
ไม่แปลกที่กระแสกลัวทุนจีนตอนนี้เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ
มองอีกมุมหนึ่งบางทีนักลงทุนจีนเขาไม่ได้ตั้งใจ
แต่เป็น ”ความเคยชิน“
เนื่องจากประเทศของเขาใหญ่มาก เวลากินคำนึงจะกินคำใหญ่มาก
บังเอิญประเทศไทยมันเล็กไปเท่านั้นเอง
นอกจากนั้นการคิดแบบ “ยักษ์ใหญ่”
เป้าหมายของเขาจะใหญ่มาก
และเดินเกมรุกแบบ Aggressive
ผู้บริหารโชว์รูม BYD คนหนึ่งเคยเล่าให้ผมฟังว่าผู้บริหารจีนของ BYD บอกว่าอีก 2 ปี เขาต้องชนะ TOYOTA
เขาไม่ได้มองค่ายญี่ปุ่นค่ายอื่นเลย
ไม่รู้ว่ากลยุทธ์การดั๊มพ์ราคาอย่างต่อเนื่องครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนขึ้นสู่เบอร์ 1 ในเมืองไทยหรือเปล่า
ผมไม่ได้ต่อต้านการลงทุนของจีน ไม่ได้คัดค้านการเข้ามาของรถอีวีค่ายจีน ไม่ได้เกลียดนักท่องเที่ยวจีน
ผมไม่ได้คิดแบบคนคลั่งชาติ หรือชาตินิยมแบบหัวปักหัวปรำ
ยังชื่นชมความสามารถในหลายเรื่องของคนจีน
แต่เห็นการไหลบ่าเข้ามาของทุนจีนในสไตล์ที่เขาคุ้นชิน
กลัวว่าไทยจะตั้งรับไม่ทัน
วันนี้คงต้องเตือนรัฐบาลว่าอย่าเพิ่งดีใจกับการเข้ามาลงทุนของจีนมากเกินไป
อย่าคิดแต่ด้านบวก
ให้คิดในมุมลบด้วย
เพราะตอนนี้ภาคธุรกิจของคนไทยกำลังมีปัญหาหนักมากจากการทุ่มตลาดของจีน
บางโรงงานต้องปิดกิจการไปเพราะเรื่องนี้เลย
ลองคิดดีๆว่าบางทีการกระตุ้นเศรษฐกิจง่ายๆอีกรูปแบบหนึ่ง
คือ การตั้งกำแพงไม่ให้สินค้าจีนทุ่มตลาดหรือสร้างกติกาให้การลงทุนจากจีนเผื่อแผ่ไปถึงธุรกิจต่อเนื่องของคนไทยบ้าง
รักษา“กำลังซื้อ” ของคนไทยที่มีอยู่จำกัดให้ซื้อสินค้าที่ผลิตในเมืองไทยบ้าง
ไม่ใช่เงินไหลออกไปจีนหมด
ถือเป็นการต่อลมหายใจให้ภาคการผลิตหรือการค้าขายของคนไทย
ไม่เช่นนั้นอาจหมดลมหายใจก่อนที่จะเห็น “ดิจิทัลวอลเล็ต”