วันจันทร์, ธันวาคม 24, 2561

"จรรยา ยิ้มประเสริฐ" ผู้ลี้ภัยการเมือง เขียนถึงกรณีการอุ้มหายของ อ.สุรชัย และผู้ลี้ภัยทางการเมืองคนอื่น ๆ





#เสียงของผู้ลี้ภัยการเมืองไทย

ตั้งแต่เมื่อวาน ผมได้รับข่าวว่าทีมลี้ภัยอีกฝั่งโขง ทีมของ สุรชัย แซ๋ด่าน 4 คนหายไปจากบ้านร่วมสองอาทิตย์ และติดต่อไม่ได้

นี่เป็นการหายตัวกลุ่มที่สาม ของผู้เลี้ภัยชาวไทยในประเทศข้ามฝั่งโขง ที่ไม่อาจยอมรับสถานภาพความเป็นผู้ลีภัยของพี่น้องชาวไทยได้อย่างเปิดเผย เพราะความสัมพันธ์กับเผด็จการทหารไทย

เป็นที่ทราบกันดีว่า ทหารไทยเข้าไปป่วนเปี้ยนในประเทศอีกฝั่งโขงอย่างกับเป็นบ้านตัวเอง ผู้ลี้ภัยการเมืองที่นั่นกว่า 40 - 50 ชีวิต ต้องหลบซ่อนและย้ายที่อยู่กันเป็นว่าเล่น ในทุกครั้งที่ระดับนายพลไทยเดินทางข้ามฝั่ง

มิถุนายน 2559 ดีเจซุนโฮ อิทธิพล สุขแป้น นักเคลื่อนไหวการเมืองจากเชียงใหม่ที่ตัดสินใจลี้ภัยนับตั้งแต่รัฐประหาร 2557 ถูกอุ้มหาย และก็น่าจะเสียเสียชีวิตไปแล้ว โดยไม่มีการพบศพ

29 กรกฎาคม 2560 "สหายหมาน้อย" โกตี๋ ชื่อจริงคือวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำแดงฮาร์ดคอร์ ปทุมธานี ที่จัดรายการวิทยุสนับสนุนระบบสหพันธรัฐ ถูกอุ้มหาย และทางสหายของเขายืนยันว่าเสียชีวิตแล้ว และก็ไม่การพบศพเช่นกัน

เมื่อเดือนที่ผ่านมา ครอบครัวของลุงสนามหลวง ที่เป็นผู้ลี้ภัยและจัดการรายวิทยุเรียกร้องระบอบสหพันธรัฐที่เมืองไทย พร้อมกับแนวร่วมกว่า 20 คนก็ถูกอุ้มถูกจับที่เมืองไทย

สองอาทิตย์ที่ผ่านมา เผด็จการประยุทธ์ จันทร์โอชาเดินทางไปเยือนลาว ผู้ลี้ภัยทุกคนแถวนั้น ต้องย้ายที่พักหนีการพยายามอุ้มตัวกันจ้าละหวั่น และความโกลาหลเพิ่งจะยุติลง และเริ่มติดตามถามหากันว่า ทุกคนยังอยู่ครบดีหรือไม่

แต่เมื่อหลายกลุ่มไม่สามารถติดต่อทีมสุรชัย แซ่ด่านได้ เรื่องราวการหายตัวไปของสุรชัย แซ่ด่าน กับผู้อยู่ร่วมบ้านอีก 3 คน จึงเผยแพร่ออกมาในบ่ายวันนี้ตามเวลาประเทศไทย

พี่น้องทุกท่านครับ

ที่ผ่านมา ผู้ลี้ภัยการเมืองไทย ที่ลี้ภัยเพราะมาตรา 112 หรือเพราะการเมืองเหลืองแดง ที่ออกนอกประเทศกันมาตั้งแต่หลังยุคปราบปรามคนเสื้อแดง 2553 หรือหลังรัฐประหาร 2557 ส่วนมากยังคงทำการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมต่อสู้ให้ได้มาซึ่งสังคมที่เป็นประชาธิปไตยและเคารพเสรีภาพความเป็นคนเท่าเทียมกันของประชาชนในประเทศไทย

ผู้ลี้ภัยชาวไทยต่างใช้เครื่องมือสื่อสารง่ายๆ คือ โทรศัพท์มือถือและสัญญาณอินเตอร์เนต ไปกับการสื่อสารข้อมูล หรือความคิดไปยังพี่น้องในประเทศไทยหรือทั่วโลก โดยไม่ต้องเซนเซอร์ตัวเองเพราะความกลัวอำนาจ 112 และอำนาจทหารกันได้มากกว่ายามอยู่ในประเทศไทย

