ยังไม่มีรายละเอียดมากกว่านี้ แต่เดาเอาว่าที่เพื่อไทยเรียกก้าวไกลไปคุยด่วนวันนี้ ผลที่ได้น่าจะก้าวไกลไม่ยอมถอยและถอนนโยบาย แก้ไขกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ นั่นละ ส่วนเรื่อง ‘ฉีก’ เอ็มโอยูของ ๘ พรรคร่วมเดิมนั้น ‘ชัวร์’
สำหรับกรณี ‘ไม่มีลุง’ หรือสองพรรคฝ่ายคณะรัฐประหาร พลังประชารัฐ (ลุงประวิตร) และรวมไทยสร้างชาติ (หลุ้งประยุทธ์) ที่ก้าวไกลขอไว้ถ้าจะให้ตนไปเป็นฝ่ายค้าน ตอนนี้ข่าวบอกเพียง “คาดว่าจะไม่มี” ซึ่งต้องรออีกนิด
ให้เพื่อไทยไปจัดกระบวนพรรคร่วมชุดใหม่ก่อน โดยขณะนี้แจ้งว่ายังไม่มีการนัดหมายคุยกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลชุดใหม่ จึงเป็นคำตอบไปถึงปมที่บอกว่า ขอให้ก้าวไกลโหวตเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเสียก่อน แล้วค่อยไปเป็นฝ่ายค้านนั่น
“พรรคก้าวไกลจะมีการหารือภายในพรรคก่อน จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง” แสดงว่าเขาหย่ากันจริงๆ ไม่เหลือเยื่อใยแล้วละ ก่อนที่เขาจะคุยกันวันนี้ ก็มีสัญญานออกมาเยอะ ไม่ว่าจาก เศรษฐา ทวีสิน ว่าที่แคนดิเดทนายกฯ
ว่าเคยพูดชัด เมื่อ ๒๐ ก.ค.นี้เองว่า “ส่วนตัว ยอมรับการแก้มาตรา ๑๑๒ ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ” ทั้งนี้เพื่อที่จะแก้ภาพพจน์ที่ สว. (บางคน) ยกเอามาเป็นปัญหาว่าเศรษฐาก็เคยคิดแก้ ๑๑๒ มาก่อน จึงจะไม่ยอมโหวตให้เศรษฐาเหมือนกัน
เป็นว่าเพื่อไทยประกาศหย่าครั้งนี้เพราะเกรงใจพวก สว.เป็นเหตุใหญ่ อาจจะโดยจำเพาะเจาะจงเนื่องจาก “สว.ผนึกกำลังกันเหนียวแน่นกดดัน” ดัง น.ต.ศิธา ทิวารี @SitaDivari โวยว่ามีการขู่เข็นกลายๆ ส่งไลน์ถึง ๑๓ สว.ที่โหวตให้ ‘พิธา’
อ้าง มีชัย ฤชุพันธุ์ เคยบอกว่า “ท่านต้องรักษาชาติไม่ใช่ประชาธิปไตย ชาติต้องมาก่อน ถ้าสิ้นชาติแล้ว ประชาธิปไตยก็ไม่มีความหมาย” แต่ข้อเท็จจริงอยู่ที่ การแก้ไข ๑๑๒ ไม่ได้ทำให้สิ้นชาติ ถ้าไม่แก้นั่นสิ อาจสิ้นประชาชน เหลือแต่ทาส
(https://twitter.com/SitaDivari/status/1686600047071576064, https://twitter.com/PheuThaiParty/status/1686353059684012032 และ https://twitter.com/thereportersth/status/1686621029253500928)
