วันจันทร์, ธันวาคม 31, 2561

จักรภพ เพ็ญแข อวยพรปีใหม่ + แสดงความในใจถึงพี่น้องผู้ร่วมต่อสู้เพื่อความเป็นเสรี ในสิ่งที่ได้เรียนรู้ และสิ่งที่ตั้งใจจะทำต่อไป





จักรภพ เพ็ญแข อวยพรปีใหม่ พ.ศ.2562

กราบเรียน พี่น้องผู้ร่วมต่อสู้เพื่อความเป็นเสรีที่เคารพทุกท่านครับ

นับเป็นเวลา 10 ปีเต็มที่ผมลี้ภัยการเมืองออกนอกราชอาณาจักรไทย หลังจากที่ได้รับใช้สังคมในบทบาทต่างๆ มาตลอดทั้งชีวิต และตั้งใจจะทำต่อไปอีกมาก สิบปีอาจถือว่าเป็นเวลานานในชีวิตของมนุษย์คนหนึ่ง แต่ผมได้ใช้เวลาสิบปีนี้อย่างคุ้มค่าด้วยการศึกษารัฐชาติแห่งหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า ไทย ศึกษาอย่างชุ่มโชก ศึกษาด้วยการตัวเองเข้าแลก และในที่สุดก็ได้บรรลุความเข้าใจในระดับที่มีประโยชน์ อาจไม่ได้บรรลุถึงความเข้าใจถึงขั้นวิเศษ แต่พอที่ปุถุชนคนหนึ่งจะทำความเข้าใจในสิ่งแวดล้อมของตัวเองและคิดเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมต่อไปได้

ในวาระเปลี่ยนปีศักราช ผมจึงขออนุญาตจากมวลมหาประชาชน แสดงความในใจไว้สักครั้งหนึ่ง ในสิ่งที่ได้เรียนรู้และสิ่งที่ตั้งใจจะทำต่อไปจากสิ่งที่ได้เรียนรู้นั้น:

1. ปัญหาในระดับโครงสร้างของรัฐไทยเลวร้ายลง สิ่งที่ผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ของไทยเรียกออกมาโค่นล้มอำนาจประชาชนภายใต้สัญลักษณ์ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ในราว พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา ได้กลายเป็นปีศาจที่มีขนาดใหญ่โตคับบ้านคับเมือง ที่ทำแต่ความชั่วร้ายในทุกมิติ ต่อบ้านเมืองและต่อประชาชนตลอดมา การเปลี่ยนตัวคนไม่มีอะไรดีขึ้น ยกเว้นช่วยเสริมฝันกลางวันของคนบางคนที่ไร้อุดมการณ์และไม่เคยศึกษาประวัติศาสตร์ไทย คนไทยทั้งชาติยังคงเป็นเพียงผู้อาศัยที่คอยให้เจ้าของบ้านขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว โดยไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ ทั้งที่ตัวเองเป็นเรี่ยวแรงและสร้างทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศไทยนี้ขึ้นมา ผมสรุปง่ายๆ ว่า นี่คือสภาพการณ์ที่ไม่ควรยอมรับกันอีกต่อไป ปีใหม่นี้ควรจะเป็นปีกู้ความเป็นมนุษย์ของเรากลับคืนมา ถึงจะใช้เวลามากขนาดไหนก็ต้องเริ่ม

2. เครื่องมือของระบอบอำนาจเดิมไม่มีประสิทธิภาพพอจะช่วยประเทศไทยได้อีกต่อไป ผมหมายถึง กองทัพไทย ระบบราชการพลเรือน กระบวนการยุติธรรม สมาคมนักธุรกิจ ระบบการศึกษา คณะสงฆ์ และประชาคมสื่อมวลชน ต่างถูกสร้างและใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองที่แคบและเพื่อตัวบุคคล ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมือง เรื่องนี้หนักหนาหน่อย เพราะต้องเริ่มคิดถึงการสร้างใหม่ หรืออย่างน้อยก็ต้องเลือกส่วนที่เน่าเสียออกไป

3. การครอบงำสังคมไทยมีความเข้มข้นและเกือบสมบูรณ์ ตั้งแต่การเลี้ยงดูลูก การศึกษา และการสื่อสารทางสังคม จึงไม่อาจหวังให้คนส่วนใหญ่กล้าร่วมตรงๆ ในการต่อสู้ได้ ระบบความคิดและความกลัวยังเป็นอุปสรรคขัดขวางอยู่มาก อย่าคิดว่าคนส่วนใหญ่ยอมรับอำนาจในทางชั่ว แต่ต้องเห็นใจว่าเขาไม่สามารถรับมือกับอำนาจของคนชั่วได้ และเราต้องคิดให้อำนาจเขามากขึ้นเป็นลำดับ

