วันเสาร์, ตุลาคม 07, 2566

ยังไม่เห็นเหตุผล ‘ที่ฟังได้’ ต่อการดึงดันเดินต่อนโยบายแจกเงินดิจิทัล ๑ หมื่นบาท ขณะที่ “บ่ายนี้หุ้นก็ร่วงต่อ ลบไปอีก ๑๖ จุด ลงไปรวม ๑๕๐ จุดแล้ว”

ยังไม่เห็น รมว.คลัง หรือที่ปรึกษาการเงินการคลังของนายกฯ คนไหนออกมาให้เหตุผล ที่ฟังได้ ต่อการดึงดันเดินต่อนโยบายแจกเงินดิจิทัล ๑ หมื่นบาท หลังจากนักเศรษฐศาสตร์ ๙๙ คน รวมทั้งอดีตผู้ว่าแบ๊งค์ชาติลงชื่อคัดค้าน

เห็นมีแต่ E และ I bags ยื่นหน้าแก้ต่างให้กัน รายหนึ่งว่า “ดิจิตอล วอลเล็ต 10,000 บาท ถ้าไม่อยากใช้ก็แค่ไม่ใช้ค่ะ ครบ 6 เดือนมันก็แค่กลายเป็นความว่างเปล่า ระบบมันเป็นแบบนั้น จะไม่ใช้ตำรวจก็ไม่จับนะคะอี่ผี” ใช้ตรรกะเหตุผลแบบนี้ อึ่งไข่แน่ๆ

อีกรายว่า “เรายืนยันจะเดินหน้าโครงการ #ดิจิทัลวอลเล็ต ต่อ เพราะการลงทุนครั้งนี้ไม่ใช่แค่การกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการใช้จ่ายและลงทุน แต่ (ถ้าเม็ดเงินมากพอ) จะสร้างแรงจูงใจ ให้คนทุกคนเข้ามาใช้โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจใหม่อันนี้”

ก็ฝันเฟื่องอย่างเดียวกับคนคิดโครงการ ไม่มีฐานความจริงรองรับ มิน่าชาวบ้านถึงได้ซุบซิบนินทากันว่า เงินทุนดิจิทัลที่อยู่ในพกในห่อของเจ้าสัวเพื่อไทยนั่นละ จะเป็นสารตั้งต้นสำคัญ ถ้าปั่นขึ้นก็จะได้ทั้งเงินทั้งกล่อง ไม่งั้นแค่ว่างเปล่าอย่างนางอึ่งว่า

แทนที่จะเงี่ยฟังความเห็นข้างนอกพรรค ผู้ว่าแบ๊งค์ชาติคนปัจจุบันบอกแล้ว เศรษฐกิจกำลังไปได้ดี ค่อยๆ โตอย่างต่อเนื่อง อย่าเอาอะไรมากระตุก มันจะไม่กระตุ้นแต่จะฉุดให้หยุดชงักอีก ก็ยังทำอวดดีเหมือนมีอะไรแฝงต้องทำให้ได้ เหมือน ทร.ซื้อเรือดำน้ำไร้เครื่อง

ลองมาดูความเห็นอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยรายหนึ่ง ซึ่งทักท้วงโครงการนี้แต่ต้น “ถึงเวลาใกล้เลือกตั้งรอบหน้า เศรษฐกิจที่โดนกระตุ้นด้วยยาโด๊บเงินดิจิตัลก็คงหมดพลังลงพอดี” ขณะที่โครงการอื่นๆ ที่ดีกว่าต้องถูกตัดหน้า

“โจทย์ในวันนี้น่าจะเป็นว่าจะช่วยกันหาทางลงให้กับนโยบายที่หาเสียงไว้แล้วแต่ไม่ควรทำได้อย่างไร มากกว่าที่จะเดินหน้าต่อทั้งที่รู้ว่าจะสร้างปัญหาตามมาอีกมากมาย” วิรไท สันติประภพ เขียนคอมเม้นต์โพสต์บัญชีเฟชบุ๊ครายหนึ่ง

Nat Luengnaruemitchai ระบุว่า “บริษัทผู้ประเมิน credit rating รายใหญ่ ทั้งสามเจ้าอย่าง S&P, Moody และ Fitch จึงออกมาพร้อมหน้าพร้อมตาเตือน และพร้อมที่จะลด credit rating หากใช้นโยบายทางการคลังที่ไม่เหมาะสม”

และ “ดังนั้น นักลงทุนจึงเทขายพันธบัตรรัฐบาลไทยอย่างหนักจน yield ขึ้นมากว่า 70 basis point...แล้ว เพียงระยะเวลาเพียงเดือนเศษ จนมาอยู่ในระดับเดียวกันกับเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว” สอดคล้องกับทวี้ตของ @SleeplessBKK

“หลังนักวิชาการออกจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องให้เศรษฐายกเลิกการแจกเงินเพื่อรักษาหน้า บ่ายนี้หุ้นก็ร่วงต่อ ลบไปอีก 16 จุด ลงไปรวม 150 จุดแล้ว ดูทรงแล้วน่าจะไหลลงไป 1,200-1,300 แหงๆ”

(https://www.facebook.com/nat.lueng//pfbid02NV6opappYajum, https://www.facebook.com/veerathai.santiprabhob//pvKMAngQl และ https://twitter.com/SleeplessBKK/status/1710486393624178694)