
The101.world
14h
·
[อ่านใหม่] ‘การเมืองเดือนตุลา’ ในวาระ 6 ตุลา กับบทสัมภาษณ์จาก ธิกานต์ ศรีนารา อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยช่วงเวลาที่ทอดยาวหลังจากการล้อมปราบสังหารหมู่นักศึกษา และ มรดกจากยุค ‘หลัง 6 ตุลาฯ’ ที่ยังประจักษ์ชัดอยู่ในการเมืองไทย
.
อ่านบทสัมภาษณ์ได้ที่ : https://www.the101.world/thikan-srinara-interview/
.
“ต้องไม่ลืมว่าตัวละครในเวทีการเมืองไทยไม่ได้มีเพียงชนชั้นนำ ชนชั้นกลาง หรือนักศึกษาเท่านั้น หากแต่ยังมีประชาชนธรรมดาเข้ามาแสดงบทบาทในรูปของการเข้าร่วมขบวนการปฏิวัติชาวนา ถ้าไปดูหนังสือบันทึก ก็จะเห็นว่ามีการรวบรวมข้อมูลผู้เสียชีวิตจากการปราบ ซึ่งหลายร้อยหลายพันชีวิตมีแต่ชาวนาหรือกรรมกรทั้งนั้น นักศึกษาก็มีมาก”
.
“ในช่วงเวลาตั้งแต่ทศวรรษที่ 2490 ต่อเนื่องมายังทศวรรษที่ 2520 นับว่าปรากฏการวิพากษ์สังคมที่โดดเด่นมากที่สุดในยุคหนึ่ง แม้แต่กระแสแบบคณะราษฎรยังเป็นเพียงกระแสเล็กๆ เมื่อเทียบกับขบวนการฝ่ายซ้ายแบบ พคท. ซึ่งรวมถึงขบวนการปัญญาชนฝ่ายซ้ายในเมืองก่อนเข้าป่าด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อเขียนของนายผี อัศนี พลจันทร อุดม สีสุวรรณ เปลื้อง วรรณศรี จิตร ภูมิศักดิ์ และคนอื่นๆ ที่ตีพิมพ์ในอักษรสาส์น รวมถึงสิ่งพิมพ์ของพรรคอย่าง มหาชน และ ปิตุภมิ รวมทั้งนักศึกษาหลัง 14 ตุลาด้วยต่างพยายามจะบอกว่า ขุนศึก ศักดินา พญาอินทรีกำลังพยายามครอบงำประเทศคุณอยู่ อาจจะเรียกว่าเป็นความตาสว่างในยุคนั้นก็ได้”
.
“หลังจากป่าแตก สหายบางคนกลายเป็นฝ่ายขวาเพราะอุดมการณ์กษัตริย์นิยมเติบโตและพระราชอำนาจเพิ่มพูนขึ้นในจังหวะเดียวกับที่ออกมาจากป่า ... บางคนยึดอุดมการณ์การพัฒนา อุดมการณ์แบบ พคท. ที่ชูธงสังคมที่มีความพอเพียงอยู่ดีมีสุขไปสอดรับกับอุดมการณ์เศรษฐกิจพอเพียงของสถาบันกษัตริย์ ... การเติบโตของทุนนิยมและการเมืองประชาธิปไตยแบบรัฐสภาตั้งแต่ช่วงพฤษภาฯ 2535 ได้เปลี่ยนการเมืองประชาธิปไตยและระบบรัฐสภากลายเป็นสัญลักษณ์ของนายทุนโลก”
·
[อ่านใหม่] ‘การเมืองเดือนตุลา’ ในวาระ 6 ตุลา กับบทสัมภาษณ์จาก ธิกานต์ ศรีนารา อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยช่วงเวลาที่ทอดยาวหลังจากการล้อมปราบสังหารหมู่นักศึกษา และ มรดกจากยุค ‘หลัง 6 ตุลาฯ’ ที่ยังประจักษ์ชัดอยู่ในการเมืองไทย
.
อ่านบทสัมภาษณ์ได้ที่ : https://www.the101.world/thikan-srinara-interview/
.
“ต้องไม่ลืมว่าตัวละครในเวทีการเมืองไทยไม่ได้มีเพียงชนชั้นนำ ชนชั้นกลาง หรือนักศึกษาเท่านั้น หากแต่ยังมีประชาชนธรรมดาเข้ามาแสดงบทบาทในรูปของการเข้าร่วมขบวนการปฏิวัติชาวนา ถ้าไปดูหนังสือบันทึก ก็จะเห็นว่ามีการรวบรวมข้อมูลผู้เสียชีวิตจากการปราบ ซึ่งหลายร้อยหลายพันชีวิตมีแต่ชาวนาหรือกรรมกรทั้งนั้น นักศึกษาก็มีมาก”
.
“ในช่วงเวลาตั้งแต่ทศวรรษที่ 2490 ต่อเนื่องมายังทศวรรษที่ 2520 นับว่าปรากฏการวิพากษ์สังคมที่โดดเด่นมากที่สุดในยุคหนึ่ง แม้แต่กระแสแบบคณะราษฎรยังเป็นเพียงกระแสเล็กๆ เมื่อเทียบกับขบวนการฝ่ายซ้ายแบบ พคท. ซึ่งรวมถึงขบวนการปัญญาชนฝ่ายซ้ายในเมืองก่อนเข้าป่าด้วย ไม่ว่าจะเป็นข้อเขียนของนายผี อัศนี พลจันทร อุดม สีสุวรรณ เปลื้อง วรรณศรี จิตร ภูมิศักดิ์ และคนอื่นๆ ที่ตีพิมพ์ในอักษรสาส์น รวมถึงสิ่งพิมพ์ของพรรคอย่าง มหาชน และ ปิตุภมิ รวมทั้งนักศึกษาหลัง 14 ตุลาด้วยต่างพยายามจะบอกว่า ขุนศึก ศักดินา พญาอินทรีกำลังพยายามครอบงำประเทศคุณอยู่ อาจจะเรียกว่าเป็นความตาสว่างในยุคนั้นก็ได้”
.
“หลังจากป่าแตก สหายบางคนกลายเป็นฝ่ายขวาเพราะอุดมการณ์กษัตริย์นิยมเติบโตและพระราชอำนาจเพิ่มพูนขึ้นในจังหวะเดียวกับที่ออกมาจากป่า ... บางคนยึดอุดมการณ์การพัฒนา อุดมการณ์แบบ พคท. ที่ชูธงสังคมที่มีความพอเพียงอยู่ดีมีสุขไปสอดรับกับอุดมการณ์เศรษฐกิจพอเพียงของสถาบันกษัตริย์ ... การเติบโตของทุนนิยมและการเมืองประชาธิปไตยแบบรัฐสภาตั้งแต่ช่วงพฤษภาฯ 2535 ได้เปลี่ยนการเมืองประชาธิปไตยและระบบรัฐสภากลายเป็นสัญลักษณ์ของนายทุนโลก”