วันศุกร์, ตุลาคม 12, 2561

ฟัง 'จตุพร พรหมพันธุ์' ประมุข นปช. เปิดยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ พรรคพันธมิตรซีกประชาธิปไตยของ 'เพื่อไทย'




https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/videos/289188765031575/

...




ประธาน นปช. ขอเป็นกองเชียร์พรรคเพื่อชาติ เปิดทาง นปช.เข้าสังกัด ชี้ รธน. ออกแบบให้เกิดวิกฤตต้องสร้างสมดุล 'ใน - นอก' สภา ย้ำนอกสภาปล่อยให้เป็นหน้าที่ตัวเอง ฟาก 'สุเทพ' เจรจาหาทางออก พร้อมปฏิเสธข่าวจับมือ 'สนธิ - พุทธะอิสระ' ตั้งพรรคการเมือง


นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงถึงกระแสข่าวการตั้งพรรคเพื่อชาติว่า นปช. เคยประกาศว่าไม่ตั้งพรรคการเมืองยังยืนยันคำเดิม แต่พรรคเพื่อชาติเป็นพรรคที่ก่อตั้งในปี 2556 ไม่ใช่เพิ่งมาตั้ง อีกทั้ง ตนถูกตัดสิทธิไม่สามารถลงรับสมัครเลือกตั้ง หรือเป็นสมาชิกพรรคได้ ทำได้เพียงไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งเท่านั้น ดังนั้น ตนจึงอยู่ในฐานะกองเชียร์ และเห็นว่าระบบเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ ที่ออกแบบโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หากไม่ปรับตัวจะเหลือแค่คนกลุ่มเดียวในเวทีรัฐสภา เพราะในซีกของ กปปส.ได้ปรับตัวไปก่อน แตกออกเป็น 5 พรรค คือ กปปส.ในพรรคประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ รวมพลังประชาชาติไทย พรรคพลังธรรมใหม่ และพรรคประชาชนปฏิรูป

นายจตุพร กล่าวว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะรู้ตัวช้า ถ้ายังไม่ปรับตัวก็จะแพ้ เพราะรวมกันแพ้ แยกกันชนะ ซึ่งตามระบบเลือกตั้งใหม่ โดยใช้ฐานคะแนนเลือกตั้งปี 2554 มาคำนวณ พรรคใหญ่ที่ได้ ส.ส.เขตมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์น้อยลงเท่านั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.เขต 170 เขต ก็จะไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อเลย หากไม่แยกไปพรรคเพื่อชาติ คนในสภามีกลุ่มเดียวเท่านั้น

ย้ำนอกสภาปล่อย 'จตุพร - สุเทพ' เคลียร์หาทางออก

"ถ้าไม่แยกลงสนามในพรรคเพื่อชาติ ในเวทีรัฐสภาจะมีคนอยู่ฝ่ายเดียวเท่านั้น ผมต้องการคนอยู่ข้างนอกเหลือผมกับคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยก็พอแล้ว ที่เหลือก็ไปต่อสู้กันในเวทีรัฐสภา ข้างนอกเจรจาหาทางออกข้างนอก ในเวทีรัฐสภาก็ร่วมหาทางออกในเวทีรัฐสภา ผมไม่ต้องการชนะแล้วปกครองไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบให้เกิดวิกฤตได้ตลอดเวลา ถ้าไม่คุยร่วมหาทางออกสร้างความสมดุลแต่ละพื้นที่การพูดคุยก็จะไม่เกิด"





นายจตุพร ระบุว่า "คนใน กปปส. ยังแยกไป 5 พรรคการเมือง ผมยังไม่เคยได้ยินว่าเขาจะทะเลาะกัน แต่เขาเข้าใจในบริบทรัฐธรรมนูญฉบับคุณมีชัยว่ารวมกันจะแพ้ แยกกันจึงจะชนะ ผมต้องการสร้างเขตสมดุลในเขตสภา เพราะข้างนอกผมสามารถสร้างความสมดุลกันได้"

“คนของพรรคเพื่อไทยที่มีพื้นที่ลงสมัคร ส.ส.ในเพื่อไทย แล้วคิดจะมาลงในพรรคเพื่อชาติ ผมแสดงเจตนาตั้งแต่ต้นแล้วไม่ต้องมาพรรคเพื่อชาติ เพราะพรรคเพื่อชาติเปิดประตูให้คนที่ไม่มีพื้นที่ในเพื่อไทยมาลงเลือกตั้งกับพรรคเพื่อชาติ ซึ่งพรรคเพื่อชาติเปิดประตูให้กับทุกฝ่ายที่เป็นประชาธิปไตย และไม่เอาเผด็จการ โดยจะมีการส่ง ส.ส.350 เขต และไม่คิดว่าการตั้งพรรคเพื่อชาติจะมาแบ่งคะแนนกับพรรคเพื่อไทย เพราะฝ่ายตรงข้ามตั้งมา 5 พรรคก็ไม่มีการแบ่งคะแนนกัน ทุกฝ่ายทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และในทางปฏิบัติเรื่องการเป็นนอมินีของพรรคเพื่อไทย หรือ ฮั้วก็ไม่สามารถทำได้” นายจตุพร กล่าว

ปัด 'ชัชชาติ - นพดล' หัวหน้าเพื่อชาติ เตรียมประชุมเคาะ กก.บห. พ.ย.นี้

นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนกระแสข่าวที่มีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม เป็นนายกฯ ในบัญชีพรรค และ นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ จะมานั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคนั้น เป็นแค่กระแสข่าวยังไม่มีข้อมูล อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อชาติจะมีการประชุมพรรคเพื่อรับรองการแก้ไขข้อบังคับพรรค เปลี่ยนโลโก้พรรค วันที่ 14 ต.ค.นี้ ที่อิมพีเรียลสำโรง ส่วนการประชุมใหญ่เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรค จะอยู่ในช่วงกลางเดือน พ.ย. ที่ยิมนีเซียม 1 ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ส่วนข่าวที่ตนกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ พุทธอิสระ หารือกันตั้งพรรคเพื่อชาตินั้นเป็นข้อความที่เป็นความเท็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีความจริง และ นปช.ไม่ได้ตั้งพรรคการเมือง ซึ่งตนกับนายสนธิและพุทธอิสระได้พูดคุยเรื่องการหาทางออกให้บ้านเมือง แต่ไม่ได้พูดถึงการตั้งพรรคเพื่อชาติ ซึ่งข่าวที่ออกมาเพราะนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ไปพูดในรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ซึ่งพูดเกี่ยวกับความประทับใจที่ตนได้พูดเรื่องทางออกบ้านเมืองกัน แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งพรรคแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่นายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล บุตรชายนายสนธิขอให้หยุดอ้างชื่อบิดานั้น ตนขออโหสิกรรมให้ ไม่มีประโยชน์อะไรที่ตนจะไปหาเศษหาเลยกับนายสนธิ เพราะตนคิดไปไกลกว่านั้น

ที่มา Voice TV