เรื่องที่ว่าพรรคอันดับสาม สี่ ห้า จะมาสั่งอย่างโน้นอย่างนี้ จนเศรษฐาต้องถอย ก็เลยต้องเหลียวหลังทบทวนนโยบายที่พยายามโหมหนักเพื่อประชาชนโดยรวมคล้อยตาม เผื่อว่าจะได้เอามากลบเสียงของพวกเจ้ากรรมนายเวรที่ตนตากหน้าไปขอเขามา
สองเรื่องที่เพื่อไทยบอกว่าได้ตั้งรัฐบาลแล้วจะทำทันที คือ เงินดิจิทัลแจกฟรี ๑ หมื่นบาทสำหรับคนอายุ ๑๖ ปีขึ้นไป ผ่านระบบ ‘บล็อคเชน’ ที่ ‘นายโบก’ เผ่าภูมิ โรจนสกุล อธิบายแล้วหลายครั้ง พวกนางแบกเองก็ยังไม่ค่อยซึมซับลึกซึ้ง
ตานี้ ไอ้การแก้ รธน.บรรดาหลายๆ พรรคที่เพื่อไทยไปร่วมครั้งนี้ ที่ผ่านมาพวกเขาไม่ค่อยจะ ‘อิน’ ด้วยเท่าไร คือพวกนั้นเขาไม่คิดตรงไปตรงมากันนัก ทำบ้างไม่ทำบ้าง สุดแท้แต่สถานการณ์เฉพาะหน้า และ ดีล
พรรคเพื่อไทยจะเอาอะไรไปชวนให้เขามาร่วมด้วย แบบที่ ‘ท้อป’ วราวุธ ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนาเพิ่งทำตัวอย่างให้เห็น ว่าต้องคุยกันให้ชัดๆ ก่อนโหวตนั่นละ ทั้งที่เพื่อไทยเองก็ยังไม่กล้าพ่นออกมาให้จะแจ้งว่าจะแก้อย่างไร
ในเมื่อจะรณรงค์เลือกตั้ง สสร.ก็ต้องให้รู้ว่า รธน.ที่ใช้อยู่มันไม่ดีอย่างไรจึงต้องแก้ไข หรือยกร่างใหม่ ไม่ใช่เลือกตั้ง สสร.ลอยๆ ร้อยบิดาพันอัยยิกา เข้าไปแล้วเถียงกัน “ยุ่งตายห่า” (สำนวนฮิต ‘โค้วตงหมง’ ประธานสภาในอดีตคนหนึ่ง)
พอดี ‘ไอลอว์’ มีข้อคิดเห็นเสนอแนะออกมา ว่าดูจากความผิดพลาดในอดีตที่ทำให้รัฐธรรมนูญ ๖๐ กลายเป็นวิกฤตให้คนดี๊ดีต้องลอกคราบเป็นมนุษย์เจ้าเล่ห์ ตระบัดสัตย์ เพราะคะแนนเสียงตกต่ำไม่แลนด์สไล้ด์ไปได้ ก็คือ “กำกวม” หมกเม็ด
เขาชี้ว่าต้องทำประชามติเสียก่อนว่าต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีหน้าตาเป็นอย่างไร “ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม” ไม่ต้องพากันงงๆ ตอนปลาย แล้วก็หยวนๆ ผ่านไปก่อน แก้ทีหลัง ปรากฏว่าซ่อนสลัก ‘ล็อค’ ไว้ให้การแก้ไขโคตรยาก เช่น
“เงื่อนไขที่ว่าต้องมีเสียง สว. ๑ ใน ๓ หรือ ๘๔ คน และฝ่ายค้านร้อยละ ๒๐ ในจำนวนเสียงครึ่งหนึ่งของสองสภาที่ใช้ลงมติเห็นชอบแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ตรงนี้แหละที่การเสนอร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของรัฐบาลเพื่อไทย จะโดนเล่นแร่แปรธาตุจากพรรคร่วมพวกลุงๆ จนเละก่อนเริ่ม
(ดูรายละเอียดเพิ่มที่ https://ilaw.or.th/node/6614)
