ที่มา มติชนออนไลน์
6 มี.ค. 59
วิเคราะห์ …เหลือเพียงเวลาไม่ถึง 150 วัน จะถึงวันลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับมีชัย ฤชุพันธุ์ หัวขบวน กรธ. ทุกองคาพยพของแม่น้ำ 5 สาย มีแต่เร่งรีบ เอาจริงเอาจังกับการทำประชามติ มากกว่าครั้งร่างรัฐธรรมนูญฉบับบวรศักดิ์
อาจเพราะร่างรัฐธรรมนูญของบวรศักดิ์ ต้องผ่านการชี้ชะตาโดย สปช. จึงจะเข้าสู่ขั้นตอนการทำประชามติ ต่างจากร่างรัฐธรรมนูญมีชัย ที่จะเข้าสู่ขั้นตอนโหวตแบบหักดิบโดย “ประชาชน” ทันที การลงประชามติไม่เพียงชี้ชะตาร่างรัฐธรรมนูญ กำหนดชะตากรรมประเทศ แต่ยังชี้ชะตาอนาคตแม่น้ำ 5 สายของ คสช. ทั้งองคาพยพหากร่างรัฐธรรมนูญไม่ผ่านประชามติ
ท่ามกลางเสียงตำหนิ เสียงท้วงติงจากคนการเมืองทั้งตัวเล็ก ไปถึงนักการเมืองระดับบิ๊กเนม อย่างนายทักษิณ ชินวัตร
ขนานด้วยนักวิชาการด้านนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญมีชัยมีแต่จุดด้อยมากกว่าจุดดี ขณะที่จุดเด่นยังมีน้อย
และหากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ จะทำให้บ้านเมืองถอยหลังกลับไปสู่ยุคประชาธิปไตยครึ่งใบ
นั่นจึงทำให้การเข็นรัฐธรรมนูญฝ่ากระแสคัดค้าน ทักท้วง ไปจนถึงโน้มน้าวใจผู้มีสิทธิออกเสียงประชามติให้ลงความเห็นชอบเกินครึ่งนั้น เป็นภารกิจยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา
ไม่แปลกที่องคาพยพของ คสช.จะช่วยกันออกแรงเข็นให้ร่างรัฐธรรมนูญมีชัยไปถึงเส้นชัย
เริ่มต้นจากรัฐบาล-คสช. โดยกองทัพบก ที่มี “พล.อ.ธีรชัย นาควานิช” ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ขนนักศึกษาวิชาทหาร (รด.) ภายใต้โครงการ “รด.จิตอาสา” มาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี’58 ซึ่งมีมากกว่า 326,000 คนต่อปี หวังใช้กลไกนักศึกษาวิชาทหาร ดึงญาติ พี่ น้อง ให้ความสนใจกับการลงประชามติ-สร้างการรับรู้ร่างรัฐธรรมนูญ
อีกทั้ง “พล.อ.ธีรชัย” ในฐานะเลขาธิการ คสช. ที่อีกสถานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบแห่งชาติ (กกล.รส.) ยังมีกลไกของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1-4 เป็นกลไกสร้างการรับรู้ต่อร่างรัฐธรรมนูญ-รณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิในการลงประชามติ
เป็นจ๊อบเดสคริปชั่นเพิ่มเติมของกองกำลังพิเศษ ซึ่งทำหน้าที่ประจำ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2557 อยู่แล้ว คือ การปฏิบัติต่อเป้าหมายบุคคล และการติดตามกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ การติดตามเฝ้าระวังสื่อโทรทัศน์ โทรคมนาคม ระบบการติดต่อสื่อสาร สถานีวิทยุชุมชน และสื่อออนไลน์ การควบคุมระบบคมนาคม ซึ่งเป็นกลยุทธ์ใต้ดิน-บนดินสไตล์ทหารราบของ คสช.ที่จะนำมาใช้ในภารกิจสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญ
