วันอังคาร, พฤศจิกายน 20, 2561

มาแล้ว เลือกตั้งช้าแน่.. ปธ.กกต. แอ่นอก รับแบ่งเขตเลือกตั้งช้า เหตุปัญหาสุขภาพ ต้องไปผ่าตัดตา ไม่เกี่ยวกับผู้มีอำนาจแทรกแซง (ควรลาออกไปรักษาตัวครับ อย่าให้ประเทศชาติ suffer ต่อเลย)




ปธ.กกต.รับแบ่งเขตเลือกตั้งช้า เหตุปัญหาสุขภาพ ต้องไปผ่าตัดตา!


ปธ.กกต. แอ่นอก รับแบ่งเขตเลือกตั้งช้า เหตุปัญหาสุขภาพ ต้องไปผ่าตัดตา ไม่เกี่ยวกับผู้มีอำนาจแทรกแซง ยันต้องแบ่งเขตเลือกตั้งตามกฎหมายไร้ใบสั่ง...

เมื่อวันที่ 19 พ.ย.61 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ยืนยันว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งของ กกต.ไม่มีอะไรเคลื่อนไปจากที่กฎหมายกำหนด โดยในคำสั่งที่ 13/61 ระบุให้ กกต.แบ่งเขตเลือกตั้งให้แล้วเสร็จก่อน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลใช้บังคับในวันที่ 11 ธันวาคม เช่นเดียวกับคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/2561 ที่ออกมาล่าสุด แต่ยอมรับว่าการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งอาจจะคลาดเคลื่อนไปจากปฏิทินของ กกต.ที่กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งมีสาเหตุมาจากเรื่องของสุขภาพที่ตนต้องไปผ่าตัดตา เพราะ กกต.ได้พิจารณาแบ่งเขตเลือกตั้งรอบแรกเสร็จตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. และอยู่ในระหว่างทบทวนความถูกต้องก่อนนำไปประกาศ แต่เกิดปัญหาสุขภาพของตนจึงทำให้เวลาการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งในราชกิจจานุเบกษาไม่เกินวันที่ 10 พ.ย.เคลื่อนออกไป ทั้งๆ ที่เราตั้งใจยึดถือปฏิบัติตามระเบียบให้ได้มากที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตามระเบียบของ กกต.ก็เปิดช่องให้ขยายเวลาได้ พร้อมกับปฏิเสธที่จะให้ความชัดเจนในเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งว่าจะต้องมีการรื้อใหม่ทั้งหมดหรือไม่ รวมถึงไม่ขอตอบเรื่องแนวทางปฏิบัติของ กกต.หลังมีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/61 ออกมา ทั้งเรื่องการรับการร้องเรียนที่เปิดให้ร้องเรียนได้สามช่องทางคือผ่าน คสช. รัฐบาลและ กกต. รวมถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ว่าจะยึดแนวทางใด โดยขอหารือกับที่ประชุม กกต.เพื่อให้ได้มติร่วมกันก่อนจึงจะให้รายละเอียดได้

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวเรื่องใบสั่งจากผู้มีอำนาจให้เปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้งนั้น นายอิทธิพร กล่าวว่า ตนไม่คิดเช่นนั้น เพราะได้บอกแล้วว่าคำสั่งหัวหน้า คสช.ทั้งฉบับที่ 13/61 และ 16/61 ล้วนกำหนดให้แบ่งเขตเลือกตั้งก่อนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ไม่แตกต่างกัน ซึ่ง กกต.ให้ความมั่นใจได้ว่าเมื่อเรามีหน้าที่แบ่งเขตเลือกตั้งก็จะปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และจะต้องแบ่งให้ทันก่อนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ โดยยืนยันได้ว่าจะไม่แบ่งเขตตามคำร้องขอของผู้มีอำนาจ เพราะคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 16/61 ก็ยังบอกว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด.

ooo

จรัญ พงษ์จีน : ปฏิทินเลือกตั้งฉบับ “วิษณุ” รับประกันเลื่อน-ไม่เลื่อนแค่ไหน?






มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 - 22 พฤศจิกายน 2561


มิต่างอะไรกับ “แสงเทียนส่องสว่างไสวในค่ำคืนมืดมิด” อีกครั้ง พลันที่ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย แจก “ปฏิทินเลือกตั้ง” ว่า คณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ได้หารือกับ “คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ-คณะกรรมการกฤษฎีกา-คณะกรรมการการเลือกตั้ง” ได้ข้อสรุปว่า

“พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11 ธันวาคม 2561 ทำให้ต้องจัดเลือกตั้ง ส.ส.ภายใน 150 วัน คือไม่เกินวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 วันเลือกตั้งคือวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562”

พร้อมกับไล่ไทม์ไลน์ เป็นวรรคตอน ให้ดูชมต่อไปด้วยว่า

16-27 ธันวาคม 2561 “กกต.” จัดเลือกตั้ง ส.ว.3 ระดับ อำเภอ-จังหวัด-ประเทศ

2 มกราคม 2562 กกต.ส่งรายชื่อ ส.ว. 200 คน จากทั้ง 3 ระดับ ให้ “คสช.” คัดเหลือ 50 คน และสำรอง 50 คน

9 กุมภาพันธ์ 2562 กรรมการสรรหา ส.ว. ส่งรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือก 400 คน คสช.คัดเหลือ 164 คน ส.ว.โดยตำแหน่ง 6 คน สำรอง 50 คน

15 กุมภาพันธ์ 2562 สนช.หยุดพิจารณาร่างกฎหมายทั้งหมด “ยกเว้น” ที่มีความจำเป็น

24 กุมภาพันธ์ 2562 เลือกตั้ง ส.ส. 500 คน มีนาคม 2562 กกต.พิจารณาข้อร้องเรียนการให้ใบเหลือง-ใบแดง เลือกตั้ง ส.ส.

24 เมษายน 2562 กกต.ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส. ตามกรอบเวลา 60 วัน

27 เมษายน 2562 คสช.พิจารณารายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกเป็น ส.ว. 200+50 คน เท่ากับ 250 คน แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ

8 พฤษภาคม 2562 สนช.สิ้นสุดสมาชิกภาพ ก่อนเปิดประชุมรัฐสภา 1 วัน

9 พฤษภาคม 2562 ประชุมรัฐสภา และเดือนมิถุนายน 2562 คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่ ทำให้ “ครม.-คสช.” พ้นหน้าที่

คำแถลงของ “วิษณุ เครืองาม” กล่าวได้ว่ามีความชัดเจนทางการเมืองว่าด้วยการเลือกตั้ง และประเทศไทย ระบอบประชาธิปไตยจะกลับมาเบ่งบานอีกครั้ง หลังถูกลบเลือนหายไป 8 ปีเต็มหากนับจากการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2554 และ 5 ปีเศษ หากนับหนึ่งจากจุดสตาร์ตของการ “ปฏิวัติ-ยึดอำนาจ” เมื่อปี 2557

เฟิร์มขนาดนี้แล้ว ระดับ “กูรู” ออกโรงการันตีเอง แต่กลับมีคนไม่เชื่อคำพูดอีกตั้งมากมาย

เพราะคำมั่นสัญญาว่าจะมีเลือกตั้ง โดนเบี้ยวมาซ้ำๆ ซากๆ “ศรีธนญชัย” มาตลอด พอพูดจริงทำจริง เลยไม่มีใครเชื่อ

หลัง “ยึดอำนาจ” ไม่นาน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หัวหน้า คสช. ประกาศเสียงดังฟังชัด ทหารจะใช้เวลาราวหนึ่งปี มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์

ดูสมเหตุสมผล น่าเชื่อถืออยู่ เมื่อมีการตั้ง “คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ” ขึ้นมาชุดหนึ่งแบบปัจจุบันทันด่วน มี “บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” เป็นประธาน แต่ไปได้ไม่กี่น้ำ “เรือแป๊ะ” ถูกคว่ำกระดาน โดยแม่น้ำอีกสายคือ “สนช.”

