ชีวิตของศิลป์ชัย ตอนที่1
ชีวิตของ ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์
นักศาสนวิทยา พังเพราะใคร? พังเพราะลูกเพจ?
หรือตัวแกเอง?
ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะครับ ว่าผมเป็นคนรับรองให้ตัวแกได้ออกมาเหยียบนอกสนามบินที่
Auckland โดยการเอาความเป็นพลเมืองของผม (ทั้งผมและภรรยา)
และบ้านเลขที่อาศัย ไปรับรองที่ Immigration เพื่อเป็นตัวประกันและยืนยันว่ามีคนรับรองจริง
มิฉะนั้นเขาอาจจะถูกส่งกลับไทยหรือถูกส่งกลับไปประเทศ Fiji
และนี่ก็เป็นสเต็ปแรกในการยื่นมือเข้าไปช่วย
ดร.ศิลป์ชัย ให้พ้นจากภัยแบบที่เขากล่าวอ้าง
โดยถ้าเกิดมีอะไรติดขัดในช่วงที่รับรองแกที่สนามบิน
ผมเองได้จัดทีมทนายและฝ่ายกฎหมายไว้พร้อม แต่ด้วยความที่ผมสปอนเซอร์ให้ ก็เลยใช้เวลาไม่ถึง
20 นาทีในสนามบิน สุดท้ายก็ไม่ถูก ตม. กักตัว
***ก่อนมา New Zealand
คือตอนแรกเขาเดินทางไปหลายประเทศทั่วยุโรป
เพื่อที่จะเข้าไปแทรกซึมอยู่ในวงจรของผู้ลี้ภัยต่างๆ และจุดหมายหลักของเขาก็คือ
การที่ได้เข้าไปกระทบไหล่ของ ‘สมศักดิ์ เจียม’
ที่ปารีส ศิลป์ชัยพยายามที่จะไปติดต่อคนนู้นนี้นั้น
และเอาเงินไปล่อคนที่คิดว่าใกล้ชิดสนิทที่สุดของเจียม
เพื่อหวังจะเข้าไปถึงตัวสมศักดิ์เจียม โดยอ้างว่าอยากบริจาคเงินเพื่อให้สมเจียมและขอถ่ายรูปมาเพื่อไปแปะในเพจ
เรียกคะแนนจากติ่งและอยากจะยกระดับตัวเองให้เทียบเท่ากับเขา
ผลสุดท้ายเป็นศูนย์ อีกอย่างศิลป์ชัยได้เดินทางไปเกาะคนไทยลี้ภัยและคนไทยที่ค่อนข้างจะมีฐานะเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้มีค่าใช้จ่าย
แต่อยู่ที่ไหนก็ไม่ได้นาน เพราะมีปัญหากับเจ้าบ้านในการรักษาความสะอาด
ที่สุดท้ายก่อนที่เขาจะบินมาประเทศนิวซีแลนด์ก็คือ ประเทศฟินแลนด์
ไปอยู่กับคุณเล็ก จรรยา ยิ้มประเสริฐ แต่ก็ไปทำสกปรกในบ้านของเขาจนต้องถูกเชิญออก
หลังจากนั้นแกก็พยายามติดต่อมาหาผม และตอนหลังก็ทราบมาว่า แกอ้างว่ามีภัยและจะโดน 112
แต่ทำไมขึ้นเครื่องของการบินไทยเกือบทุกไฟล้ท์เลย สรุปคือยังไง???? บินไปถึงยุโรป แต่ไม่ลี้ภัยที่นั่น??????
****ดร.ศิลป์ชัย เขามีภัยจริงไหม?
ต้องบอกก่อนครับว่า ผมนายเอกภพ เหลือรา มีคดี
112 ติดตัวและไม่ไปรายงานตัวกับ คสช.
โดนถอนพาสปอร์ต และอีกหลายๆ คดีทางการเมือง รวมๆ ถ้าติดคุกก็ร่วมๆ 100 ปี คราวนี้ ดร.ศิลป์ชัยแกยื่นหน้าเข้ามาในโลกออนไลน์ อยู่ๆ ก็โผล่มาเล่นประเด็นของ
ร.10 แบบเจาะจง และจะเล่นหนักไปทางเรื่องของก้อย
ผมเองก็นึกว่าแกโดนหมาย 112 และโดนล่าจนอยู่ไทยไม่ได้
ก็เลยติดตามแกด้วยความที่ลองไปคุยกับแกแล้วรู้สึกถูกแกโน้มน้าวจนผมตกหลุมไปสู่ความเห็นใจของแก
ก็เลยพยายามติดต่อกันทุกครั้งทุกวัน เพื่อเตรียมตัวรับรองแกมา
แต่พอมาถึง NZ ผมก็ไล่ให้แกไปทำเรื่องลี้ภัยทันที
แต่ด้วยความที่แกเป็นคนที่ขี้เกียจและอืดอาด ต้องรอแต่ความหวังของคนอื่น
ผมเลยต้องเฆี่ยนทุกครั้งในเรื่องเอกสาร ยอมลงทุนขับรถจากบ้านที่ Wellington ไปส่งถึง Auckland ระยะทาง 700 โล ไปกลับก็ร่วมๆ 16 ชม. (ทำแบบนี้สองรอบ)
ด้วยความที่ต้องช่วยเหลือเขาทุกด้าน ในเรื่องค่าใช้จ่ายผมจัดเต็มให้
ไม่ว่าโรงแรมสุดหรูเพราะอยากให้แกสบายและได้พักผ่อน
สองที่คือคืนแรกโรงแรมสุดหรูที่ Auckland และคืนที่สองที่เมือง
Taupo
ในระหว่างพักที่อยู่ตามโรงแรมต่างๆ
ผมขอดูเอกสารการลี้ภัยของแก แต่ผมเอะใจตรงที่หลักฐานในการยื่นลี้ภัยของแกมันเป็นเพียงแค่ข้อความในไลน์ของใครก็ไม่รู้ที่ส่งมาให้
แล้วแกใช้ตรงนั้นไปยื่นให้กับหน่วยงานของ NZ คราวนี้ผมก็เลยถามแกไปตรงๆ
สรุปแกไม่มีหมายใดๆ เลยสักหมายเดียว พูดง่ายๆ ก็คือแกตื่นตูมและไม่นิ่งพอก็เลยหาเรื่องใส่ตัว
นั่นเป็นที่มาของที่ผมยังตั้งขอสงสัยว่า แกมีภัยจริงไหม?
