วันพุธ, ตุลาคม 11, 2566

บีบีซีวิเคราะห์ “ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ” ของกลุ่มฮามาสที่อิสราเอลไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้น



วิเคราะห์ “ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ” ของกลุ่มฮามาสที่อิสราเอลไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้น


กองกำลังภาคพื้นดินฮามาส บุกเข้าอิสราเอล "สายฟ้าแลบ"

ฌอน เซดดอน และ แดเนียล พาลัมโบ
ผู้สื่อข่าวบีบีซี
9 ตุลาคม 2023

ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่กำลังนอนหลับพักผ่อน คาดหวังว่าในวันที่ 7 ต.ค. พวกเขาจะได้มาสังสรรค์กับครอบครัว และผองเพื่อน ในโอกาสวันสะบาโต วันเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว

แต่กลับกลายเป็นเสียงจรวดดังกัมปนาท ที่ปลุกให้พวกเขาตื่นขึ้น ในวันที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเรียกว่า “วันสีดำ” และโฆษกกองทัพขนานนามว่า “9/11 ของอิสราเอล”

เช้ามืดวันนั้น กลุ่มฮามาสปฏิบัติการสายฟ้าแลบ บุกโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัว ทั้งภาคพื้นดินและอากาศ

กลุ่มติดอาวุธที่ปกครองฉนวนกาซา ทำในสิ่งไม่มีใครคาดคิดว่าจะทำได้ ได้อย่างไร บีบีซีพาสำรวจปัจจัยต่าง ๆ กัน

วันศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว

วันที่ 7 ต.ค. เป็นวันสะบาโตซึ่งเป็นวันเทศกาลศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว เป็นวันที่ครอบครัววางแผนใช้เวลาร่วมกันที่บ้าน รวมตัวกันที่โบสถ์ยิว ผองเพื่อนนัดแนะมาสังสรรค์

วันนี้ยังตรงกับวันครบรอบ 50 ปีของสงครามระหว่างแนวร่วมอาหรับกับอิสราเอลที่เรียกว่า สงครามยมคิปปูร์ (Yom Kippur War) หรือสงครามตุลาคม (October War)

แต่ก่อนฟ้าสาง จรวดถูกระดมยิงเข้ามาในอิสราเอลจำนวนมาก อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แม้อิสราเอลจะมีระบบป้องกันการโจมตี ทั้งทางอากาศและภาคพื้นดินอย่างแน่นหนา แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมงในเช้าวันที่ 7 ตุลาคม ก็ได้ชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ในปราการป้องกันที่อิสราเอลเชื่อมั่น

บีบีซีได้ตรวจสอบภาพวิดีโอที่กลุ่มติดอาวุธและประชาชนบันทึกไว้ได้ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปฏิบัติการโจมตีที่แยบยลที่สุดเท่าที่กลุ่มฮามาสเคยทำมา



จรวดทะลวง “โดมเหล็ก”

กลุ่มฮามาส เป็นกลุ่มที่สหราชอาณาจักรและหลายประเทศทั่วโลก กำหนดว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ที่ปกครองฉนวนกาซา ในพื้นที่ใกล้ชายแดนตอนใต้ของอิสราเอล ทางกลุ่มใช้การยิงจรวดใส่อิสราเอลมาแล้วบ่อยครั้ง

แต่อิสราเอล มีไอเอิร์นโดม (iron dome) หรือระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ ที่ถือว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลกแทบไม่มีจรวดใดจากฉนวนกาซาที่เล็ดลอดเข้ามาได้

ทั้งนี้ สิ่งที่กลุ่มฮามาสทำในเวลา 6.30 น. ของวันที่ 7 ต.ค. ถือว่าเกินความคาดหมายของอิสราเอล เพราะไม่ได้ยิงจรวดเพียงหลักสิบหรือหลักร้อยลูก แต่ได้ยิงจรวดมากถึง 5,000 ลูกใส่พื้นที่ต่าง ๆ ของอิสราเอล (อิสราเอลระบุว่า จำนวนจรวดแท้จริงอยู่ที่ 2,500-3,000 ลูก) จนระบบไอเอิร์นโดม เกินจะตั้งรับ จากนั้นเสียงไซเรนเตือนภัยก็ดังไกลไปถึงกรุงเทลอาวีฟ ที่อยู่ห่างกาซา ราว 60 กิโลเมตร

ยุทธการโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่ สะท้อนว่า กลุ่มฮามาสต้องวางแผนและสั่งสมอาวุธยุทโธปกรณ์มานานหลายเดือนแล้ว แต่คำถามคือ การข่าวกรองของอิสราเอล ทำไมจึงยับยั้งไม่ได้



บุกภาคพื้นดินแบบ “สายฟ้าแลบ”

ในขณะที่จรวดถูกระดมยิงต่อเนื่องไม่หยุด กองกำลังภาคพื้นดินก็พยายาม เจาะรั้วกั้นเขตแดนที่แน่นหนา

แม้อิสราเอลจะถอนทหารและถิ่นอาศัยออกจากกาซา ในปี 2005 แต่ก็ยังควบคุมน่านฟ้า พรมแดน

และชายฝั่งอย่างเหนียวแน่น มีทหารลาดตระเวนพรมแดนที่เป็นคอนกรีตและรั้วลวดหนามตลอดเวลา

อิสราเอลออกแบบสิ่งเหล่านี้ เพื่อเป็น “แนวกั้นอัจฉริยะ” เพื่อป้องกันการแทรกซึม-ล่วงล้ำ แต่กลุ่มฮามาสใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงทะลวงเกราะป้องกันของอิสราเอลสำเร็จ


มือปืนฮามาสขับจักรยานยนต์ผ่านรั้วลวดหนามที่ถูกตัดเป็นช่องทางผ่าน

อีกปัจจัย ที่ทำให้ “แนวกั้นอัจฉริยะ” ของอิสราเอลใช้ไม่ได้ผลในครั้งนี้ นั่นเพราะกองกำลังภาคพื้นดินฮามาส บุกโจมตีแนวกั้นหลายจุดพร้อม ๆ กัน โดยบีบีซีตรวจสอบพบว่า มีการเจาะแนวกั้นเข้าไปในอิสราเอลมากถึง 7 จุดในแทบทุกทิศ

กองกำลังฮามาสใช้การตัดรั้วลวดหนามเป็นช่อง ให้จักรยานยนต์หลายคันขับผ่านไป ใช้รถแทรกเตอร์ทลายแนวกั้น รวมถึงขับเรืออ้อมพรมแดนไปขึ้นฝั่ง


ใช้รถแทรกเตอร์พังแนวกั้น

แนวกั้น “อีเรซ” ซึ่งอยู่เหนือสุดของจุดผ่านแดนทางเหนือของกาซา กลุ่มฮามาสได้จุดระเบิดทลายปราการคอนกรีต ซึ่งเมื่อระเบิดถูกจุดชนวน ก็เป็นสัญญาณให้กองกำลังที่ซุ่มอยู่ บุกเข้าไปโจมตี โดยวิดีโอที่กลุ่มฮามาสเผยแพร่ออกมา แสดงให้เห็น ชาย 8 คนในชุดกันกระสุนและปืนไรเฟิล วิ่งเข้าไปหาจุดผ่านแดนและกราดยิงใส่ทหารอิสราเอล

สำหรับฉนวนกาซานั้น มีจุดผ่านแดนอยู่ 7 จุดด้วยกัน ในจำนวนนี้ 6 จุดอยู่ใต้การควบคุมของอิสราเอล และ 1 จุดอียิปต์เป็นผู้ดูแล แต่ในปฏิบัติการของฮามาสครั้งนี้ กองกำลังภาคพื้นดินใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง หาช่องทางบุกเข้าไปในพรมแดนอิสราเอลได้มากถึง 7 จุด ตลอดแนวรั้วกั้นที่ควรจะมีการวางกำลังกวดขันแน่นหนา

กระจายตัวทั่วอิสราเอล

เมื่อทะลวงเข้าไปในเขตแดนอิสราเอลได้แล้ว กองกำลังฮามาสกระจายกำลัง ไปยังจุดต่าง ๆ มากถึง 27 จุด ด้วยเป้าหมายยิงสังหารและลักพาตัวทั้งพลเรือนและทหาร

เหมือนเช่นที่เกิดขึ้นที่เทศกาลดนตรีข้ามคืนใกล้เมืองเรอิม มือปืนฮามาสกราดยิงผู้คนที่ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว เฉพาะจุดนี้จุดเดียว มีผู้เสียชีวิตกว่า 260 คน

บีบีซีตรวจสอบพบว่า กลุ่มฮามาสบุกเข้าไปในอิสราเอล ได้ไกลถึงเมืองโอฟาคิม ที่อยู่ห่างจากฉนวนกาซา 22.5 กิโลเมตร



