วันอังคาร, พฤษภาคม 16, 2566

9 เหตุผล กาก้าวไกลกวาดที่นั่งกระจุย

.....
TODAY
1d
.
#explainer มหัศจรรย์พรรคก้าวไกล ณ ตอนนี้ ก็แน่นอนแล้วว่า จะได้คะแนนเสียงมากกว่าอดีตพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว จากการประเมินจนถึงเวลานี้ ทะลุ 100 เสียงแบบสบายๆ ถ้ารวมทั้งแบ่งเขตและปาร์ตี้ลิสต์
กรุงเทพมหานคร กวาดแลนด์สไลด์แทบยกจังหวัด รวมถึงอีกหลายๆ จังหวัดเช่นสมุทรปราการ ที่เคยเป็นกำแพงอันแข็งแกร่งของพลังประชารัฐมาตลอดก็โดนตีแตก ยังไม่นับภูเก็ตที่อยู่ในเขตภาคใต้ ฝั่งก้าวไกลก็สามารถสอดแทรกไปแย่ง ส.ส.เขตได้
ทำไม ก้าวไกล ถึงทำคะแนนพุ่งพรวดขนาดนี้ได้ จนมีลุ้นในการอยู่ขั้วรัฐบาลได้ด้วย นี่คือเหตุผล 9 ข้อสำคัญ
----------------------
1) แมสเซจชัดเจน "มีเราไม่มีลุง มีลุงไม่มีเรา"
ในขณะที่สังคมมีความสับสนในจุดยืนของพรรคเพื่อไทย ที่น่าจะได้คะแนนเสียงมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ว่าจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือไม่ เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ในช่วงแรกพรรคเพื่อไทยยังไม่ประกาศจุดยืนชัดเจน ในจังหวะนี้เอง พรรคก้าวไกลสื่อสารกับประชาชนได้ชัดเจนว่า จะไม่จับมือกับ พรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาโดยเด็ดขาด
ฝั่งก้าวไกลมองว่า พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นต้นเชื้อของเผด็จการ ดังนั้นจึงไม่สามารถร่วมงานได้ การที่ก้าวไกลชัดเจนแต่แรก ทำให้ประชาชนที่ไม่ชอบสองลุง แต่ยังลังเลว่าจะเลือกเพื่อไทย หรือก้าวไกล สามารถตัดสินใจได้ทันทีว่า งั้นเอาก้าวไกลไปเลยดีกว่า
----------------------
2) ผลงานพรรคก้าวไกลยอดเยี่ยมมากในฐานะฝ่ายค้าน
ตลอด 4 ปีที่พรรคก้าวไกลทำงานเป็นฝ่ายค้าน พวกเขาพิสูจน์ตัวเองรอบแล้ว รอบเล่า ว่าทำผลงานได้ดีมากๆ มากเสียจนทำให้ประชาชนทั่วไป กลับมาดูประชุมสภาอีกครั้ง
ศาสตราจารย์ ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ กล่าวชื่นชมพรรคก้าวไกลว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ทำงานในฐานะฝ่ายค้านได้ดีกว่าพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำมาในรอบ 30 ปีเสียอีก พรรคก้าวไกลจี้ปัญหาความหมักหมมของระบบทหารในประเทศไทย จนผู้คนเริ่มตั้งคำถามถึง การเกณฑ์ทหารว่าควรมีอยู่หรือไม่
ขนาดในบทบาทของฝ่ายค้านยังยอดเยี่ยม ถ้าหากได้เป็นฟากรัฐบาลบ้าง ก็น่าสนใจว่าพรรคก้าวไกลจะทำได้ดีแค่ไหน
----------------------
3) คนไทยต้องการความเปลี่ยนแปลง
ตลอด 8 ปีที่อยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประเทศไทยมีปัญหาอย่างรุนแรงในทุกๆ อย่าง สภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ,สภาพอากาศที่เลวร้าย PM 2.5 แก้ไขไม่ได้ รวมถึงปัญหาความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นจากองค์กรอิสระต่างๆ ดังนั้น คนไทยต้องการเปลี่ยนแปลงไปสู่อะไรบางอย่าง
ถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ฝั่งขวาสุดทางการเมือง เป็นอนุรักษ์นิยมเต็มตัว แล้วมันไม่เวิร์ก การตัดสินใจเลือกฝั่งหัวก้าวหน้าอย่างพรรคก้าวไกล ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และที่สำคัญพรรคก้าวไกล ยังไม่เคยทำงานเป็นรัฐบาล การให้คนรุ่นใหม่ได้ทำงานการเมืองดูสักครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
----------------------
4) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์
คาแรคเตอร์ของผู้นำพรรค เป็นจุดสำคัญมากในการดึงดูดคะแนนเสียงของผู้โหวต พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เรียนจบปริญญาโท จากสองมหาวิทยาลัยระดับโลก MIT และฮาร์วาร์ด เป็นบุคลากรทรงคุณค่าของประเทศนี้
พิธาตอบคำถามได้ชัดเจนทุกครั้งที่ไปดีเบท รวมถึงเรียกมวลชนได้คับคั่งทุกครั้งที่ทำการปราศรัย นับวันเขายิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
เขามีบุคลิกของความเป็นแฟมิลี่แมน คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ทำงานหนักเพื่อดูแลลูกสาว นอกจากนั้นยังเข้าถึงง่าย สนใจในสิ่งทั่วๆไป เช่นเล่นกีตาร์ ฟังเพลง ดูเป็นคนปกติที่คนทั่วไปจับต้องได้
แต่ในความปกตินั้น พิธาก็มีความสามารถที่โดดเด่นพอ ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยได้ ผู้โหวตจำนวนมาก ต้องการผลักดันให้พิธาไปถึงนายกฯ แต่มันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงน้อยเกินไป นั่นจึงเป็นเหตุผลอีกข้อที่ทำให้การระดมโหวตเพื่อก้าวไกลเกิดขึ้น
----------------------
5) เอาชนะใจโซเชียลมีเดียได้สำเร็จ
ด้วยนโยบาย และคาแรคเตอร์ของพรรคที่ชัดเจน ทำให้พรรคก้าวไกลเอาชนะใจโซเชียลมีเดีย และอินฟลูเอนเซอร์ในทุกๆ วงการได้สำเร็จ จึงเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า "หัวคะแนนธรรมชาติ" มีการตัดต่อคลิปติ๊กตอก โปรโมทพรรคให้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินจ้างเลย
เพจต่างๆ ใส่ลูกเล่น "31" ในคืนก่อนเลือกตั้ง ขณะที่อินฟลูเอนเซอร์แต่ละคน ก็ภูมิใจที่ได้สนับสนุนพรรคก้าวไกล ซึ่งเมื่อโซเชียลมีเดียกระจายคอนเทนต์ช่วยก้าวไกลแบบนี้ ผู้คนก็ได้รับรู้ และรู้จักพรรคก้าวไกลไปโดยปริยาย
พรรคก้าวไกล สร้างอิมแพ็กต์ได้อย่างมากในโซเชียลมีเดีย ในการปราศรัยครั้งสุดท้าย วันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม โดยมีคนดูรวมทุกช่องทางมากกว่า 2 แสนคนพร้อมกัน และไม่แปลกที่ผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นแบบนี้
----------------------
6) มีทรัพยากรที่แข็งแกร่งจำนวนมากในการหาเสียง
พรรคก้าวไกล เป็นเพียงไม่กี่พรรคเท่านั้น ที่สามารถกระจายไปหาเสียงได้ 3 หรือ 5 จังหวัดพร้อมกัน เพราะมีบุคลากรที่เก่งกาจมากมายหลายคน
ไม่ใช่แค่พิธาเท่านั้น แต่คนอื่นๆ เช่น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, พรรณิการ์ วานิช หรือ ปิยบุตร กนกแสงสกุล สามคนที่โดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่ก็ยังช่วยพรรคอย่างแข็งขัน รวมไปถึงคนอื่นๆ ในกลุ่มปาร์ตี้ลิสต์ ทั้งวิโรจน์ ลักขณะอดิศร, ไอติม-พริษฐ์ วัชรสินธุ, ศิริกัญญา ตันสกุล, รังสิมันต์ โรม, กรุณพล เทียนสุวรรณ ฯลฯ
