วันเสาร์, มกราคม 30, 2564

กระทรวงสาธารณสุขเคยประเมินว่า ฉีดวัดซีนเร็วขึ้น 1 เดือน ประเทศจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 2.5 แสนล้านบาท ทำไมไม่กระตือรือร้นที่จะหาวัคซีนจากแหล่งอื่นมาใช้ก่อน ในระหว่างที่โรงงาน"สยามไบโฮไซแอนด์" ยังไม่สามารถผลิตได้?



Somsak Jeamteerasakul
7h ·

กระทรวงสาธารณสุขเคยประเมินว่า ฉีดวัดซีนเร็วขึ้น 1 เดือน ประเทศจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 2.5 แสนล้านบาท
แต่ต้องผูกอยู่กับ "สยามไบโฮไซแอนด์" เพื่อ?
(ขอบคุณ "มิตรสหายท่านหนึ่ง")
...................................
<มีวัคซีนใช้เร็วขึ้น 1 เดือน ประเทศจะมีรายได้เพิ่ม 2.5 แสนล้าน!!!>

เนื้อหาในหนังสือ กระทรวงสาธารณสุข ที่ลงนามโดย อนุทิน ถึง ครม เพื่อขอให้อนุมัติงบสนับสนุนการเตรียมถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตวัคซีน ( ซึ่งมีการจัดสรรให้กับสยามไบโอฯ 600 ล้าน) ในเดือน สิงหาคม 2563 น่าสนใจ

เอกสารฉบับนี้แสดงให้เห็นว่ากระทรวงสาธารณสุขตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้อง "มีวัคซีนใช้" ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ตั้งแต่เดือน สิงหาคม 63 แม้ขณะนั้นจะไม่มีการระบาดภายในประเทศมาหลายเดือน โดยระบุว่าถ้ามีวัคซีนใช้เร็วขึ้น 1 เดือน จะช่วยให้ประเทศมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่ม 2.5 แสนล้านบาทจากการเปิดประเทศได้เร็วขึ้น จึงมีความจำเป็นต้องให้เงินสนับสนุนการเตรียมการผลิตวัคซีนในประเทศโดยเร็ว

แต่ก็น่าแปลกที่ว่า ในเมื่อ สธ ทราบอยู่แล้วว่าโรงงานในประเทศต้องใช้เวลาในการเตรียมความพร้อม อย่างน้อย 6 เดือน หลังจากเจรจากับ Astrazeneca ได้สำเร็จ แต่ทำไมตั้งแต่เดือน สิงหาคม 63 สธ กลับไม่กระตือรือร้นที่จะหาวัคซีนจากแหล่งอื่นมาใช้ก่อน ในระหว่างที่โรงงานในประเทศยังไม่สามารถผลิตได้? 

ทั้งๆที่ สธ ก็ตระหนักดีกว่าการที่ไทย"มีวัคซีนใช้เร็วขึ้น" แม้เพียง 1 เดือน ก็จะทำให้ประเทศมีรายได้เพิ่มถึง 2.5 แสนล้านบาท หรือนั่นหมายถึงประเทศมีค่าเสียโอกาสจากการมีวัคซีนล่าช้าเดือนละ 2.5 แสนล้านบาท!!!
ในเมื่อ สธ ตระหนักดีว่า ช้าช้าจะพาประเทศเสียหายเดือนละ 2.5 แสนล้านบาท แล้วทำไมจึงทำราวกับว่าช้าช้าได้พร้าเล่มงาม?

- หนังสือกระทรวงสาธารณสุข ที่ สธ 59/3175 ลงวันที่ 25 สค 63
https://resolution.soc.go.th/PDF_UPLOAD/2563/P_401822_6.pdf