ส่วนที่เมืองสะเดรอต ปรากฏภาพกลุ่มติดอาวุธยืนอยู่บนหลังรถกระบะ ที่ขับฝ่าเข้ามาในเมือง ซึ่งอยู่ห่างจากฉนวนกาซาไปทางตะวันออก 3 กิโลเมตร รวมถึงมีกองกำลังติดอาวุธกระจายไปตามท้องถนนในเมืองแอชเคลอน ทางเหนือของจุดผ่านแดนอีเรซ

ภาพลักษณะคล้ายกันนี้ เกิดขึ้นทั่วพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอล ท่ามกลางประชาชนที่หวาดกลัวและถูกสั่งให้อยู่แต่ในบ้าน

จับตัวประกันเป็นโล่มนุษย์


บีบีซียืนยันแล้วว่า นี่เป็นภาพการลักพาตัวชาวอิสราเอลของกลุ่มฮามาส

ฮามาสยังจับตัวประกันบางส่วน ทั้งพลเรือนและทหาร กลับเข้าไปในกาซา

ผู้เห็นเหตุการณ์บอกบีบีซีว่า กลุ่มฮามาสขับรถตู้พร้อมอาวุธครบมือ ตระเวนไปตามจุดต่าง ๆ นานกว่า 3 ชั่วโมง เพื่อจับชาวอิสราเอลเป็นตัวประกัน

จนถึงตอนนี้ รัฐบาลอิสราเอลยืนยันว่า มีพลเรือนและทหาร ถูกจับเป็นตัวประกันนับ 100 คน ขณะที่รัฐบาลไทยระบุว่า มีแรงงานชาวไทยถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไป 11 คน

บีบีซีได้ตรวจสอบวิดีโอหลายชิ้น ซึ่งพบว่าเป็นวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง โดยพบว่าพลเรือนและทหารหลายคนถูกลักพาตัว และเป้าหมายคือ พาลักพาตัวกลับเข้าไปในฉนวนกาซา และถึงขณะนี้ ชะตากรรมของพวกเขาจะเป็นเช่นไร ก็ยังไม่มีใครรู้ได้

การข่าวกรองที่ล้มเหลว

ปฏิกิริยาของเจ้าหน้าที่อิสราเอล หลังถูกถามว่า เพราะเหตุใดหน่วยข่าวกรองอิสราเอล ซึ่งมีทรัพยากรมหาศาลถึงไม่ทราบเลยว่า กลุ่มฮามาสจะโจมตีครั้งใหญ่เช่นนี้ คือ “เราไม่รู้เลยว่า มันเกิดขึ้นได้อย่างไร”

การก่อเหตุโจมตีครั้งใหญ่และซับซ้อนเช่นนี้ กลุ่มฮามาสต้องสั่งสมอาวุธและจรวดหลายพันลูก รวมถึงเก็บความลับขั้นสูงในหมู่ผู้ปฏิบัติงาน

ทั้งหมดเกิดขึ้นใต้จมูกของอิสราเอล ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีหน่วยข่าวกรองที่ครอบคลุมและได้รับทุนสนับสนุนมากที่สุดในตะวันออกกลาง มีสายข่าวและสายลับฝังตัวอยู่ในปาเลสไตน์ เลบานอน ซีเรีย และอีกหลายพื้นที่

แดนนี ยาตอม อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองมอสซาดของอิสราเอล ยอมรับว่า ยุทธศาสตร์ความมั่นคงของอิสราเอล “ล่มสลายอย่างสมบูรณ์”

“ทุกอย่างผิดพลาดไปหมด” และ “ไม่มีใครรู้เรื่องอะไรเลย” เขากล่าว


การโจมตีกลับใส่ฉนวนกาซาตลอดคืน

เขาวิเคราะห์ในรายการข่าวของบีบีซีว่า ปราการรักษาความมั่นคงของอิสราเอล ไม่เพียงพอต่อการยับยั้งการโจมตีของกลุ่มฮามาส

“กองกำลังฮามาสไม่ได้เยอะอะไรเลย” ยาตอม ระบุ

“นี่เป็นความล้มเหลวด้านข่าวกรองที่ได้เบาะแสถึงกิจกรรมของกลุ่มฮามาส แต่กลับประเมินว่า กลุ่มฮามาสจะไม่โจมตีอิสราเอลหรอก”