พรรคก้าวไกลมี Speaker ชั้นยอดจำนวนมาก และแต่ละคนสามารถพูดได้ดี กระตุ้นคนฟังได้ในระดับใกล้เคียงกับพิธา เมื่อกระจายไปหาเสียงได้พร้อมกันขนาดนี้ จึงได้เปรียบมากๆ ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง
----------------------
7) นโยบายที่เป็นรูปธรรมที่สุด
พรรคก้าวไกล มีนโยบายที่ชัดเจนมากๆ ว่าจะทำอะไร ทำอย่างไร 1 เดือนถ้าเป็นรัฐบาลจะทำอะไร 1 ปีจะทำอะไร สมัยแรกจะทำอะไร ไม่ใช่แค่เรื่องกระตุ้นความรู้สึก แต่ทำให้ผู้คนรับรู้ว่า "ตั้งใจจะมาทำงานจริงๆ"
การผลักดัน พรบ.อากาศสะอาด, การผลักดันสิทธิแรงงาน, การผลักดัน ให้มีการแก้ไข ม.112 ทุกเรื่องก้าวไกลมีแผนงานชัดเจน คือไม่ใช่พรรคใหม่ ที่จะอาศัยพลังหนุ่มอย่างเดียว แต่รู้ว่าจะนำพาประเทศไปทางไหน
ในขณะที่ พรรครวมไทยสร้างชาติออกคลิปมาโจมตี ในโค้งสุดท้าย หาเสียงด้วยการดิสเครดิตฝ่ายอื่น แต่ไม่ยกนโยบายของตัวเองมาสู้ แต่พรรคก้าวไกลสู้ต่อในแนวทางของตัวเอง นี่เป็นจุดสำคัญอีกหนึ่งข้อที่ทำให้พรรคก้าวไกลมีคะแนนเพิ่มขึ้น
----------------------
การยุบพรรคอนาคตใหม่
ความประทับใจของหลายคน กับพรรคก้าวไกลเกิดขึ้นตอนที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ จนสมาชิกที่เหลือต้องแปรเปลี่ยนเป็นพรรคก้าวไกลแทน แต่แม้จะล้ม และแกนนำโดนแบนไป 10 ปี จากการเลือกตั้ง พรรคก็ยังคงอยู่ และต่อสู้ด้วยอุดมการณ์ของตัวเองต่อไป
แม้จะมีส.ส.ที่ขอย้ายพรรค หรือที่เรียกว่างูเห่า มากมายแค่ไหน แต่พรรคก็ยังคงอยู่ ทำงานของตัวเองในฐานะฝ่ายค้าน ด้วยจุดยืนเหมือนเดิม อานิสงส์ของความพยายามนั้น ทำให้ผู้คนเริ่มเชื่อมั่นในพรรคก้าวไกล ว่าจะไม่ใช่แค่พรรคที่มาวูบวาบประเดี๋ยวประด๋าว แต่มาเพื่อทำงานจริงๆ
----------------------
9) เป็นตัวแทนแห่งยุคสมัย
ในขณะที่พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวแทนของกลุ่มคนอายุเยอะในสังคม เจเนเรชั่นบูมเมอร์ แต่พรรคก้าวไกล สามารถเข้าไปอยู่ในใจของคนที่อายุน้อยกว่านั้นได้สำเร็จ ทั้งกลุ่มเด็กที่เพิ่งเลือกตั้งครั้งแรก กลุ่ม GEN Y และ GEN X
นโยบายที่ชัดเจน ให้ความสำคัญกับการศึกษา, สิทธิมนุษยชน รวมถึงเรื่องใกล้ตัว Soft Power ดนตรี เกมส์ วงการบันเทิงทั้งหลาย นอกจากนั้น เป็นพรรคที่ยืนหยัดเพื่อนักเรียกร้องสิทธิ์ทางการเมืองมาตลอด พิธา เคยใช้ตำแหน่ง ส.ส.ประกันตัว "ตะวัน" ที่โดนขังในเรือนจำ แล้วตอบโต้ด้วยการอดอาหาร
สิ่งเหล่านี้ ทำให้คนรุ่นใหม่รู้สึกได้ว่า พรรคก้าวไกล "ช่วยพูดแทน" ในสิ่งที่เขาคิด ดังนั้นจึงระดมมาซึ่งการโหวตที่เกิดขึ้นนั่นเอง และเป็นการประกาศให้กลุ่มคนในเจเนเรชั่นอื่นได้รับรู้ด้วยว่า แม้จะอายุยังน้อย แต่นี่ก็เป็นประเทศของเขาเหมือนกัน
----------------------
นี่คือเหตุผลที่พรรคก้าวไกลได้คะแนนถล่มทลายขณะนี้ ตัวเลขนั้นทะลุ 100 แน่ๆ แต่จะไปจบที่เท่าไหร่ และจะมากที่สุดพอที่จะเป็นแกนนำที่จะจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ต้องมารอการนับคะแนนในตอนจบ
แต่อย่างน้อยสิ่งที่ผู้คนได้เห็นในตอนนี้คือ กระแสโซเชียลมีเดียของพรรคก้าวไกลไม่ใช่เรื่องล้อเล่น และพวกเขาเอาชนะใจผู้คนในชีวิตจริง ได้อย่างแท้จริงเลย
#สำนักข่าวทูเดย์
#MakeTomorrowTODAY