.....
Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
19h ·
กรณีที่ EU พิพาทและฟ้องร้อง Astrazeneca (ตอนนี้อยู่ในชั้นศาล) ว่าไม่ส่งวัคซีนให้ยุโรปตามสัญญา (ส่วนบริษัทก็ต่อสู้ว่าได้ใช้ best efforts หรือความพยายามอย่างยิ่งยวดตามสัญญาแล้ว) ทำให้ชาวโลกได้เห็นสัญญาที่ EU ทำกับ Astrazeneca แน่นอนว่า redact ประเด็นอ่อนไหวอย่างเรื่องราคา แต่ก็ได้เห็นเงื่อนไขสัญญาชัดเจน และในเมื่อเคสนี้พัวพันกับสัญญาที่ UK ทำกับ Astrazeneca (เพราะ EU หาว่าบริษัทไม่ยอมส่งวัคซีนที่ผลิตใน UK มาให้) ก็ทำให้ชาวโลกได้รับรู้เงื่อนไขสัญญาที่ UK ทำกับ Astrazeneca ด้วย ใครสนใจตามไปอ่านบทความนี้ได้ค่ะ -- https://www.politico.eu/.../the-key-differences-between.../
ยกเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อจะตั้งคำถามว่า สัญญาที่รัฐบาลไทยทำกับ Astrazeneca เป็นสัญญาแบบไหน ย้ำอีกครั้งว่า ในฐานะ "ผู้ซื้อวัคซีน" ที่ต้องรับผิดชอบต่อชีวิตของประชาชน รัฐบาลไม่จำเป็นต้องสนใจขนาดนั้นว่าวัคซีนยี่ห้อนี้ผลิตในประเทศไหนบ้าง โรงงานอะไรบ้าง (คือสนใจแค่ให้เชื่อมั่นว่าโรงงานทุกโรงได้มาตรฐาน แต่ไม่ต้องแคร์ว่าอยู่ที่ไหน) บริษัทมีหน้าที่ส่งมอบวัคซีนตามจำนวนที่กำหนด ภายในเวลาที่กำหนดเท่านั้น ส่วนเรื่องรัฐบาลจะไปอุดหนุนบริษัทไหนให้ผลิตวัคซีนอะไร ก็เป็นอีกประเด็น (คิดง่ายๆ เหมือนเวลาเราสั่งซื้อรถยนต์ หรือสินค้าอะไรก็ตาม เราไม่ต้องรู้ว่าสินค้าตัวนั้นผลิตที่ไหน คู่ค้าหรือ supplier ของเขาคือใคร บริษัทมีหน้าที่ส่งของให้เราตามกำหนด)
ดังนั้นถ้าหากเกิดความล่าช้าในการส่งมอบวัคซีน Astrazeneca ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม รัฐบาลก็มีหน้าที่ไป "ไล่บี้" บริษัท Astrazeneca ให้เอาวัคซีนมาส่งมอบให้ไทย เหมือนกับที่ EU และ UK และประเทศอื่นๆ ทำ เพราะถ้าดูจากตัวเลข 61 ล้านโดสที่รัฐบาลสั่ง ไทยเป็นลูกค้ารายสำคัญไม่น้อยสำหรับบริษัท (ใช้งบประมาณทั้งหมดกว่า 12,000 ล้านบาท) -- คำถามคือวันนี้จะส่งช้าหรือไม่ครบหรือไม่ และถ้าใช่ รัฐบาลจะไป "ไล่บี้" บริษัทหรือเปล่า ถ้าไม่ทำ ไม่ทำเพราะอะไร (สัญญา UK กับ Astrazeneca มีบทลงโทษด้วยซ้ำถ้าบริษัทไม่ส่งมอบของตามกำหนด)
ถ้าของจะมาช้า มาไม่ครบ แต่รัฐบาลไล่บี้ไม่ได้เพราะสัญญาไม่เปิดช่องให้ทำ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ยิ่งต้องตั้งคำถามว่า เราโง่ไปเซ็นสัญญาพิสดารที่มัดมือชกคนซื้อได้ยังไงกัน
สื่อมวลชนทั้งหลาย ได้เวลาทำหน้าที่นะคะ กระบอกเสียงของรัฐปล่อยให้กรมประชาสัมพันธ์ทำไปคนเดียวพอแล้ว
#มหากาพย์วัคซีน