วันจันทร์, พฤษภาคม 15, 2566

‘พิธา’ ประกาศตั้งรัฐบาล ๖ พรรค จากฝ่ายค้านเดิม ไม่สน ‘ภูมิใจไทย’

เป็นอันว่า โพลของหน่วยงานความมั่นคง ที่ผู้ทำโพลตะลึง ไม่กล้าเสนอนาย ลงท้ายเป็นความจริง ผลเลือกตั้ง ๑๔ พฤษภา ๖๖ อย่างไม่เป็นทางการ กกต.ประกาศแล้วว่าพรรคก้าวไกลได้ที่นั่งมากอันดับ ๑ ตามติดๆ ด้วยเพื่อไทย

ลงรายละเอียดได้ว่า ส.ส.แบ่งเขต ก้าวไกลกับเพื่อไทยได้ ส.ส.เท่ากัน ๑๑๒ ที่นั่ง แต่ก้าวไกลก้าวล้ำเพื่อไทยที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อไปสิบที่นั่ง ๓๙ ต่อ ๒๙ โดยปริยายเพื่อไทยจึงไม่แลนด์สไล้ด์ดังที่เจ้าของพรรค แกนนำพรรค และนางแบกพากันโหม

พูดเข้าข้างก้าวไกลได้ว่าประชาชนจำนวนมากกว่าให้ความเชื่อมั่นในผู้สมัครพรรคก้าวไกล โดยที่เป็นคะแนนธรรมชาติของความศรัทธาและไว้วางใจ จากการที่มีผู้ไปใช้สิทธิ์ล้นหลาม ๗๕.๒๒% ของผู้มีสิทธิทั้งสิ้น ๕๒.๒๙ ล้านคน

พรรคอื่นๆ ที่ได้รับเลือกตั้งอย่างมีนัยยะสำคัญ ก็คือพรรคภูมิใจไทย (๗๐) พลังประชารัฐ (๔๒) และรวมไทยสร้างชาติ (๓๗) มีสิทธิเสนอชื่อแคนดิเดทของตนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ยากที่จะรวมกันตั้งรัฐบาลแม้จะนำประชาธิปัตย์เข้าร่วม

พรรค ปชป.กลายเป็นผู้อาภัพ ได้ที่นั่งไม่ถึง ๒๕ ทำให้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคทันที นายชวน หลีกภัย ยอมรับว่าครั้งนี้กระแสความนิยมพรรคก้าวไกลมาแรงและเฉียบพลันจริงๆ เป็นคะแนนโดยธรรมชาติ

แม้นว่า พิธา ลิ้มเจริญวงศ์ ว่าที่นายกฯ คนใหม่ ประกาศตั้งรัฐบาลร่วมกับอีก ๕ พรรคจากฝ่ายค้านเดิม ได้แก่ เพื่อไทย ประชาชาติ ไทยสร้างไทย เสรีรวมไทย และพรรคเป็นธรรม ด้วยจำนวน ส.ส.รวมกัน ๓๐๙ ที่นั่ง ไม่สนใจพรรคภูมิใจไทยที่นักวิเคราะห์หลายคนคิดว่าจำเป็น

พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์ขานรับการจัดตั้งรัฐบาล และ “ขอยืนยันว่า ไม่มีแนวความคิดที่จะจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคก้าวไกล” และยินดีให้พรรคก้าวไกลเป็นผู้ดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ส่วนคู่แข่งจากอีกฟากแม้แต่ละพรรคจะจิ๊บจ้อย ถ้ารวมกันได้ก็น่าคิด

เพราะมีเสียง ผู้มีอำนาจเลือกตัวนายกฯ คือ สว. ๒๕๐ คนเป็นไพ่ในมือ นั่นคือภูมิใจไทย พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ และอีกสองพรรคเล็กๆ ได้ ๑๘๓ เสียง แต่ สว. ๒๕๐ คนต้องไม่มีการแตกแถว หรืองดออกเสียงจำนวนมาก

ในทางกลับกัน ปรากฏการณ์ก้าวไกล ทำให้ทั้งฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายเอื้อเผด็จการ ต้องแก้สมการกันใหม่ สว.หลายคนประกาศไว้แล้วว่าพรรคไหนได้คะแนนสูงสุด ก็จะโหวตให้เพื่อรักษาเจตจำนงค์ประชาชน อีกไม่น้อยยืนกรานขอเป็นก้างจิ้มคอต่อไป

(https://www.khaosod.co.th/politics/news_7665076 และ https://www.facebook.com/baitongpost/posts/pfbid02jV3EhT)