โรดแม็ปว่าด้วยการเลือกตั้งจึงเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ โดย คสช.แต่งตั้ง “มีชัย ฤชุพันธุ์” เป็นประธานยกร่าง พร้อมด้วยคณะขึ้นมา 21 คน

รวดเร็วฉับไวดุจกามนิตหนุ่ม รัฐธรรมนูญฉบับ “ปู่มีชัย” เสร็จสะเด็ดน้ำตามกรอบเวลา

เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 20 ของประเทศไทย ประกาศใช้เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560



ดูตามกลไก เมื่อ “รธน.60” ประกาศใช้ แม้จะติดติ่ง “กฎหมายลูก” 4 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับหมวดการเลือกตั้ง จะเตะถ่วงเนิ่นนานประมาณไหน เชื่อกันว่าเดือนมิถุนายน 2561 จะต้องประกาศวันเลือกตั้ง เดือนพฤศจิกายน 2561 จะต้องมีการเลือกตั้ง

แต่จนแล้วจนรอดก็เกิดปมดราม่าขึ้นมาจนได้ เมื่อ “คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ” เสียงข้างมากลากไป ขยายกรอบเวลาการบังคับใช้กฎหมาย 90 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา

อ้าง “คำสั่ง คสช.” ที่ว่า ในการกำหนดกระบวนการทางธุรกรรมของพรรคการเมือง จึงมีความเป็นห่วงว่าพรรคการเมืองจะมีเวลาเตรียมตัวเพื่อการเลือกตั้งไม่ทัน

จึงยืดเวลาประกาศใช้กฎหมายออกไปอีก 90 วัน เดิน “เข้าฮอส” กินนิ่มทั้งขึ้นทั้งล่อง ได้เลื่อนเวลาออกไปอีกนิดก็ยังดี แถมอ้างบุญคุณกับ “คนการเมือง” อีกต่างหาก

ด้วยปฐมเหตุที่โรดแม็ปเลือกตั้งโดนชักเข้าชักออกมานับครั้งไม่ถ้วน ด้วยประการดังกล่าว เมื่อถึงขนาดว่า “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย อ้างว่าได้ประชุมร่วมกับแม่น้ำทุกสาย กำหนด “ปฏิทินการเมือง” ออกมาเรียบร้อยคือ วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นวันเลือกตั้ง

“คนการเมือง” และผู้คนอีกหลายภาคส่วนกลัวจะโดนเบี้ยว ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย จึงไม่มีใครเชื่อน้ำมนต์

หวั่นๆ กันว่าจะโดน “ชักดาบ” อีกครั้ง เลยดาหน้าออกมาร่วมด้วยช่วยกันเตะสกัดกันมากมาย

“สุทิน คลังแสง” อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แสบไม่เบามากกว่าใคร ระบุว่า ที่นายวิษณุ เครืองาม ระบุว่า หากจะเลื่อนเลือกตั้ง เหตุผลไม่ใช่มาจากรัฐบาลหรือ คสช. แต่มาจากความไม่พร้อมของพรรคการเมืองมากกว่านั้น

“เรื่องนี้อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว เชื่อว่าสักพักก็จะมีพรรคการเมืองในเครือข่ายออกมาเคลื่อนไหวตามแผนแสดงความไม่พร้อม ใช้กุศโลบายชี้โพรงให้กระรอก แล้วใช้กระรอกเป็นตัวสร้างความชอบธรรม อ้างความไม่พร้อม เพื่อเลื่อนเลือกตั้ง เป็นการสมคบคิดกันเล่นเกมหลอกประชาชน”

ขณะที่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็อดที่จะกังวลต่อประเด็นนี้ไม่ได้ ตั้งข้อสังเกตว่า “พรรคที่ไม่พร้อม ไม่พร้อมตรงไหน และคำว่าไม่พร้อมกำหนดอย่างไร เพราะการเลือกตั้งทุกครั้งก็มีบางพรรคที่ไม่พร้อม พรรคเก่าและใหม่ ปัญหาแตกต่างกันไป พูดมาตลอดว่าปัญหาเกิดจากล็อก คสช.ทั้งนั้น ถ้าปล่อยให้พรรคการเมืองเดินได้ ปัญหาจะไม่เกิด”

อย่างไรก็ตาม พรรคไหน ใครไม่พร้อม ไม่ทราบ รู้แต่ว่า สำหรับ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่เชื่อกันว่าจะเป็นห้องเครื่องสำคัญ ส่งตัว “บิ๊กตู่” คืนทำเนียบ 2-3 วันที่เปิดตัววัดเรตติ้ง หัวกระไดไม่แห้ง

มีนักการเมืองขาเก่า ขาแก่ บิ๊กเนมขาใหญ่ แห่นาคไปยื่นความจำนงสมัครเนืองแน่น

แสดงว่า “พลังประชารัฐ” พร้อมทั้ง “กระสุน-บุคคล” เหลือแต่ “กระแส”