วันศุกร์, ธันวาคม 21, 2561

เรื่องนี้ต้องมีคำตอบ!! ชื่อกระทรวงใหญ่ โผล่บนโต๊ะจีนพลังประชารัฐ - สมชัยแฉ! ถามใช้ภาษี?




สมชัย แฉ! – เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. เวลา 14.00 น.นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต.และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า งานอาจเข้าที่พลังประชารัฐ (พปชร.) งานโต๊ะจีน 200 โต๊ะ น่าจะมีปัญหา เมื่อสำนักข่าวอิศราได้รายงานผังการจัดโต๊ะจีนเมื่อคืนว่า มีเป็นของกระทรวงการคลัง 20 โต๊ะเป็นเงิน 60 ล้านบาท ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 3 โต๊ะ เป็นเงิน 9 ล้านบาท จึงเป็นคำถาม ว่า

1.ผู้เป็นรัฐมนตรีได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่การงาน เพื่อให้หน่วยงานราชการรัฐวิสาหกิจ สนับสนุนค่าโต๊ะจีนเมื่อคืนหรือไม่ และ

2.หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ ได้ใช้เงินงบประมาณของรัฐหรือไปขอการสนับสนุนหน่วยงานเอกชน เพื่อให้มาสนับสนุนงานดังกล่าวหรือไม่ เมื่อความปรากฏดังกล่าว จึงเป็นหน้าที่ของกกต.ในการแสวงหาข้อเท็จจริงโดยไม่จำเป็นจะต้องมีผู้ร้อง มิเช่นนั้น กกต.เองอาจถูกกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้โดยที่มาของข่าวว่ามาจากสำนักข่าวแห่งนึ่ง





นายสมชัย ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า หากเรื่องนี้เป็นความจริง ซึ่งต้องพิสูจน์ก่อนว่าคำว่า คลัง คือกระทรวงการคลัง หรืออักษรย่อ ททท.เป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหรือไม่ หากเป็นจริงก็ถือว่าเป็นความผิดชัดเจน เพราะเป็นไปไม่ได้ที่หน่วยงานของรัฐจะเอาเงินหลวงซึ่งเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินมาซื้อโต๊ะในงานระดมทุนเพื่อสนับสนุนพรรคการเมือง อย่างนี้ผิดกฎหมายแน่นอน

ไม่ใช่เรื่องมารยาทว่าสมควรหรือไม่สมควร แต่ผิดกฎหมายชัดเจน แม้กระทั่งถ้าใช้ชื่อหน่วยราชการ เช่น อ้างชื่อกระทรวง ทบวง กรม แล้วให้บริษัทเอกชนมาช่วยลงขัน อย่างนี้ก็ทำไม่ได้ เพราะถือว่าข้าราชการวางตัวไม่เป็นกลางในการเลือกตั้ง

“ดังนั้น ไม่ว่ารัฐมนตรี อธิบดี หรือใครที่เป็นข้าราชการ และลงนามในหนังสือเพื่อขอความอนุเคราะห์ให้ช่วยซื้อโต๊ะระดมทุนให้พรรคการเมือง หรือแม้กระทั่งการยกหูโทรศัพท์เพื่อขอให้เป็นสปอนเซอร์ซื้อโต๊ะก็ถือว่ามีความผิด

เมื่อปรากฏเป็นข่าวต่อสังคมก็ถือเป็นหน้าที่ของกกต. ที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ปรากฏและชี้แจงต่อสังคม โดยไม่ต้องมีคนร้องเรียนให้ตรวจสอบ หากไม่เช่นนั้นจะถือว่า กกต.มีความผิดฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่”นายสมชัย กล่าว

ooo





สมมตินะครับสมมติ

หนึ่ง สมมติว่า การจัดโต๊ะจีน ไม่สามารถแจ้งรายละเอียดที่ไปที่มาของเงินซื้อโต๊ะได้ ให้ดูมาตรา ๖๔ และ ๑๒๓

สอง สมมติว่า มี รมต. หรือ ข้าราชการเมืองคนใด โทรไปขอให้ บ.เอกชน ช่วยซื้อโต๊ะ ให้ดูมาตรา ๗๓ และ ๑๒๗

สาม สมมติว่า มีส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ไปขอให้ บ.เอกชน ซื้อซื้อโต๊ะ ให้ดูมาตรา มาตรา ๗๖ และ ๑๒๘

สี่ สมมติว่า กกต.รู้เรื่องนี้ ไม่ดำเนินการใด ให้ดู มาตรา ๑๕๗ ป.วิ.อาญา

มาตรา ๖๔ การหารายได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุนของพรรคการเมืองต้องกระทําโดยเปิดเผย และแสดงวัตถุประสงค์ว่าเป็นการระดมทุนของพรรคการเมืองอย่างชัดเจน

ให้หัวหน้าพรรคการเมืองประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปถึงจํานวนและที่มาของเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่ได้มาจากกิจกรรมดังกล่าว และให้มีหนังสือแจ้งนายทะเบียนทราบด้วย ทั้งนี้ ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่กิจกรรมดังกล่าวสิ้นสุดลง ประกาศและหนังสือแจ้งตามวรรคสอง ให้ระบุชื่อบุคคลผู้สนับสนุนเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าหนึ่งแสนบาทขึ้นไปด้วย

มาตรา ๑๒๓ พรรคการเมืองใดไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๖๔ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกินหนึ่งแสนบาท

มาตรา ๗๓ ห้ามมิให้ข้าราชการการเมืองใช้สถานะหรือตําแหน่งหน้าที่เรี่ยไรหรือชักชวน ให้มีการบริจาคให้พรรคการเมืองหรือผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่รวมถึงการที่ ข้าราชการการเมืองผู้นั้นเข้าร่วมกิจกรรมตามมาตรา ๖๔ โดยมิได้กระทําหรือมีส่วนกระทําการ อันเป็นการต้องห้ามนั้น

มาตรา ๑๒๗ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗๓ ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่ สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดห้าปี

มาตรา ๗๖ ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือกิจการที่รัฐ ถือหุ้นใหญ่ บริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดให้แก่พรรคการเมืองหรือเข้าร่วมกิจกรรม
มาตรา ๑๒๘ สมาชิกผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗๔ หรือผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗๕ หรือมาตรา ๗๖ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

ที่มา : พรป.พรรคการเมือง ๒๕๖๐