4. ขบวนเสรีประชาธิปไตย ขาดการนำทางอุดมการณ์ ขาดการจัดตั้ง ขาดความเป็นสากล และถูกทำลายจากภายใน ผมได้อยู่ในที่เกิดเหตุในหลายครั้งที่เกิดจุดผกผันในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และได้เห็นความเล็ก ความแคบ ความเห็นแก่ตัว และความไร้ทิศทางทางความคิดของภาวะผู้นำกับตาตัวเอง จนได้ความรู้มาก ผมได้เปลี่ยนความเหนื่อยหน่ายมาเป็นพลังงานชุดต่อไปในการต่อสู้ เราต้องสู้และพัฒนากระบวนการต่อสู้จากปัญหาเดิมๆ เพราะไม่มีใครจะต่อสู้เพื่อมวลชนและประชาชนยกเว้นตัวเรา

5. โลกกำลังเปลี่ยนแปลงมาในทางที่เราปรารถนามากขึ้น อำนาจเริ่มเปลี่ยนจากสถาบันและองค์กรมาสู่ปัจเจกบุคคลหรือคนแต่ละคนมากขึ้น ผู้มีอำนาจในบางตำแหน่งจะกลายเป็น เจว็ด คือผู้นำที่ไม่มีความหมาย เป็นหุ่นกระบอกให้เขาเชิด และเป็นหัวหลักหัวตอของประเทศชาติ แต่เจว็ดเหล่านี้ก็จะใช้อำนาจที่มีน้อยลงทุกวัน ฟาดฟันฝ่ายตรงข้ามด้วยอัตตาและผลประโยชน์ทางการเมือง โดยความช่วยเหลือของระบบราชการชั่วและระบบทุนนิยมสามานย์ที่ร่วมกันรวยขึ้นมา เราต้องรู้จักหลบทางหมาบ้าตลอดปีหน้านี้

ผมตั้งใจจะไม่ลงลึกไปกว่านี้ในวันนี้ ทั้งที่มีอะไรอยู่ในใจอีกมากมาย เพราะผมหวังให้ท่านร่วมคิดด้วย ประชาชนไทยที่ไม่ได้พิการทางสมองและจิตใจยังมีอีกมาก คนที่ใช้โซเชี่ยลเน็ตเวิร์คในทางบวก เกินครึ่งของประเทศและโลก ถมทับคนที่รู้จักแต่ทำลายคนอื่นได้อย่างสบายจนจมดิน เราจึงจะฉลองการเปลี่ยนปีพุทธศักราชนี้อย่างทีมเดียวกัน เลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง ผมไม่มีแผนจะกลับบ้านในเวลานี้ จนกว่าเราจะเห็นพัฒนาการอย่างมีสาระสำคัญค่อยมาคิดกันอีกที ผมร่วมเกมเลือกตั้งกับเขานิดหน่อยเพราะว่าอยากได้ข้อมูลและประสบการณ์เท่านั้นเอง ใครที่นึกว่าเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้วบ้านเมืองของเราจะดีขึ้น คงต้องย้อนกลับไปเรียนประวัติศาสตร์ไทยในระดับปฐม ก.กา กันใหม่

นี่ล่ะครับ คำอวยพรปีใหม่จากผมถึงท่าน อาจไม่มีคำหวานมากมาย แต่มาจากใจครับ

ถึงเหตุควรยินดีมีไม่มาก
แต่ขอฝากปีข้ามด้วยความหวัง
บุญกุศลไทยผองยังรองรัง
อาจยังตั้งสติได้อย่างไทยเดิม

อาจเลือกตั้งในระบอบกรอบแบบเก่า
อาจรู้เท่าทันขนาดอำนาจเสริม
อาจเบื่อหน่ายในชีวิตคิดอย่างเดิม
อาจได้เติมสากลในคนไทย

ถึงเราเดินย่ำเท้าจนเก่าคร่ำ
แต่วันหนึ่งจะนำสู่ปีใหม่
ไทยคิดช้าเดินช้าว่ากันไป
แต่เมื่อไหร่เริ่มนับไม่กลับคืน!

สวัสดีปีใหม่ พ.ศ. 2562 ครับ

จักรภพ เพ็ญแข
นอกราชอาณาจักรไทย
31 ธันวาคม พ.ศ. 2561

ที่มา FB

Sa-nguan Khumrungroj