เมื่อฝ่ายความมั่นคง ที่เป็นกลไกควบคุมการทำประชามติให้เกิดขึ้นอย่างเรียบร้อย ฟากฝ่ายบริหาร-รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีมติแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 5 ประเด็น
ประเด็น 1 เกณฑ์ผู้ใช้สิทธิ ให้ใช้คำว่า “คะแนนเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิออกเสียง” ปลดล็อกเกณฑ์นับผลประชามติแบบเดิมที่ให้นับจากเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นปัญหาอยู่ก่อนหน้านี้
ประเด็น 2 อายุของผู้มาใช้สิทธิอย่างน้อย 18 ปี ในวันลงประชามติ เปลี่ยนจากให้นับอายุของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งสุดท้าย
ประเด็น 3 ไม่กำหนดการแจกร่างรัฐธรรมนูญครบร้อยละ 80 ของครัวเรือน เพราะเสี่ยงถูกตีความว่าครบร้อยละ 80 หรือไม่
ประเด็น 4 เรื่องคำถามพ่วงประชามติ ให้เสนอได้เฉพาะสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เท่านั้น จำนวน 1 คำถาม
ประเด็น 5 หลักเกณฑ์การรณรงค์ให้เป็นไปตาม กกต.ออกกฎหมาย
หลังจากเคาะ 5 ประเด็นแล้ว คณะกรรมการกฤษฎีกาจะไปยกร่าง และนำเสนอกลับมาที่ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าฝ่ายกฎหมายรัฐบาล จากนั้นจะส่งไปยัง สนช.ให้พิจารณาเห็นชอบ จากนั้น สนช.จะรับไม้ต่อ โดยเมื่อได้รับร่างรัฐธรรมนูญจากรัฐบาลแล้ว จะต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน 15 วัน
ซึ่งในการเห็นชอบ สนช.จะแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเนื้อหาไม่ได้ ยกเว้นจะได้รับความเห็นชอบจาก ครม.และ คสช.เสียก่อน
ทั้งนี้ ในการลงมติให้ความเห็นชอบของ สนช. ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิก สนช.ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ หรือ 110 เสียง เมื่อ สนช.ให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว ก็จะนำกลับมาที่ตึกไทยคู่ฟ้าให้ “พล.อ.ประยุทธ์” นำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ สนช.มีมติ และเมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
ขณะเดียวกันฝ่าย กรธ.ซึ่ง “มีชัย” เป็นหัวขบวน นอกจากต้องปรับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญตามเสียงทักท้วงจากสังคมรวมถึงการร้องขอของรัฐบาลใน 16 ข้อ ให้เป็นที่พอใจของทุกฝ่ายมากที่สุด
ยังต้องวางแผนการรณรงค์ทำความเข้าใจเนื้อหารัฐธรรมนูญแก่ประชาชนมากที่สุดด้วย “มีชัย” กล่าวว่า “เขาพูดกันว่าเวลาเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญที่มีเนื้อหายาวนั้นเป็นร้อยมาตรา เวลาพิมพ์แจกประชาชนก็ต้องแจกทุกคนก็อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง ทาง กกต.บอกว่าถ้าทำแบบนี้ใช้เวลานานและสิ้นเปลืองเป็นพันล้าน กระดาษก็ไม่พอ จึงขอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ไม่ให้แจกทุกคน”
“กรธ.มีแนวคิดว่าถ้าเป็นแบบนั้นก็ควรให้ กรธ.สรุปเนื้อหาสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญแบบสั้นแจกชาวบ้านก็น่าจะ
