วันเสาร์, พฤศจิกายน 24, 2561

'พันกว่าล้าน' คัดตัวกันแค่ ๕๐ คนนี่ ไม่แค่ลากตั้งนะ ยัง ‘เล่นกล’ ตบตาผู้ชมเสียด้วย

เริ่มวันที่ ๒๖ พฤศจิกายนนี้ “เกิดขึ้นครั้งแรกในโลกแล้วไม่เกิดขึ้นอีก” กระบวนการจัดหาสมาชิกวุฒิสภาไทยภายใต้บงการคณะรัฐประหาร ที่ได้งบประมาณไปถลุง ๑,๓๐๓ ล้านบาท

ไม่ว่าคณะกรรมการเลือกตั้งจะพยายามโฆษณาให้ฟู่ฟ่า ขลัง และฟังดู วิเศษนิยม เพียงใด มันก็ยังเป็นเพียง ตลก จ๊กม๊ก ต้มคนดูอยู่นั่นเอง

ประธานบอก “ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของ กกต.เองประมาณ ๑,๑๗๖ ล้านบาท...จะใช้จ่ายให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด” ด้านเลขาฯ ว่า “สว.ชุดนี้จะมีวาระในการดำรงตำแหน่ง ๕ ปี เท่ากับว่าจะมีส่วนร่วมในการเลือกนายกฯอย่างน้อย ๒ ครั้ง” สำคัญมากนะนี่

ส่วนรองเลขาฯ ดราม่าที่สุด “กล่าวเตือนสื่อมวลชนในการเสนอข่าวเกี่ยวการรับสมัคร สว. ว่า จะไม่สามารถเปิดเผยชื่อหรือจำนวนผู้สมัครได้ จนกว่าจะปิดการรับสมัครในระดับอำเภอ เนื่องจากกฎหมายไม่ต้องการให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ”

ทั้งหมดนั่นต้องขอบใจ โพสต์ทูเดย์ ช่วยประโคม ตรงนี้ https://www.posttoday.com/politic/news/571707

แล้วยังมี บีบีซีไทย เสริมต่อยอดว่า ใน ๕ วันของการเปิดรับสมัครนี่ “ห้ามคณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่เปิดเผยรายชื่อและจำนวนผู้สมัครในแต่ละกลุ่ม...เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกัน”
 
ณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต. อธิบายเสียเป็นวรรคเป็นเวรว่า “อยากให้เป็นธรรมชาติ” คือถ้ารู้ชื่อรู้จำนวนแล้ว “ผู้สมัครอาจหนีจากกลุ่มที่มีคนเยอะไปสมัครกลุ่มที่มีคนน้อยกว่า” ดังนั้นสื่อมวลชนต้องรอถึงวันที่ ๑ ธันวาคม จึงจะนำรายชื่อไปเผยแพร่ได้

ทั่นรองเลขาฯ ยังชี้ถึงความเป็นวิเศษนิยม (ขอยืมคำของทั่นรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย วิษณุ เครืองาม มาใช้หน่อย) ที่การเลือกกันเองให้ได้รายชื่อผู้เข้าแข่งเป็น สว. ๒๐๐ คน ครั้งนี้จะ เงียบที่สุดในโลก ห้ามกระโตกกระตากใดๆ ทั้งสิ้น

“ก็เขาไม่ได้ต้องการให้เป็นข่าว แต่ต้องการให้คนกลุ่มเล็ก ๆ เลือกกันเองแบบกุ๊ก ๆ กิ๊ก ๆ แล้ว คสช. ก็ไปหยิบมา ๕๐ คนแบบเงียบ ๆ”


นั่นละพ่อแม่พี่น้อง กระบวนการ พันกว่าล้านเพื่อรับสมัครและจัดหาตั้งแต่ระดับอำเภอขึ้นมา ภายใน ๕ วัน ที่คาดว่าจะมีผู้เสนอตัวนับเป็นแสน ก่อนจะไปถึงกรรมวิธีเลือกกันเองด้วยบัตรหนึ่งใบ ให้ใส่ชื่อตัวเองและเพื่อน ใส่ชื่อเดียวกันซ้ำไม่ได้ถือเป็นโมฆะ

แล้วตัดยอดเอาไปสองร้อยราย ส่งให้ คสช. คัดเหลือแค่ ๕๐ นั้นน่ะ มันจะวิเศษนิยมแค่ไหน ในเมื่อจำนวน สว.ทั้งสิ้นมี ๒๕๐ คน คสช. ตั้งมาโดยตรง ๑๙๔ คน กับแม่ทัพนายกองที่เป็นโดยตำแหน่งอีก ๖ เท่ากับจำนวนที่ผ่านการคัดสรรให้ คสช. “เลือก” ๕๐ คนนั้น มีจำนวนเพียง ๑ ใน ๕
 
ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยกับการ “ได้ร่วมเลือกนายกฯ อย่างน้อย ๒ ครั้ง...ถือว่ามีความสำคัญ เพราะแพ้ชนะกัน ๑ คะแนน นายกฯ ก็เปลี่ยนได้เหมือนกัน” เหมือนอย่างที่ พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. อ้าง

ดังนี้ การที่ กกต. ตั้งแต่ประธานยันรองเลขาดาหน้ากันออกมาประโคมเสียขนานใหญ่ ไม่มีอะไรมากไปกว่า เล่นกลตบตาผู้ชม พวกเขาคิดว่าประชาชนดักดานหรือไร ถึงได้ใช้วิธีการลวงล่อง่ายๆ เช่นนี้

จึงเห็นเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก งบประมาณพันกว่าล้านจัดให้ใช้ในระยะสั้นๆ อย่างนี้หอมหวานน่าเล่นละซี