Agenda
7h ·
วัคซีนที่ดีคือวัคซีน…
จากผลสำรวจในวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 ของ Yougov พบว่า
คนไทย 63% มี ‘ความเชื่อมั่นในวัคซีน’ คือยินดีจะฉีด หรือฉีดวัคซีนไปแล้ว
สัดส่วนนี้ลดลงจาก 83% ซึ่งเป็นผลสำรวจในวันที่ 3 มกราคม 2564
อาจแปลได้ว่า ‘ความเชื่อมั่นในวัคซีน’ ของคนไทยกำลังลดลง
เพราะปกติแล้ววัคซีนที่ต้องฉีดเข้าร่างกาย จะถูกทดสอบและค้นคว้าหลายขั้นตอน เพื่อให้มีความปลอดภัยมากที่สุดกับมนุษย์ แต่สำหรับวิกฤต Covid-19 เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทำให้นักวิจัยและพัฒนาเร่งสร้างวัคซีน Covid-19 ขึ้นมาอย่างสุดกำลังเพื่อป้องกันโรค
เวลาระยะสั้นสำหรับการสร้างวัคซีนนี้ ทำให้คนบางส่วนเกรงกลัวผลข้างเคียง
และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาแค่ในไทยเท่านั้น เป็นปัญหาที่หลาย ๆ รัฐบาลทั่วโลกกำลังพยายามแก้ไข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและตัวเลือกให้ประชาชนมากที่สุด
มาดูกันว่าการสร้าง ‘ความเชื่อมั่นในวัคซีน’ แต่ละประเทศที่มีตัวเลขความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ทำได้อย่างไร?
สหรัฐอเมริกา - ลงทุน 8 แสนล้านบาทเพื่อให้วัคซีนฟรี
สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของโลก ที่เข้าร่วมให้ให้ทุนเตรียมการผลิตวัคซีน
และยังลงทุนราว 2.5 หมื่นล้านเหรียญหรือเกือบ 8 แสนล้านบาท ในการซื้อวัคซีนเพื่อรับประกันว่า ทุกคนจะได้รับวัคซีนฟรีและเพียงพอต่อประชากรในประเทศ
โจทย์ต่อมาก็คือการแจกจ่ายวัคซีนให้ทั่วถึง
อเมริกาตั้งเป้าว่าต้องมีประชากรที่ได้รับวัคซีนอย่างน้อย 70-85% จึงจะหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้
เฉพาะในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา อเมริกาฉีดวัคซีนต้าน COVID-19 ได้กว่า 222 ล้านโดสแล้ว
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในวัคซีนในประชากรบางกลุ่มยังไม่มากนัก ทางการจึงต้องพยายามโน้มน้าวให้เข้ารับวัคซีน บางรัฐใช้วิธีแจกเบียร์ เงิน โดนัทฟรี สำหรับคนที่ยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วย
-------------
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ - มีให้เลือกหลายยี่ห้อ มุ่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
UAE ตั้งเป้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์/ไบออนเทคให้ประชาชนฟรี ร้อยละ 70 ของรัฐดูไบภายในสิ้นปี 2564
โดยไม่ต้องกังวลเรื่องวัคซีนที่เลือกให้จะดีพอหรือไม่ เพราะมีวัคซีนเพียงพอ หลายยี่ห้อ ทั้ง Pfizer-BioNTech Sinopharm และ Sputnik V ให้ประชาชนเลือกฉีดได้ตามต้องการ
ส่วนดูไบเอง ก็ยังคงเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศ และมีโครงการ Vaccine Tourism คือฉีดวัคซีนต้านโควิดให้นักท่องเที่ยวฟรี
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านนี้เอง ผู้นำของดูไบก็ได้ประกาศตัวเลขเงินลงทุนจากต่างชาติว่า UN คาดการณ์เม็ดเงินลงทุนต่างชาติทั่วโลกลดลง 42% ในปี 2020 แต่ที่นี่ ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เรามีการลงทุนจากต่างชาติเพิ่มขึ้นถึง 44% เป็นผลมาจากการบริหารจัดการที่ดี และสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนได้
-------------
สิงคโปร์ - ฐานผลิตวัคซีนของเอเชีย
แม้สิงคโปร์จะควบคุมสถานการณ์ได้ดีมาเรื่อย ๆ แต่ก็ยังเจอผู้ติดเชื้อใหม่อยู่เรื่อย ๆ
ทำให้รัฐบาลสิงคโปร์ตั้งเป้าให้ความสำคัญกับการจัดหาวัคซีนมากที่สุด โดยวางแผนเปิดประเทศภายในสิ้นปี 2564 และทุกคนที่อาศัยในสิงคโปร์จะได้รับวัคซีนฟรี
นอกจากตั้งเป้า สิงคโปร์ยังทำได้ด้วยเพราะสิงคโปร์เป็นประเทศแรกในเอเชียที่ได้วัคซีน Pfizer และ BioNTech ลี เซียนลุง นายกรัฐรัฐมนตรีของสิงคโปร์ ก็ยังเป็นผู้นำคนแรกในอาเซียนที่ได้ฉีดวัคซีนอีกด้วย
นอกจากประชาชนจะรู้สึกมั่นใจแล้ว
บริษัทผลิตวัคซีน “BioNTech” ยังเลือกสิงคโปร์เป็นฐานการผลิตวัคซีนในเอเชียอีกด้วย
-------------
ไทย - วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่เร็วที่สุด
ตอนนี้ปัญหาหลักของไทย ที่ความเชื่อมั่นในวัคซีนสั่นคลอน น่าจะเกิดจากตัวเลือกวัคซีนน้อย ข้อมูลประสิทธิภาพไม่ชัดเจน วัคซีนหลักที่มีอย่าง Sinovac ยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก ทำให้คนบางส่วนไม่มั่นใจว่าการฉีดวัคซีนจะทำให้เกิดอันตรายกับสุขภาพหรือไม่
นอกจากนี้ระบบจองฉีดวัคซีนยังสับสนสำหรับผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนด้วย
เพราะแม้มีศูนย์กลางแต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์ที่ให้ข้อมูลไม่ตรงกัน เช่นการ walk in ได้หรือไม่ได้
บางคนพบว่าถูกปฏิเสธการจอง ทั้งๆ ที่เข้าเกณฑ์กำหนดให้จองได้
คงต้องรอลุ้นกันต่อไปว่าวัคซีนที่ดีที่สุดของไทย จะเป็นวัคซีนที่คนยอมฉีดมากที่สุดได้หรือเปล่า?