ช่วยทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจได้มากกว่า เลยขอเวลาว่าหลังจาก กรธ.ได้จัดส่งร่างรัฐธรรมนูญเรียบร้อยวันที่ 29 มีนาคม หลังจากนั้นประมาณ 15 วัน กรธ.จะจัดทำเล่มสรุปสาระสำคัญและภาพวาดการ์ตูนอธิบายเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ เล่มขนาดเล็กประมาณ 5-10 หน้า แล้วซื้อโฆษณาสื่อสิ่งพิมพ์แนบไปด้วย เพื่อให้ประชาชนพกพาไปอ่านได้ง่าย”
ด้านฝ่ายสนับสนุนอย่าง กกต. จึงเตรียมพร้อมช่วย กรธ.ในการรณรงค์ วางแผนทำรัฐธรรมนูญฉบับเต็ม 1.2 ล้านเล่ม กระจายไปยังจุดต่าง ๆ ที่ประชาชนจะเข้าถึงได้ แจกเอกสารสรุปสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ 20 หน้า 6 ล้านเล่ม และแจกสรุปย่อสาระสำคัญ 17 ล้านเล่ม
“สมชัย ศรีสุทธิยากร” กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า ตั้งใจว่าถ้ารัฐธรรมนูญไม่มีการแก้ไขมาก จะออกสู่ประชาชนได้กลางเดือน เม.ย. ก่อนสงกรานต์ แต่ถ้าปรับแก้เยอะไม่เกินสิ้นเดือน เม.ย.ประชาชนจะได้
อีกภารกิจหนึ่งของ กกต.คือ การออกประกาศ กกต.เกี่ยวกับหลักเกณฑ์วิธีการทำประชามติ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความเรียบร้อยในการออกเสียงประชามติ พ.ศ. … ซึ่งที่ประชุม กกต.ลงความเห็นว่าจะนำทั้ง 2 ฉบับมารวมกันเป็นฉบับเดียว
ไฮไลต์อยู่ที่บทกำหนดโทษ ที่กำหนดว่า “ผู้ใดดำเนินการเผยแพร่ ข้อความ ภาพ เสียง ในสื่อ หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือในช่องทางอื่นใดที่ผิดไปจากข้อเท็จจริง หรือมีลักษณะรุนแรง หรือลักษณะอื่นใดโดยมุ่งหวังเพื่อให้ผู้มีสิทธิออกเสียง ไม่ไปใช้สิทธิออกเสียง ออกเสียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือไม่ออกเสียง ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 2 แสนบาท”
เมื่อรัฐธรรมนูญมีชัย จำเป็นต้องถึงเส้นชัย ผ่านด่านประชามติ ชี้วัดอนาคตของ คสช. แม่น้ำสาย คสช. จึงจำเป็นต้องขับเคลื่อนรณรงค์รัฐธรรมนูญทั้งองคาพยพให้ผ่านประชามติ 31 ก.ค.ที่จะถึงนี้
...
ความเห็นชาวเน็ตต่อข่าว...
เครือข่ายสมคบคิด บิดเบือน ไม่ปฎิบัติตามหน้าที่ ทำให้ประเทศวุ่นวายแตกแยก แล้วเข้ายึดอำนาจ
นำพาพวกพ้องเข้ามากินตำแหน่งทางการเมือง,ราชการและรัฐวิสาหกิจ
โดยไม่สามารถตรวจสอบได้
.
คสช.คงเข้าใจว่าตัวเองเป็นสารกันบูด ต้องหมั่นเติมไว้ไม่ให้เสียของ แต่ในความเป็นจริง คสช.เป็นฟอร์มาลินใช้ดองศพเท่านั้นมั้ง?
เครือข่ายสมคบคิด บิดเบือน ไม่ปฎิบัติตามหน้าที่ ทำให้ประเทศวุ่นวายแตกแยก แล้วเข้ายึดอำนาจ
นำพาพวกพ้องเข้ามากินตำแหน่งทางการเมือง,ราชการและรัฐวิสาหกิจ
โดยไม่สามารถตรวจสอบได้
.
คสช.คงเข้าใจว่าตัวเองเป็นสารกันบูด ต้องหมั่นเติมไว้ไม่ให้เสียของ แต่ในความเป็นจริง คสช.เป็นฟอร์มาลินใช้ดองศพเท่านั้นมั้ง?
เผด็จการไม่มีทางโตและยั่งยืนได้ ปทต้องได้เป็น ปชต
.
ไม่รับ
.