สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
14h
·
‘บก.ลายจุด’ เชื่อ ‘ทักษิณ’ กลับไทยจริง และตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ชี้ ถ้ากลับบ้านได้ น่าจะเป็นดีลชง ‘บิ๊กป้อม’ นั่งนายกฯ แลกเงื่อนไขพิเศษ บอกถ้าเป็นจริง เกิดม็อบใหญ่ยกระดับแน่
วันที่ 20 ส.ค.2566 นายสมบัติ บุญงามอนงค์หรือ “บก.ลายจุด” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กล่าวถึง การเดินทางกลับไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเชื่อว่า การจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว กับการเดินทางกลับบ้านของนานทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องเดียวกัน และ เกี่ยวพันกัน เป็นเรื่องทางเทคนิค ที่กลับมาพร้อมกับวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
นายสมบัติกล่าวว่า เมื่อกลับมาถึงนายทักษิณจะต้องเดินทางไปที่จุดควบคุมตัว ดังนั้นสถานะทางการเมือง หลังจากนั้นจะได้เห็นสิ่งที่ได้มีการตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อแลกกับการกลับมาของนายทักษิณ พร้อมข้อเสนอพิเศษที่นายทักษิณจะได้รับ ซึ่งสังคมเข้าใจว่าในวันที่ 22 ส.ค.จะมีการโหวตชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แต่การกลับมาของนายทักษิณทำให้เกิดความสงสัย โดยตนเองก็สงสัยว่าทำไมถึงไม่กลับมา หลัง 1 วัน
ตนมีความกังวลอยู่บ้างว่า การโหวตชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะไม่ผ่าน และชื่อต่อไปก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย แต่เชื่อว่าจะเป็นชื่อของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ โดยอาศัยกรณีที่นายทักษิณเข้าสู่กระบวนการควบคุมตัวเป็นการต่อรอง ซึ่งถือว่ามีความเป็นไปได้ และน่าจะมีดีลนี้อยู่หรือไม่
นานสมบัติกล่าวว่า การเลื่อนกลับรอบแรกเมื่อวันที่ 10 ส.ค. และอ้างว่าไปตรวจสุขภาพ น่าจะเป็นเรื่องของการต่อรองทางการเมือง ส่วนวันที่ 22 ส.ค. จะเดินทางกลับมาหรือไม่นั้นก็มีโอกาสความเป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี เพราะที่ผ่านมาก็เคยประกาศกลับมา 20 กว่าครั้ง แต่ส่วนตัวก็เชื่อว่าจะกลับมา และมองว่านายทักษิณเป็นเหยื่อทางการเมือง ที่ควรได้รับโอกาสเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และไม่มีปัญหาที่นายทักษิณจะกลับ เพียงแต่การกลับมาและแลกกับการจัดตั้งรัฐบาล เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามถึงโอกาสในการ ‘ดีล’ กลับบ้านเพื่อแลกกับพลเอกประวิตรเป็นนายกฯ นั้น นายสมบัติกล่าวว่า ถ้ามีการเสนอเงื่อนไขนี้ มองว่า เงื่อนไขดังกล่าว น่าจะทำให้พรรคเพื่อไทยยอม และเป็นเหตุผลที่ส่วนตัวเห็นว่า ทำไมนายทักษิณถึงไม่กลับมา ก่อนหรือหลัง มองเป็นความผิดปกติที่กลับมาวันเดียวกัน แต่อาจจะมีเหตุผลที่เข้าใจไม่ได้ และอาจทำให้การยกมือเลือกนายเศรษฐาผ่านพ้นไปได้ แต่ชั่วโมงนี้ไม่มั่นใจอะไรสักอย่าง
“การจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้ซับซ้อนคลุมเครือ มีหลายกลุ่ม และไม่รู้เลยว่า เมื่อถึงวินาทีนั้นแล้ว การต่อรองจะเป็นอย่างไร แต่มองอำนาจต่อรองของพรรคเพื่อไทยลดลงมาก หากต่อรองกันถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไปแลกกับการกลับบ้าน
ส่วนการเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกจากนายเศรษฐาเป็นคนอื่น มันก็คิดได้ แต่จะเป็นหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
เมืีอถามว่า ถ้านายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ชื่อของพลเอกประวิตรจริง จะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายสมบัติ กล่าวว่า ถ้าพลเอกประวิตรเป็นนายกฯ จะกลายเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ถ้าออกมาแบบนั้น โอกาสที่จะเกิดการชุมนุมหรือเกิดม็อบมีสูงมาก จึงเป็นเหตุผลที่คิดว่า พลเอกประวิตรจะทำทำไม เมื่อเข้าสู่อำนาจได้ แต่ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก เป็นเรื่องที่ตนสงสัยว่าเหตุผลมันย้อนแย้งกันไปมา
“ถ้ามีพลเอกประวิตรเป็นนายกฯจริง มั่นใจจะมีคนที่มีศักยภาพมากกว่าตนเองในการนำชุมนุม แต่จะมาร่วมชุมนุมด้วย และเชื่อว่าจะเป็นการชุมนุมใหญ่แบบยกระดับแน่นอน”
