ขณะพรรคการเมืองชุลมุนชุลเก สนช.ลิ่วล้อ คสช.คืบคลานกอบโกย ขึ้นเงินเดือนทหารนายพล

ขณะที่พรรคการเมืองกำลังชุลมุนชุลเกกันอยู่ บ้างย้ายบ้าน บ้างตีท้ายครัว บ้างสำออยจะขอเลื่อนเลือกตั้งอีกแน่ะ แม้พี่ใหญ่ คสช. ยืนยันถึงขั้นท้าชกปากกันว่ายังไงไม่มีเลื่อน ทว่าน้องใหญ่ตอนนี้ไม่สนเรื่องอื่น กำลังปลื้มกับ ‘ตะลุมพุก’ประธานอาเซียน

ด้านม็อบชาวสวนยางตั้งท่าแข็งขันมาหลายขยัก ตอนนี้ก็ฝ่อไปแล้ว ปล่อยให้พวกลิ่วล้อใน สนช. คืบคลานกอบโกยงบประมาณชาติอย่างปลอดโปร่ง วันนี้สินะ (๑๖ พ.ย.) พวกเขาจะผ่านร่างกฎหมายขึ้นเงินเดือนทหารระดับนายพลกันขนานใหญ่

“หากผ่านความเห็นชอบจาก สนช. จะทำให้นายทหารสัญญาบัตรยศพลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก และยศพลเอกพิเศษ พลเรือเอกพิเศษ พลอากาศเอกพิเศษ ให้ได้รับเงินเดือนระดับ น.๙ โดยเป็นขั้นเงินเดือนสูงสุดของข้าราชการทหาร”

นี่เป็นผลงานของ สนช.สนองนายเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่มีการอนุมัติขึ้นเงินเดือนนายทหารมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี ๒๕๕๘ ซึ่งตอนนั้นอัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดระดับ น.๙ นั้นให้กับผู้มียศจอมพล หรือพลเอกที่กินเงินเดือนจอมพล ถึงวันนี้อัตราจอมพลเปลี่ยนไปเรียก ‘พลเอกพิเศษ’ และพลเรือ-อากาศเอกพิเศษ

เกณฑ์เงินเดือนระดับ น.๙ ปีนี้จะอยู่ที่ต่ำสุด ๕๖,๑๑๗ บาท และสูงสุดที่ ๗๖,๖๐๔ บาท โดยอัตราเดิมจากปี ๕๘ ต่ำสุดที่ ๔๒,๒๑๗ บาท และสูงสุดที่ ๗๒,๙๖๕ บาท ไม่เลวเลยเชียว อัตราขั้นต่ำเพิ่มอีกหมื่นกว่าบาทภายในสามปี สบายโก๋

(https://ilaw.or.th/)

ส่วนพวกม็อบยาง ‘สามโลร้อย’ ที่ฮึ่มๆ มาหลายขยัก ยกขวนรถ ๕๐ คัน ๑๐๐ คน จาก ๓ อำเภอเมืองคอน มาได้ถึงแค่นาสาร สุราษฎร์ จอดกันแล้ว รอดูใจรัฐบาลตู่อยู่ก่อน ถึงแม้ว่า “รัฐบาลบอกจะใช้เวลา ๗ วันแก้ปัญหาพวกผมไม่ค่อยจะเชื่อ” ก็เถอะ

นายมนัส บุญพัฒน์ นายกสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางแถลงด้วยวาจาด้วยว่า “นับจากนี้ที่รัฐบาลบอกจะแก้ไขก็จะรอ หากไม่มีการแก้ไขอะไรเกิดขึ้น จึงจะมีการขับเคลื่อนอีกครั้ง” ใครจะว่า ‘ม็อบกระจอก’ ก็ชั่งมันเนอะ

(https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_1824554)

ด้านพรรคพลังประชารัฐแฟนขลับลุงตู้บดูจะคึกคักมากหน่อยขณะนี้ มีอดีต รมต. และอดีต ส.ส. จากอีสาน ที่เกี่ยวข้องกับทีมบอลขอนแก่น ยกพวกไปสยบ พปชร. กันเป็นขบวน นอกจากตระกูลช่างเหลา แล้วยังมีเวียง วรเชษฐ์ วิชัย ชัยจิตวณิชกุล และสมศักดิ์ คุณเงิน ที่เคยสังกัดเพื่อไทยและพลังประชาชนกันมา

 

ทางภาคใต้ก็มีอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายคนที่ย้ายบ้านไปซบพลังประชารัฐ ทั้ง ทวี สุระบาล วิโรจน์ ทองโอเอี่ยม(หมอใจเทวดา) ธวัชชัย อนามพงษ์ และยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา พวกนี้บอกว่ากระแสความนิยมนายหัวชวนตกมาก ยั้งไม่ไหวแล้วทั้งนั้น

สำหรับ ปชป. ยังเจอ ‘ศึกในครัว’ เข้าอีก เมื่อ ถาวร เสนเนียม กปปส.เก่า เปิดบ้านรับเทพเทือกเดินหาเสียง ปล่อยให้ประกาศล้ม ศิริโชค โสภา ที่สงขลาเสียนี่ เรื่องนี้ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ประกาศ “รับไม่ได้” ต้องจัดการเพราะผิดระเบียบพรรค โทษหนักถึงไล่ออก

