เป็นอีกปมที่บางส่วนมองว่าเป็นการชี้ชะตาการเมืองของพรรคนี้ ว่ามีความเป็นไปได้จะนำไปสู่การยุบพรรคและตัดสิทธิการเมืองของผู้บริหารพรรคนานถึง ๒๐ ปี ปิดประตูคะแนนเสียง ๑๔ ล้านของประชาชน ให้เป็นคะแนนเสียเปล่าไปในที่สุด
แต่การเป็นแคนดิเดทนายกฯ ของ เศรษฐา ทวีสิน ดูง่อนแง่นกระไร เมื่อ เสรี สุวรรณภานนท์ สว.กลุ่ม ‘ตัวแสบ’ ลงแรง ‘เข่น’ อีก ประเด็นที่ดินซอยสารสินมูลค่าปล่อยกู้พันล้าน ที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ พยายามแฉว่าใช้นอมินีไม่โปร่งใส
“ได้ทำหนังสือขอข้อมูลจากกรมที่ดิน เพื่อตรวจสอบพฤติกรรม #เศรษฐา มีพฤติกรรมหลบเลี่ยงภาษีการซื้อขายที่ดิน” หรือไม่ “ล่วงหน้า ขอดูรายละเอียดเอกสารที่เกี่ยวข้องก่อน รวมถึงคำชี้แจงของ (บริษัท) แสนสิริ” ทางเพื่อไทยคงคิดว่าไม่เป็นไร
หากเศรษฐาไม่รอดการโหวตวันที่ ๒๒ สิงหานี้ ก็ยังมี ‘อุ๊งอิ๊ง’ และ ชัยเกษม นิติสิริ สำรองอีกสองคน ไม่น่าจะส่งผ่านไปให้อนุทิน ชาญวีรกูล ง่ายๆ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั้น มันอยู่ที่การแบ่งเค้กจะลงตัวไหม ไม่เฉพาะจากพรรคร่วม เมื่อสนิมเกิดแต่เนื้อใน
เมื่อเป็นข่าวว่ามีการแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการคมนาคม ที่ภูมิใจไทยเคลมไว้ ตอนนี้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับ สมศักดิ์ เทพสุทิน วิ่งเต้นผู้มีอำนาจของพรรคจะเอาไว้เอง ทั้งที่ว่ากันว่าตำแหน่งนี้เป็นโควต้าของเลขาฯ ประเสริฐ จันทรรวงทอง
กลุ่มสุริยะอ้างว่าพวกตนมีทั้งศักยภาพในการโน้มน้าว สว.จำนวนมากให้มาโหวตเศรษฐา แล้วยังมี “สส.ในก๊วน ทั้งในและนอกพรรค “สามารถสร้างเสถียรภาพให้กับรัฐบาลเพื่อไทยได้” สอง ส.ซึ่งเพิ่งกลับเข้าพรรคหลังจากไปเป็นกำลังให้ ‘ตู่’ เก้าปี
ถ้าพวกนี้เป็นหน้าเป็นตาของเพื่อไทยต่อไป ในตำแหน่งแห่งหนที่ถูกจัดวางไว้ในลำดับต้นๆ เหนือกว่า สส.ลูกหม้อมากมาย ก็จะชี้ชัดรูปลักษณ์ของเพื่อไทย ว่าเป็นพรรคเพื่อผลประโยชน์ส่วนย่อยในแวดวงนักเลือกตั้ง นักการเมืองแท้ๆ
การที่พรรคก้าวไกลตัดสินใจไม่ร่วมเส้นทาง ตั้งหน้าตรวจสอบอย่างแข็งขันต่อไป สืบทอดผลงานที่ผ่านมาสี่ปี จะสร้างคุณูปการให้กับประเทศชาติและประชาชนได้อย่างเหลือล้น มากกว่าครั้งใดๆ ในประวัติการณ์
(https://www.thansettakij.com/thailand-elections/insight-election/573595 และ https://twitter.com/ThaiEnquirer/status/1691721040366653527)