****สถานะของตัว ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์ ตอนนี้เป็นยังไง?
ย้อนกลับไปวันแรกวันที่ผมเอาสิทธิความเป็นพลเมืองไปค้ำประกันเพื่อรับรองแกออกมา
เพราะแกมาแบบโดดร่ม คือแกไม่มีวีซ่าของนิวซีแลนด์เลย วันนั้นผมไปรับรองแกจนแกได้วีซ่าชั่วคราวมา
1 เดือน ซึ่งใน 1เดือนสามารถเดินเรื่องจนลุล่วงได้ถ้ามีความกระตือรือล้นมากพอ
คราวนี้ระหว่างที่แกยื่นเอกสารผมเองก็ช่วยแกทุกครั้ง
มีครั้งหนึ่งผมพยายามจะช่วยให้แกได้ Work
visa ซึ่งผมเองก็ได้หาทางช่วยแกเต็มที่จะเกือบจะได้ Work
visa 3 ปี แต่!! แกเลือกที่จะปฏิเสธ ด้วยเหตุผลของแกที่ว่า
"โทษทีนะตั้ง อาจารย์จบ ดร.มา อาจารย์ไม่อยากลดตัวไปเป็นแรงงาน
อาจารย์อยากจะเป็นอาจารย์สอนในมหาลัยที่ NZ ไม่ใช่แรงงานต่ำๆ"
พอผมกับแฟนได้ฟัง นึกในใจ "เชี่ย มึงโง่ป่าวว่ะ Work visa นี่โคตรสวรรค์เลย"
แต่ศิลป์ชัยเองอยากจะได้สถานะผู้ลี้ภัยมากกว่า
จะได้เอาไปโชว์ในโลกออนไลน์ว่าฉันได้เป็นผู้ลี้ภัยแล้ว ฉันเทียบเท่าสมเจียม
และคราวนี้ผมก็มองเข้าไปในหัวแก เหี้ย เป็น ดร. คิดได้แค่นี้เองหรอวะ
แล้วพวกติ่งที่ตามแกจะรู้ไหมวะว่า ไอ้เชี่ย ดร. นี่เพี้ยน โคตรๆ
คราวนี้วีซ่าชั่วคราวของแกไกล้หมด แกก็ไม่ตามเรื่องอะไรเลย จนผมกับแฟนต้องจี้ต้องเฆี่ยน
ก็เลยพาแกไปส่งที่สำนักงานใหญ่ Immigration พร้อมยื่นใบรับรองไปอีก
จนแกได้วีซ่าชั่วคราวมาอีก 6 เดือน ด้วยความที่ผมมองแกว่า
"ไอ ดร.คนนี้มันมาแนวไหนวะ"
แต่อีกใจก็รักแกไม่อย่างนั้นก็คงไม่ไปรับรองแกออกมาจากสนามบินแน่นอน
ศิลป์ชัยเป็นคนที่กลัวว่าตัวเองจะแปดเปื้อนสีเสื้อ
พูดง่ายๆ ก็คือแกยังเป็นสลิ่มอยู่ ยังมีความเป็นอีลีทสูง
สรุปก็คือตอนนี้แกยังเป็นแค่คนเร่ร่อนที่ไร้การรับรองใดๆ ไปแบบไร้จุดหมาย
สถานะของแกตอนนี้ ‘ตลาดล่าง’กว่าผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาที่มาตั้งรกรากที่ NZ เสียอีก
******เจอกันในตอน 2 นะครับ วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ เดี๋ยวรอบหน้ามาต่อในเรื่องระยะเวลาสามเดือนนรกที่ผมกับศิลป์ชัยอยู่ร่วมกัน
ใครไม่ตามถือว่าพลาด*****จบ----สวัสดี
(เก็บเอามาแชร์จากเพจของ เอกภพ เหลือรา https://www.facebook.com/search/top/?q=eakapop%20luara&epa=SEARCH_BOX)