อะไรมันจะโด่เด่นักหนาสำหรับรัฐบาลประยุทธ์ ในการแก้ปัญหา ‘ไม่สิ้นสุด’ โควิด-๑๙ ระบาดระลอกสาม ไหนไทยไม่เพียงเป็น ‘ฮับ’ นำเข้าไวรัสหลากหลายสายเท่านั้น วันนี้ยกระดับเป็นผู้ส่งออกยี่ห้อไตแลนเดีย รุ่น ‘C.36.3’ เสียด้วย
โควิดพันธุ์ C.36.3 นี้ พบครั้งแรกในประเทศไทย ในตัวผู้เดินทางไปจากประเทศอียิปต์ สาธารณสุขอังกฤษแจ้งว่ามีประชากรของตนติดโควิดชนิดนี้แล้ว ๑๐๙ ราย กำลังเร่งตรวจหาผู้รับเชื้อชนิดเดียวกันอื่นๆ เพื่อวางแผนสกัดกั้นให้เด็ดขาด
จึงได้ให้ชื่อวิชาการโควิดนี้ว่า VUI หรือ Variant under Investigation หมายถึง “กลายพันธุ์อยู่ระหว่างสอบสวน” แม้ว่า “ในขณะนี้ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าสายพันธุ์นี้ทำให้โรคนี้มีอาการรุนแรงขึ้น หรือ ทำให้วัคซีนที่ใช้การอยู่ลดประสิทธิภาพลง” ก็ตาม
อย่างไรก็ดีในคลับเฮ้าส์ ‘หนูหริ่ง’ เช้านี้บอกว่า โควิดกลายพันธุ์เกิดในไทยตั้งแต่เมื่อครั้งซุปเปอร์คลัสเตอร์สนามมวยลุมพิณีโน่นแล้ว แต่ตอนนั้นเห็นว่าไม่ได้ร้ายแรงอะไรเท่าไหร่ ก็เลยเงียบไป จนกระทั่งไปโผล่บริเตนใหญ่ คลับเฮ้าส์เขาเลยเล่นตั้งชื่อกันสนุก
ขณะแวดวงหมอๆ วุ่นวายกันต่อ เมื่อยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มยังสูง ๓,๗๕๙ ราย คนตายอีก ๓๔ ราย หลังจากที่มีวิธีวิเศษลัดวงจรให้วิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นผู้นำเข้าวัคซีน ‘ทางเลือก’ ได้ยังกับหน่วยงานรัฐบาล ถึงจะมีพระเจ้าน้องยาเธอว์เป็นประธานก็เถอะ ใช่เรื่องมะ
ทั้งที่ศรีธนญชัยขี้ครอก คสช. รองนายกฯ ฝ่ายหมอความพยายามมั่วว่า วิทยาลัยดังกล่าวออกข้อกำหนดเองได้เพราะ “เป็นการใช้อำนาจในช่วงวิกฤตสถานการณ์โควิด-๑๙ เท่านั้น และใช้ช่วงที่วัคซีนขาดแคลน...เมื่อสถานการณ์นี้คลี่คลายอำนาจนี้จะหมดไป”
แล้วเมื่อไหร่สถานการณ์จะได้โอกาสคลี่คลายล่ะ ถ้ามีระลอกสี่ ห้า จะว่าไง วุ่นไปใหญ่อีกเมื่อมีบริษัทเอกชนบอกว่าป็นตัวแทนบริษัทจีนผู้ผลิต ‘ซิโนฟาร์ม’ วัคซีนซึ่งวิทยาลัยจุฬาภรณ์เตรียมนำเข้า ผ่านทางอีกบริษัทที่เปิดดีลกันไว้เรียบร้อย
บริษัทแอ็คแค้ปแอสเส็ทส์เผยเอกสารว่าเคยได้เสนอขายวัคซีนซิโนฟาร์มต่อรัฐบาลไทย ๒๐ ล้านโด๊สเซสเมื่อเดือนที่แล้ว “สามารถเริ่มดำเนินการจัดส่งได้ภายในระยะเวลา ๒ สัปดาห์” แต่ทางการไทย ‘เมิน’ ไม่รู้ไม่ชี้จนกระทั่งเกิดซุปเปอร์ดีลจุฬาภรณ์
ลิ่วล้อรัฐบาลประยุทธ์ออกมาโต้กันใหญ่ ตั้งแต่เลขาธิการราชวิทยาลัย ไปถึงเลขาธิการ อย. และโฆษกรัฐบาล ศาสตราจารย์หมอนิธิ มหานนท์ บอก “บริษัทผู้ผลิตวัคซีนโควิดขณะนี้จะติดต่อกับรัฐบาลหรือตัวแทนรัฐบาลก่อนเท่านั้น”
