สู่ยุค "แป๊ะขายขวด เอาขวดมาขาย"

สมบัติ บุญงามอนงค์
11h ·

เรามาถึงยุคที่ผู้นำประเทศหมดหนทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ถึงขนาดแนะนำให้ประชาชนยึดอาชีพเก็บขยะขายกันแล้ว

ความจริงตั้งแต่การระบาดรอบที่ 1 ประชาชนส่วนหนึ่งก็เริ่มเก็บขยะขายแล้ว แต่ประยุทธจะรู้หรือเปล่าว่าราคาขยะลดลงมากตั้งแต่รัฐบาลอนุญาตให้นำเข้าขยะจากต่างประเทศ ร้านรับซื้อของเก่าปิดไปหลายราย

ผู้นำประเทศต้องคิดอ่านแก้ปัญหามหภาค ไม่ใช่มาแนะนำเก็บขยะขาย โคตรทุเรศ อีกหน่อยคงแนะนำให้หากะลามานั่งขอทาน

.....

พรรคเพื่อไทย
19h ·

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลายคนตกใจกับตัวเลข#หนี้สาธารณะคงค้าง กว่า 8.47 ล้านล้านบาท (8,472,186,000,000.98)
.
การที่ประเทศไทยมีหนี้สาธารณะนั้น เป็นไปตามหลักการบริหารเศรษฐกิจทั่วไปที่นานาประเทศทำกัน ซึ่งหนี้สาธารณะ คือ หนี้ที่ประชาชนทุกคนต้องร่วมกันผิดชอบ
.
แต่การเป็นหนี้นั้น เพื่ออะไรกันแน่ ?
.
เปรียบเทียบการเป็นหนี้สาธารณะของรัฐบาล 2 สมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในรัฐบาลไทยรักไทย 2 สมัย รวม 6 ปี กับ รัฐบาล คสช. และรัฐบาลที่นำโดยพลังประชารัฐ ซึ่งมีผู้นำรัฐบาลคนเดียวกันคือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ครองอำนาจมากว่า 7 ปี และจะยังคงดำเนินต่อไป
.
ดูกันว่ารัฐบาลชุดไหนก่อหนี้ (สาธารณะ) มากกว่ากัน และในการเป็นหนี้นี้ ประเทศไทยเติบโตอย่างไรบ้าง ...หรือที่จริงตรงกันข้าม
.
#รัฐบาลทักษิณ
.
เมื่อย้อนดูตัวเลขหนี้สาธารณะต่อจีดีพี (GDP) ซึ่งสะท้อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงรัฐบาล ดร.ทักษิณ1 ตั้งแต่ปี 2544 - 2548 และตั้งแต่ 2548 - 2549 พบว่าหนี้สาธารณะที่เป็นหนี้ของพวกเราทุกคน ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ จาก 58% ในปี 2544 เหลือ 39% ในปี 2549 ทั้งที่ในช่วงรัฐบาล ดร.ทักษิณ มีปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้หลัก ๆ หลายด้าน
.
ปี 46 - 47 เกิดโรคระบาดไข้หวัดนก ปลายปี 2547 ต่อเนื่องถึงปี 2548 เกิดภัยธรรมชาติสึนามิ ถึงแม้จะต้องพบกับเหตุการณ์ที่กระทบกับความเป็นอยู่ของประชาชนที่ทำให้การจับจ่ายตกต่ำลง และส่งผลถึงการหารายได้เข้าประเทศเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่ ดร.ทักษิณ ยังสามารถควบคุมการก่อหนี้ของประเทศไม่ให้เกินเพดานหนี้ที่ปลอดภัยต่อฐานะการคลังไว้ได้
.
น่าเสียดายที่ในปี 2549 รัฐบาล ดร.ทักษิณ ถูกรัฐประหาร ซึ่งขณะนั้นหนี้สาธารณะของประเทศต่ำกว่า 40% ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังเติบโต จีดีพีอยู่ที่ 5% ทั้งยังมีบางปี เช่นในปี 2546 หนี้สาธารณะอยู่ที่ 46% แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจยังสามารถเติบโตได้ถึง 7.2% แม้หนี้สาธารณะต่อจีดีพี จะลดลง ประเทศไทยก็มีนโยบายสำคัญและโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และรัฐสวัสดิการที่ประชาชนล้วนได้ใช้ร่วมกัน เช่น การก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ และ การสนับสนุนเศรษฐกิจจากหลากโครงการที่ฐานราก ทั้ง OTOP และ กองทุนหมู่บ้าน โครงการหลักประกันสุขภาพทั่วหน้า (30 บาทรักษาทุกโรค) เป็นต้น โดยไม่มีการกู้มาแจกอย่างที่บางพรรคกำลังทำอยู่
.
พูดแบบภาษาชาวบ้าน
ยุคทักษิณ
เศรษฐกิจดี
หนี้ลด
.
#รัฐบาลพลเอกประยุทธ์
.
เมื่อหันกลับมาดูที่หนี้สาธารณะ รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. นับตั้งแต่รัฐประหารในปี 2557 จนถึงปัจจุบัน หนี้สาธารณะต่อจีดีพีตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปี 2562 ถือว่าอยู่ในระดับต่ำ ที่ 41-43% แต่หนี้กลับกระโดดสูงขึ้นในปี 2563 จาก 49.35% มาอยู่ที่ 54.28% ในเดือนมีนาคม 2564 ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยการนำของพลเอกประยุทธ์ จีดีพีประเทศไทยไม่เคยแตะ 5% เลยแม้แต่ครั้งเดียว
.
พูดแบบภาษาชาวบ้าน
ยุคประยุทธ์
กู้เก่งแต่ ใช้เงินไม่เป็น
เศรษฐกิจโตน้อยกว่าหนี้ที่เพิ่มขึ้น
.
ในปี 2563 จนถึงปัจจุบันนี้ หนี้สาธารณะจะชนเพดานที่ 60% แล้ว แต่ประเทศไทยได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง จากหนี้ที่ประยุทธ์สร้างไว้ตลอด 7 ปีกว่า 4 ล้านล้านบาท ประชาชนได้ประโยชน์อะไรจากการเป็นหนี้ก้อนนี้?