‘บก.ลายจุด’ เชื่อ ‘ทักษิณ’ กลับไทยจริง และตกเป็นเหยื่อทางการเมือง ชี้ ถ้ากลับบ้านได้ น่าจะเป็นดีลชง ‘บิ๊กป้อม’ นั่งนายกฯ แลกเงื่อนไขพิเศษ บอกถ้าเป็นจริง เกิดม็อบใหญ่ยกระดับแน่
วันที่ 20 ส.ค.2566 นายสมบัติ บุญงามอนงค์หรือ “บก.ลายจุด” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กล่าวถึง การเดินทางกลับไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเชื่อว่า การจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว กับการเดินทางกลับบ้านของนานทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องเดียวกัน และ เกี่ยวพันกัน เป็นเรื่องทางเทคนิค ที่กลับมาพร้อมกับวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
นายสมบัติกล่าวว่า เมื่อกลับมาถึงนายทักษิณจะต้องเดินทางไปที่จุดควบคุมตัว ดังนั้นสถานะทางการเมือง หลังจากนั้นจะได้เห็นสิ่งที่ได้มีการตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อแลกกับการกลับมาของนายทักษิณ พร้อมข้อเสนอพิเศษที่นายทักษิณจะได้รับ ซึ่งสังคมเข้าใจว่าในวันที่ 22 ส.ค.จะมีการโหวตชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย แต่การกลับมาของนายทักษิณทำให้เกิดความสงสัย โดยตนเองก็สงสัยว่าทำไมถึงไม่กลับมา หลัง 1 วัน
ตนมีความกังวลอยู่บ้างว่า การโหวตชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะไม่ผ่าน และชื่อต่อไปก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย แต่เชื่อว่าจะเป็นชื่อของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ โดยอาศัยกรณีที่นายทักษิณเข้าสู่กระบวนการควบคุมตัวเป็นการต่อรอง ซึ่งถือว่ามีความเป็นไปได้ และน่าจะมีดีลนี้อยู่หรือไม่
นานสมบัติกล่าวว่า การเลื่อนกลับรอบแรกเมื่อวันที่ 10 ส.ค. และอ้างว่าไปตรวจสุขภาพ น่าจะเป็นเรื่องของการต่อรองทางการเมือง ส่วนวันที่ 22 ส.ค. จะเดินทางกลับมาหรือไม่นั้นก็มีโอกาสความเป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี เพราะที่ผ่านมาก็เคยประกาศกลับมา 20 กว่าครั้ง แต่ส่วนตัวก็เชื่อว่าจะกลับมา และมองว่านายทักษิณเป็นเหยื่อทางการเมือง ที่ควรได้รับโอกาสเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และไม่มีปัญหาที่นายทักษิณจะกลับ เพียงแต่การกลับมาและแลกกับการจัดตั้งรัฐบาล เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อถามถึงโอกาสในการ ‘ดีล’ กลับบ้านเพื่อแลกกับพลเอกประวิตรเป็นนายกฯ นั้น นายสมบัติกล่าวว่า ถ้ามีการเสนอเงื่อนไขนี้ มองว่า เงื่อนไขดังกล่าว น่าจะทำให้พรรคเพื่อไทยยอม และเป็นเหตุผลที่ส่วนตัวเห็นว่า ทำไมนายทักษิณถึงไม่กลับมา ก่อนหรือหลัง มองเป็นความผิดปกติที่กลับมาวันเดียวกัน แต่อาจจะมีเหตุผลที่เข้าใจไม่ได้ และอาจทำให้การยกมือเลือกนายเศรษฐาผ่านพ้นไปได้ แต่ชั่วโมงนี้ไม่มั่นใจอะไรสักอย่าง
“การจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้ซับซ้อนคลุมเครือ มีหลายกลุ่ม และไม่รู้เลยว่า เมื่อถึงวินาทีนั้นแล้ว การต่อรองจะเป็นอย่างไร แต่มองอำนาจต่อรองของพรรคเพื่อไทยลดลงมาก หากต่อรองกันถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ไปแลกกับการกลับบ้าน
ส่วนการเปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกจากนายเศรษฐาเป็นคนอื่น มันก็คิดได้ แต่จะเป็นหรือเปล่า ไม่แน่ใจ
เมืีอถามว่า ถ้านายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ชื่อของพลเอกประวิตรจริง จะเกิดความวุ่นวายหรือไม่ นายสมบัติ กล่าวว่า ถ้าพลเอกประวิตรเป็นนายกฯ จะกลายเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจ ถ้าออกมาแบบนั้น โอกาสที่จะเกิดการชุมนุมหรือเกิดม็อบมีสูงมาก จึงเป็นเหตุผลที่คิดว่า พลเอกประวิตรจะทำทำไม เมื่อเข้าสู่อำนาจได้ แต่ต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก เป็นเรื่องที่ตนสงสัยว่าเหตุผลมันย้อนแย้งกันไปมา
“ถ้ามีพลเอกประวิตรเป็นนายกฯจริง มั่นใจจะมีคนที่มีศักยภาพมากกว่าตนเองในการนำชุมนุม แต่จะมาร่วมชุมนุมด้วย และเชื่อว่าจะเป็นการชุมนุมใหญ่แบบยกระดับแน่นอน”