วันพุธ, ธันวาคม 19, 2561

คานธี ใช้หลักอหิงสากับคนที่แข็งแรงกว่า ใช้ความรุนแรงกับคนที่อ่อนแอกว่า ? - มหาวิทยาลัยกานาย้ายรูปปั้นของ #คานธี หลังติดตั้งมาได้เพียง 2 ปี เพราะ สนับสนุนการ #แบ่งแยกชนชั้น





กรณีมหาวิทยาลัยกานาย้ายรูปปั้นของ #คานธี หลังติดตั้งมาได้เพียง 2 ปี น่าจะทำให้คนตระหนักถึงเหรียญอีกด้านหนึ่งของนักต่อสู้แนวอหิงสาท่านนี้ นั่นคือการสนับสนุนการ#แบ่งแยกชนชั้น

ตอนที่ยังอยู่ในแอฟริกา สิ่งที่คานธีร้องเรียนมากสุดคือ การที่รัฐบาลปฏิบัติกับคนอินเดีย เสมือนกับเป็นพวก Kaffir ถ้อยคำที่ใช้เรียกคนผิวดำแบบดูถูก สำหรับคานธี Kaffir มีสถานะต่ำกว่าคนอินเดีย (https://www.bbc.com/news/world-asia-india-34265882) เหตุที่คานธีเข้าร่วมกับกองทัพอังกฤษในสงคราม Boer เพื่อปราบปรามคนดำที่เรียกร้องอิสรภาพ ก็เพราะเขาไม่ต้องการให้คนอังกฤษมองว่า คนอินเดียเป็นพวกเดียวกับ Kaffir เหล่านี้นั่นเอง (“The Boer Government insulted the Indians by classing them with the Kaffirs.” https://bit.ly/2R0uFzM)

ที่มีคนอ้างว่าการต่อสู้เพื่อเอกราชในอินเดียของคานธี เป็นแรงบันดาลใจที่คนดำในแอฟริกาปลดแอกตนเอง จึงไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะคานธีเชื่อมั่นอย่างมากในความแตกต่างระหว่างชนชั้น เขาเชื่อมั่นในเรื่องชนชั้นวรรณะ ซึ่งจำแนกคนเป็นลำดับชั้นแตกต่าง แยกตาม “ความบริสุทธิ์” (purity) คานธีซึ่งเป็นฮินดูจากวรรณะสูง ไม่เคยเสนอให้ยกเลิกระบบวรรณะในอินเดีย ไม่เชื่อเรื่องการขยับฐานะทางชนชั้นที่มีมาแต่กำเนิด ตรงกันข้าม ในปี 1921 เขาเขียนในวารสาร นวชีวัน Navajivan ว่า

“ข้าพเจ้าเชื่อว่าสังคมฮินดูจะอยู่รอดได้ เพราะตั้งอยู่พื้นฐานของระบบวรรณะ....การทำลายระบบวรรณะ และหันมาใช้ระบบสังคมแบบยุโรปตะวันตก หมายถึงชาวฮินดูต้องละทิ้งการจำแนกคนตามอาชีพที่สืบทอดทางสายโลหิต และเป็นหัวใจของระบบวรรณะ ระบบที่สืบทอดทางสายโลหิตควรเป็นหลักการถาวร การเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะทำให้เกิดความวิปริต ข้าพเจ้าจะสามารถใช้ประโยชน์จากคนวรรณะพราหมณ์ได้ ถ้าไม่อาจเรียกเขาว่าพราหมณ์ตลอดชีวิต มันจะทำให้เกิดความสับสนอลหม่านในชีวิตประจำวัน ถ้าคนวรรณะพราหมณ์สามารถเปลี่ยนไปคนวรรณะศูทรได้ และคนวรรณะศูทรเปลี่ยนมาเป็นวรรณะพราหมณ์ได้”

“I believe that if Hindu Society has been able to stand, it is because it is founded on the caste system … To destroy the caste system and adopt the Western European social system means that Hindus must give up the principle of hereditary occupation which is the soul of the caste system. Hereditary principle is an eternal principle. To change it is to create disorder. I have no use for a Brahmin if I cannot call him a Brahmin for my life. It will be chaos if every day a Brahmin is changed into a Shudra and a Shudra is to be changed into a Brahmin.”

อันนี้ลอกมาจาก “The Doctor and the Saint” (ดาวน์โหลดจากลิงก์นี้ https://bit.ly/2NXOpz4) คำนำของ Arundhati Roy ในหนังสือ Annihilation of Caste เป็นข้อเขียนที่อ่านแล้วตื่นตาตื่นใจมาก ระบบวรรณะซึ่งเป็นภัยร้ายแรง แต่กลับยืนหยัดได้ยาวนานเพราะความชอบธรรมจากศาสนา และความสนับสนุนจากมหาบุรุษอย่างคานธี ซึ่งแม้เรียกร้องเอกราชอย่างอหิงสา แต่เป็นผู้สนับสนุนการแบ่งแยกชนชั้นอย่างเข้มข้น
https://www.theguardian.com/world/2018/dec/14/racist-gandhi-statue-removed-from-university-of-ghana



Pipob Udomittipong

...

นิรันด์ เป็งสลี คานธี ใช้หลักอหิงสากับคนที่แข็งแรงกว่า ใช้ความรุนแรงกับคนที่อ่อนแอกว่า