หัวหน้าม้าร์คก็รับลูกทันใจ “เบื้องต้นให้นายนิพิฏฐ์สอบสวนข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เป็นการกระทำที่ขัดต่อ ข้อบังคับพรรคในฐานะสมาชิกพรรคหรือไม่” และไม่วายติดปลายนวมไว้หน่อยด้วยว่า “กรณีนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่นายถาวร สนับสนุน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก ในการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค” นะจ๊ะ

(https://www.khaosod.co.th/politics/news_1828670)

ยังดีที่มี ‘นิวเด็ม’ กลุ่มคนรุ่นใหม่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแก้เกมด้วยการชวนพรรคต่างๆ ร่วมเตะบอลกระชับมิตรแบบไม่มีสี วันเสาร์ที่ ๑ ธันวานี้ ยังไม่รู้มีใครตอบรับบ้างแล้ว รู้แต่มีคนแซวทางสื่อโซเชียล ว่าอนาคตใหม่ขอเปลี่ยนเป็นเล่น ROV ได้ไหม

 

แต่ฮือฮาเป็นพิเศษอยู่ที่ วทันยา วงษ์โอภาสี หรือ ‘มาดามเดียร์’ อดีตผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย นอกเหนือจาก ณพงศ์ นพเกตุ ผู้อำนวยการนิด้าโพล ที่ประกาศเป็น พปชร. แน่นอน จำเพาะคุณนายเดียร์นี่สำมะคัญ นอกจากเธอกว้างขวางวงการบอลแล้วยังเป็นวงในของสื่อจอมเสี้ยมด้วย

วทันยาเป็นภรรยาของฉาย บุนนาค ‘เซียนหุ้นร้อยล้าน’ ที่มีเอี่ยวอยู่กับบริษัทโซลูชั่นคอนเนอร์ หรือ SLC เจ้าของสปริงนิวส์ที่เพิ่งเข้าไปยึดครองค่ายเนชั่นได้ไม่นาน งานนี้ Thanapol Eawsakul บอกว่า “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลังจากนี้ เนชั่น สปริงนิวส์ จะมีท่าท่อย่างไรกับพรรคพลังประชารัฐ”

หนักหน่อยก็ตรงที่มีความเกี่ยวโยงพัลวันอยู่พอสมควรกับสื่อเสี้ยมที่ได้ฉายาว่าเป็น ‘ยานเกราะยุคดิจิทัล’ ของสนธิญาน ชื่นฤทัยในธรรม (หนูแก้ว) ซึ่งตอนนี้จัดรายการอยู่ที่เนชั่น

ขณะเดียวกันมีเบาะแสจากอดีต กกต. สมชัย ศรีสุทธิยากร ว่าวันที่ ๒๒ พ.ย.นี้จะมีกลุ่มพรรคการเมืองพวกกระจิบรวมแล้วสัก ๑๐ พรรคเห็นจะได้ เตรียมเปิดแถลงแจ้งยื้อกันที่โรงแรมเซ็นทรา แจ้งวัฒนะ ว่า พรป.พรรคการเมืองมีปัญหาต่อพรรคเล็กพรรคน้อย

“อย่างการหาสมาชิกพรรคให้ได้ ๕๐๐ คนเป็นต้น พรรคที่ได้รับจดจัดตั้งใหม่มีเวลาน้อยในการหาสมาชิก” พรรคเล็กๆ เหล่านี้ เช่นพรรคแผ่นดินธรรมและพรรคครูไทยเพื่อประชาชน เป็นต้น ต้องการให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีกหน่อย

ครั้นนายภราดร ปริศนานันทกุล สมาชิกคนรุ่นใหม่พรรคภูมิใจไทยรู้เข้า ออกมาโวยค้านทันที บอกว่ามีแค่บางส่วนเท่านั้นอย่าไปให้ราคา เป็นพวก “คนที่มาสาย คนที่มาไม่ทัน แล้วบอกให้รถบัสรอก่อน” เขาจวกยับ “ทำไมตั้งแต่มีการเปิดให้จดจัดตั้งพรรค ท่านคิดจะทำพรรคการเมืองควรที่จะตื่นตัวไปจดจัดตั้งพรรค

ไม่ใช่เพิ่มจะมาจดจัดตั้งกันตอนนี้” ถ้าอย่างนั้นให้รอไปอีกสี่ปี ไปเตรียมตัวให้พร้อมแล้วลงเลือกตั้งรอบหน้า รอบนี้ขอ ๒๔ กุมภา และไม่เอาแม้แค่ยืดไปในกรอบถึง ๕ พฤษภาคม

(https://www.matichon.co.th/politics/news_1229145 และ https://www.thairath.co.th/content/1422156)

ดูท่าแล้ว คสช. คงไม่บ้าจี้เลื่อนเลือกตั้งตามพรรคจิ๊บจ้อยเหล่านั้น แหมกำลังได้ทีแล้วจะไม่ให้ขี่แพะไล่ จะกลับไปขี่ควายได้อย่างไรกัน