พวกเขาโดยเฉพาะทีมงานที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอีกริมฝั่งโขง ได้ทำงานกันอย่างต่อเนื่องและอย่างเสียสละ ในสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบากและอัตคัตขาดแคลน และในสภาพที่ไม่มีความปลอดภัย รวมทั้งยังต้องอยู่ภายใต้ความกดดันต่างๆ มากมาย ทั้งกระบวนการ IO และคุกคามโดยตรงจากทหาร หรือโดยอ้อมโดยการกดดันครอบครัวของพวกเขาที่เมืองไทยเพื่อบีบให้พวกเขายุติการนำเสมอมุมมองทางการเมืองและทางสังคมไทยอย่างตรงไปตรงมา

พวกเขาคือกลุ่มคนที่ไม่อาจเอ่ยถึงได้อย่างเป็นทางการ จากสื่อกระแสหลัก หรือจากผู้คนในประเทศไทย

พวกเขาคือกลุ่มคนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะสู้ตาย เพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

พวกเขาตัดสินใจและมุ่งมั่นว่า ที่ต้องออกไปเคลื่อนไหวทางการเมืองที่นอกประเทศไทย เพราะต้องการเสรีภาพที่มีมากกว่าที่จะเปิดโปงความเนาะเฟะและปัญหา "ที่พูดไม่ได้" ที่สั่งสมมายาวนาน

แม้ว่าจะตระหนักดีว่า สิ่งที่พวกเขาทำ ไม่อาจได้รับการยกย่องชื่นชม และเป็นการทำโดยที่ไม่อาจหวังผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น

พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ร่วมเปิดหูเปิดตาสังคมไทย ให้ไม่มืดบอดไปกับการหลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อด้านเดียวที่กระทำมาอย่างยาวนาน

มันถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ทางเมืองไทยจะตระหนักถึงความเสียสละและความเสี่ยงในชีวิตของพวกเขา ที่เป็นกลุ่มคนไทยที่สู้เพื่อเมืองไทยที่ต่างประเทศ

มันถึงเวลาหรือยัง ที่พวกเขาจะไม่ใช่ "คนที่พูดถึงไม่ได้" ​แต่เป็นคนที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกันเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านคุ้มครองพวกเขา และให้เผด็จการไทยหยุดคุกคามพวกเขา และให้คำตอบกับการอุ้มหายที่ผ่านมา และล่าสุดต่อการหายตัวไปกลุ่มสุรชัย แซ่ด่าน

มันถึงเวลาหรือยัง ที่จะต้องไม่ให้มีการอุ้มหายหรือเสียชีวิตนักกิจกรรม หรือทุกคนที่ต่อสู้เพื่อปลดแอกเผด็จการ

ผมเขียนสเตตัสนี้เพื่อย้ำเตือนกับพี่น้องคนไทยว่า มีพวกเรา คนที่เลือกสู้กับเผด็จการและกับระบอบที่กดขี่ที่ต่างประเทศ และจากทั่วทุกมุมโลกอยู่จำนวนไม่น้อย แม้จะไม่ได้สู้ร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ แต่ก็สู้กันอย่างต่อเนื่องด้วยความมุ่งมั่นและเสียสละ

พวกเขาพวกเราเกือบทุกคน อยู่ท่ามกลางความยากลำบาก ยากแค้น และขัดสน แต่ก็ไม่เคยละทิ้งอุดมการณ์ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประเทศของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน

ผมขอร้องมายังสหายและเพื่อนฝูงว่า ขอให้ร่วมกันเรียกร้องหาคำตอบการทำร้ายนักกิจกรรมการเมืองในประเทศไทยกันอย่างต่อเนื่อง และเรียกร้องคำตอบของการอุ้มหายผู้ลี้ภัยที่ต่างประเทศที่กระทำโดยรัฐบาลเผด็จการทหารไทยกันอย่างจริงจัง

ขอฝากองค์กรสิทธิมนุษยชนไทยและต่างชาติในประเทศไทย ให้ติดตามข้อเท็จจริง และรับดูแลปัญหาของผู้ลี้ภัยไทยที่ประเทศเพื่อนบ้านกันอย่างจริงจังด้วยครับ

สุดท้ายนี้ ขอยืนยันอีกครั้งที่ 100 ที่ 1000 ว่าทหารที่ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอาชญากร ที่จะต้องถูกนำตัวมาลงโทษ เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างไม่ให้ทหารไทยเข้ามาแทรกแซงการเมืองไทยได้อีกต่อไป

ขอบคุณทุกคนที่อ่านและร่วมเผยแพร่ต่อข้อเขียนนี้


Junya Yimprasert

...