เอกชนใดๆ มาอ้างว่าเป็นตัวแทนผู้ผลิตต้องมี “dossier หรือรายละเอียดรายการประกอบยาและการผลิตจากบริษัทเจ้าของ” มาแสดง “ใช้ขอใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา” ใครไม่มี ‘dossier’ “ไม่ใช่ตัวแทนที่สมบูรณ์”
ด้านหมอไพศาล ดั่นคุ้ม ช่วยย้ำว่า ‘ACCAP ASSETS’ จะมาอ้างมีวัคซีนซิโนฟาร์มไว้ขายรัฐบาลไทยตั้ง ๒๐ ล้านโด๊สเซสนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีการขออนุญาตใดๆ ผ่าน อย.ผู้มีอำนาจเต็มในการอนุมัติ มิหนำซ้ำบริษัทซึ่งดีลตรงกับ ‘จุฬาภรณ์’ ยื่นเจ๋งเก่งกาจ
บริษัท ‘ไบโอเจนเนเทค’ ระบุว่าจะนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มที่ได้รับการรับรองแล้วจากองค์การอนามัยโลก ไพร่ฟ้าหน้าใสก็งงละสิ เฮ้ มีซิโนฟาร์มที่ ‘ฮู’ ไม่โอเคด้วยเหรอ ใช่ ซิโนฟาร์มทำจากสองแหล่งในประเทศจีนด้วยกัน มีปักกิ่งกับหวูฮั่น
“ตัวที่พัฒนาโดย Beijing Institute of Biological Product หรือ BBIBP-CorV จดทะเบียนในปักกิ่ง เป็นตัวที่องค์การอนามัยโลกให้การรับรอง...อีกหนึ่งตัวพัฒนาโดย Wuhan Institute of Biological Product ในชื่อ Vero cells ซึ่งไม่ใช่ตัวที่องค์การอนามัยโลกให้การรับรอง”
ตานี้ถึงที อนุชา บูรพชัยศรี แถลงบ้าง ย้ำอีกว่าบริษัทแอ็คแค้ป “ไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จึงมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนและไม่สามารถยื่นขออนุญาตในการขึ้นทะเบียนกับ อย.” อีกทั้งจดทะเบียนจัดตั้งเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ไม่รู้เหมือนกัน มันผิดตรงไหนจดทะเบียนขายบ้านแล้วมาขายยา ก็สำนักงานทรัพย์สินกษัตริย์ยังไปตั้งโรงงานผลิตยา แล้วโรงงานนั้นที่ไม่เคยผลิตวัคซีนประเภทโควิดมาก่อน ไปขอทุนอุดหนุนจากรัฐบาลซื้อเครื่องจักรกลมาปรับเป็นผลิตวัคซีนโควิดล่ะ
เถอะน่ะ ถึงอย่างไรก็ยังติดใจไม่หาย ในเมื่อ ดวงฤทธิ์ บุนนาค ปูดไว้เป็นเดือนแล้วว่า รุ่นน้องรู้จักกันพยายามนำเข้าวัคซีนซิโนแว็ค ๒๐ ล้านโด๊สเซส “ประสานไปที่คนของรัฐบาลทุกช่องทางแล้ว “มันถามหาผลประโยชน์ตอบแทนกันก่อน” อะ
วัคซีนชุดนั้น “เป็นล็อตที่ถูกตัดมาจากเอเย่นต์ที่สิงคโปร์ ซึ่งต้องส่งไปที่มาเลเซีย แต่มาเลเซียยกเลิก...ก็เลยสามารถส่งมาที่ไทยได้ทันที ภายในสองสัปดาห์” แต่ดีลไม่ผ่าน เพราะ “มีคนขอค่าคุย ๕ ล้าน นี่คือเรื่องจริงในยามวิกฤตครับ”
ดวงฤทธิ์ว่า “เลวจริง”
(https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10161808276969848, https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2746189 และ https://www.bbc.com/thai/57275490-k573GU)