วันอาทิตย์, พฤษภาคม 30, 2564

ไม่เคยคิดว่า "การด่าคน" จะมีประเด็นน่าคิดมากมาย ถ้าเลือดไม่ขึ้นหน้าเสียก่อน



ชาติพันธุ์นิพนธ์
Yesterday at 6:39 AM ·

มานุษยวิทยาภาษาของจดหมายด่า
ผมเพิ่งได้รับจดหมายด่าฉบับหนึ่ง ไม่ลงชื่อคนส่ง ไม่ลงวันที่ ปิดผนึกซองจดหมาย จ่าหน้าซองส่งถึงที่อยู่ที่ทำงาน ติดแสตมป์แต่กลับไม่มีตราประทับของไปรษณีย์
ผมเคยได้จดหมายลักษณะนี้มาก่อนแล้ว ชินแล้ว ไม่ได้อะไรมาก
แต่เพิ่งมารู้สึกว่ามีอะไรน่าสนใจศึกษามากมาย คิดว่าจะนำไปใช้ประกอบการสอนวิชามานุษยวิทยาภาษา ซึ่งจะสามารถลากยาวเป็นเรื่องราวได้อย่างน้อยๆ 2 ครั้ง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ว่าด้วยคำด่าน่ะแน่ๆ แต่การด่าน่าสนใจหลายประการดังนี้
1. คำด่า มีการใช้สัตว์สำหรับการด่าแบบไทยหลายอย่าง เรื่องนี้ยาว แบ่งเป็นกลุ่มคำเรียกสัตว์ กับคำทางเพศ ต้องแยกวิเคราะห์กัน และยังมีคำด่าที่ไม่รู้ที่มา อย่างคำว่า ชิบหาย คำนี้ทำให้น่าค้นต่อว่า มายังไงกัน ประวัติมันมีไหม สงสัยว่ามีที่มาจากคำต่างประเทศ แบบคำว่าระยำรึเปล่า (ระยำ มีในจดหมายเช่นกัน) แทรกมาคือคำด่าเชิงพฤติกรรม อย่าง ไอ้เลว หรือเชิงคุณลักษณะ เช่น หมาไม่แดก
2. คำหยาบ เรื่องนี้สนุก เพราะคำหยาบคือคำใช้พูดกับคนสนิท แต่กลับเป็นคำรุนแรงเมื่อใช้กับคนห่างเหินไม่รู้จักกัน ความสนิทสนมคือ taboo เมื่อถูกใช้กับคนห่างเหิน
3. คำสาปแช่ง อย่าง ตายโหง น่าสนใจวิธีการแช่งแบบไทยๆ
4. คำข่มขู่ มีการใช้อุปลักษณ์ความรุนแรงที่ใช้ข่มขู่ เป็นความรุนแรงทางกายภาพ เป็นอุปลักษณ์การลงทัณฑ์แบบหน้าแรกของหนังสือ The History of Prison ของฟูโกต์ คือการลงทัณฑ์ยุคกลาง
5. คำโบราณ ที่ไม่น่าเชื่อวายังใช้ด่ากันอยู่ อย่างตะแลงแกง
6. จังหวะด่า มีการพรรณนา ด่าๆๆ แล้วตบท้ายด้วยคำหนักๆ มีการแบ่งย่อหน้าการด่าเป็นประเด็นๆ มีการเกริ่น การลงท้าย แบบเรียงความ นับเป็นสุนทรียะของการด่าที่น่าสนใจ
7. อุปลักษณ์การเมือง มีการใช้อุปลักษณ์การเมืองแบบฝ่ายขวา เช่นนัยเรื่องหนักแผ่นดิน เนรคุณชาติ นี่แบ่งวัยคนได้ บ้านเกิด แผ่นดิน ทั้งหมดนี้บอกบริบทสังคมการเมืองของการด่า เป็นบันทึกประวัติศาสตร์การเมืองที่ดี บอกว่าอะไรสำคัญในยุคสมัย และการแตะต้องอะไรที่กระทบใจคนบางกลุ่ม บอกการแบ่งกลุ่มการเมือง อุดมการณ์การเมือง
8. วัตถุสภาวะของการด่า คือลายมือ ก็น่าสนใจ บอกยุคสมัย บอกวัยพอจะได้ เพราะคนแต่ละยุคลายมือต่างกัน บอกเพศได้ไหม ไม่แน่ใจ นอกจากนั้น การใช้กระดาษ ปากกา การเขียน แล้วส่งเป็นจดหมาย ก็ให้บริบทของการใช้สื่อแอนะล็อกในยุคดิจิทัล มีความเรทโทร เป็นเสน่ห์อีกอย่าง
เราเรียนรู้จากสิ่งรอบตัวได้เสมอจริงๆ
แต่ในส่วนของผมเอง ก็ยังยืนยันที่จะใช้เสรีภาพการแสดงออกตามสิทธิทางกฎหมาย และจะทำอย่างเข้มข้นและรัดกุมยิ่งขึ้น