วันจันทร์, พฤษภาคม 15, 2566
ก้าวไกลคือคำตอบแห่งยุคสมัย
ชัยธวัช ตุลาธน - Chaithawat Tulathon
2d
·
[ ก้าวไกลคือคำตอบแห่งยุคสมัย ]
.
14 พฤษภาคมนี้...
คำตอบสุดท้าย ชัดเจน ตรงไปตรงมา
กาก้าวไกลทั้งแผ่นดิน
.
แต่ละยุคสมัย โจทย์การเมืองไทยย่อมแตกต่างกัน
.
ก่อนทศวรรษ 2540 การเมืองไทยเป็นแบบรัฐราชการ นายกเป็นเหมือนปลัดประเทศ บริหารประเทศตามที่ระบบราชการชงขึ้นมาเป็นหลัก พรรคการเมืองไม่มีการแข่งขันนโยบายจริงจัง รัฐบาลมักอ่อนแอ รัฐบาลผสมถูกมองเป็นบุฟเฟ่คาร์บิเนต เข้ามาแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรี แบ่งเค้ก แบ่งผลประโยชน์กันในเครือข่ายนักการเมือง ส่วนเรื่องรัฐประหารนั้น เราก็นึกเอาไปเองว่าทหารกลับเข้ากรมกองแล้วหลังเหตุการณ์พฤษภา 35
.
หลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง เรามีการปฏิรูปการเมืองฉบับธงเขียว เรามีรัฐธรรมนูญใหม่ในปี 2540 โดยมีเป้าหมายเพื่อ “ปิดทุจริต เปิดประสิทธิภาพ” สังคมไทยต้องการนายกรัฐมนตรีที่เข้มแข็ง มีความเป็นผู้นำ เราต้องการนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้นำเบอร์ 1 ของประเทศจริงๆ ไม่ใช่แค่ปลัดประเทศ เราออกแบบระบบเลือกตั้งให้เกิดการแข่งขันเชิงนโยบายมากขึ้น เรายังออกแบบองค์กรอิสระเต็มไปหมด หวังว่าองค์กรเหล่านี้จะมาทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจของนักการเมืองไม่ให้ฉ้อฉล
.
การเลือกตั้งครั้งแรกภายใต้ รธน 40 เราก็เกิดพรรคการเมืองน้องใหม่ที่เอาชนะถล่มทลายแบบหักปากกาเซียน ได้ด้วยการขายนโยบายจริงๆ เรามีนายกรัฐมนตรีจริงๆ และมีรัฐบาลที่เข้มแข็งขึ้นมาจริงๆ จนสามารถส่งมอบนโยบายที่หาเสียงไว้ได้อย่างน่าประทับใจ พรรครัฐบาลขณะนั้นจึงได้รับความนิยมจากประชาชนมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อำนาจการเมืองเริ่มย้ายมารวมศูนย์อยู่ที่อำนาจจากการเลือกตั้งผ่านสภาและรัฐบาล
.
แต่สุดท้าย เครือข่ายอำนาจเก่าที่ไม่ต้องการให้อำนาจจากการเลือกตั้งกลายเป็นอำนาจสูงสุดในประเทศนี้ เขาจึงเอาจุดอ่อนเรื่องคอรับชั่น เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน มาโค่นล้มรัฐบาล โดยชูคำขวัญ “เราจะสู้เพื่อในหลวง” จนจบเกมด้วยการรัฐประหารในปี 49
.
รัฐประหารไปครั้งแรก แต่ก็เสียของ เพราะหลังยอมให้กลับมามีการเลือกตั้งอีก กลุ่มการเมืองที่เคยถูกรัฐประหาร ดันชนะเลือกตั้งกลับมาอีก สุดท้ายเครือข่ายอำนาจเก่า จึงรัฐประหารซ้ำอีกรอบในปี 57
.
:
ถ้านึกภาพตามที่ผมเล่า จะเห็นได้ว่า โจทย์การเมืองของไทยมันได้เปลี่ยนไปจากเมื่อ 20 กว่าปีก่อนแล้ว
.
โจทย์การเมืองใหม่ที่เป็นใจกลางของยุคสมัยนี้ คือ อำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของใคร แล้วอำนาจทางการเมืองของประเทศนี้ รวมศูนย์อยู่ที่ไหน จะอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาลจากการเลือกตั้ง หรืออยู่ที่อำนาจกองทัพ องค์กรอิสระ ศาล รธน และเครือข่ายทุนใหญ่ที่แนบแน่นกับอำนาจตามจารีตประเพณี
.
แน่นอนครับ เรายังต้องการการเมืองที่แข่งขันกันเชิงนโยบายเพื่อตอบโจทย์ความกินดีอยู่ดีของพี่น้องประชาชน แต่การแข่งขันนโยบายเพื่อการกินดีอยู่ดีจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าเราไม่แก้โจทย์ของยุคสมัยใหม่ไปด้วย
.
:
นี่เป็นที่มาของการเมืองแบบอนาคตใหม่-ก้าวไกล
.
ทำไมอนาคตใหม่-ก้าวไกลถึงเกิดขึ้น ทำไมต้องมีพรรคการเมืองเพิ่มอีกหนึ่งพรรค ธนาธรและเพื่อนของเขา ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ เพื่อลงเลือกตั้งให้ได้ ส.ส. เยอะๆ เท่านั้นหรือ?
.
ไม่ใช่... เพราะเราต้องการสร้างพรรคการเมืองของประชาชน เพื่อสร้างผู้แทนราษฎรในความหมายที่ควรจะเป็นจริงๆ เพื่อผลักดันโครงการเปลี่ยนประเทศไทยผ่านระบบรัฐสภา ทำให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนอำนาจสูงสุดของประชาชน
.
พรรคก้าวไกลเกิดขึ้น เพราะการเมืองเดิม สนใจเรื่องการเอาชนะเลือกตั้ง เพื่อกลับมามีอำนาจเป็นหลัก จึงไม่มีโครงการเปลี่ยนประเทศไทยเพื่อสร้างประชาธิปไตยให้แข็งแรงจริงจังเลย การปฏิรูปกองทัพไม่เคยเกิดขึ้น คิดแต่จะเอาใจนายพล แล้วหวังให้นายพลเหล่านั้นใจดีกับเรา แต่สุดท้ายชาวนาก็ถูกงูเห่ากัดตายตอนจบซ้ำแล้วซ้ำเล่า
.
เราเกิดขึ้น เพราะการเมืองเดิม สนใจแต่จำนวน ส.ส. ในสภา เอาชนะเลือกตั้งถล่มทลายได้ แต่ไม่เคยเอาชนะความคิดในสังคมเลย รัฐบาลที่แม้จะชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย จึงไม่สามารถปกป้องอำนาจของประชาชนได้ ไม่สามารถผลักการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเมือง โครงสร้างเศรษฐกิจ และโครงสร้างสังคมได้
.
สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึงแล้ว
ก้าวไกลจึงเป็นคำตอบแห่งยุคสมัย
ทำงานการเมือง เพื่อเอาชนะทางความคิด
ทำงานทางความคิด เพื่อเอาชนะทางการเมืองในที่สุด
.
ก้าวไกลจึงไม่ใช่แค่พรรคการเมือง
แต่ก้าวไกลคือสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง
.
ก้าวไกลจึงไม่ใช่แค่พรรคการเมือง
แต่ก้าวไกลคือพลังใหม่ที่กำลังจะมาแทนที่พลังเก่า
.
ก้าวไกลจึงไม่ใช่แค่พรรคการเมือง
แต่ก้าวไกลคือโครงการเปลี่ยนประเทศไทย
.
ช่วงเวลานี้ 5-10 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุด เพราะพวกเรากำลังอยู่ในช่วงรอยต่อแห่งยุคสมัย
.
พวกเรากำลังอยู่ในช่วงรอยต่อแห่งยุคสมัย สังคมไทยกำลังเปลี่ยนจากยุคหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่ง แต่สังคมไทยยุคใหม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับว่า พลังกลุ่มไหนจะขึ้นมามีพลังเหนือกลุ่มอื่นๆ
.
ถ้าพลังที่ต้องการแช่แข็งประเทศไทยชนะ หน้าตาของสังคมไทยในอนาคตจะเป็นแบบหนึ่ง ถ้าพลังที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยชนะ หน้าตาของสังคมไทยในอนาคตก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง
.
การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญมากเป็นพิเศษ
14 พฤษภาคมนี้ จะเป็นวันชี้ชะตาอนาคตของประเทศไทย
.
พวกเราต้องช่วยกัน อย่าทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นสงครามครั้งสุดท้ายของใคร แต่ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
.
ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคสมัยใหม่
ด้วยการกาพรรคก้าวไกลทั้งสองใบ
.
14 พฤษภาคมนี้ กาก้าวไกลสองใบให้ถล่มทลาย ไม่ต้องกลัวว่าคะแนนจะตกน้ำ เพราะทุกคะแนนที่กาให้ก้าวไกล จะยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนแปลง แค่ลงคะแนนให้ก้าวไกลถล่มทลาย สังคมไทยก็เปลี่ยนไปแล้วทันที
.
14 พฤษภาคมนี้ วางความกลัวไว้ข้างหลัง เอาความหวังไว้ข้างหน้า เดินเข้าคูหา กาก้าวไกลทั้งแผ่นดิน เพื่อส่งพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
.
#ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน