วันจันทร์, มกราคม 25, 2564

“ฉันเบื่อที่จะกลัวแล้ว” ชาวรัสเซียกว่า 4 หมื่นคนออกมาประท้วงต่อต้าน “ปูติน” เพื่อให้ปล่อยตัว Alekxei Navalny ซึ่งตอนนี้ถูกตำรวจควบคุมตัวไปแล้วกว่า 3 พันคน



We Think
14h ·

“ฉันเบื่อที่จะกลัวแล้ว”
ชาวรัสเซียกว่า 4 หมื่นคนออกมาประท้วงต่อต้าน “ปูติน”
เพื่อให้ปล่อยตัว Alekxei Navalny
ซึ่งตอนนี้ถูกตำรวจควบคุมตัวไปแล้วกว่า 3 พันคน
.
1-ชาวรัสเซียกว่า 40,000 คน ได้ฝ่าอุณหภูมิติดลบ 20 องศาออกมาประท้วงกลางกรุงมอสโกเพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนผู้นำฝ่ายค้าน Alekxei Navalny และต่อต้าน “ปูติน” ในรอบเกือบ 10 ปี
.
โดยมีผู้คนตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงคนสูงอายุ ออกมาเดินขบวนในเมืองต่าง ๆ กว่า 100 เมือง ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปได้กว่า 3,000 คน
.
2-ชนวนการลุกฮือนี้ มาจากการที่นาย Alekxei Navalny ผู้นำฝ่ายค้านรัฐบาลปูติน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวหลังจากบินกลับจากเบอร์ลินไปมอสโก ด้วยข้อหาผิดกฎในระหว่างทัณฑ์บนจากคดีฉ้อโกงเมื่อปี 2014 ซึ่งเขาบอกว่านี่เป็นเพียงข้อกล่าวหาที่จะจับกุมด้วยเหตุทางการเมือง ทั้งที่เขาเพิ่งหายดีจากการถูกลอบทำร้ายไปเมื่อช่วยเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา
.
ซึ่งเป้าหมายที่เขาบินกลับมานั้น คือการเดินหน้ารณรงค์ต่อต้านการคอรัปชั่นของประธานาธิบดี “Vladimir Putin” เหตุการณ์นี้จึงทำให้ผู้สนับสนุนของเขาเรียกร้องให้ประชาชนรัสเซียออกมาประท้วง
.
3-ไม่ใช่ Alekxei Navalny ที่ถูกจับ แต่ทั้งภรรยาของเขา รวมทั้งผู้สนับสนุน และนักเคลื่อนไหวเพื่อสังคมที่สนับสนุนเขาก็ถูกจับ ทำให้สถานีตำรวจ Khimki เต็มไปด้วยทีมของ Navalny ที่ถูกนำตัวมาพิจารณาคดี และผู้พิพากษาก็ตัดสินให้พวกเขาถูกควบคุมตัวไว้อย่างน้อย 30 วัน
.
4-รัฐบาลรัสเซียกลัวอะไร?
เพราะ Alekxei Navalny นั้นสร้างเครือข่ายมวลชนเพื่อการรณรงค์ต่อต้านคอรัปชั่นของปูติน ด้วยการเจาะตลาดไปที่กลุ่ม “คนรุ่นใหม่” ในโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram และ Youtube และทำให้พวกเขาเห็นว่าตอนนี้บ้านเมืองกำลังมีปัญหาอย่างไรอยู่
.
หลังจากนั้น Navalny ก็ได้พบกับแรงเสียดทานจากรัฐบาลปูติน ที่ทำให้เขาถูกสายลับลอบโจมตีแบบหมายเอาชีวิตในปีก่อน ซึ่งเป็นการตอบรับที่เหล่าผู้สนับสนุนของเขามั่นใจว่า เป็นเพราะรัฐบาลรัสเซียมองเห็นถึงศักยภาพของ Navalny ที่สามารถปลุกความกระด้างกระเดื่องได้
.
ทำให้ต้องรีบกำจัดเขา
และการที่รัฐบาลออกตัวมาหยุด Navalny ด้วยการจับเขา และผู้สนับสนุนของเขาเข้าคุก ยิ่งทำให้ประชาชนรัสเซียมองเห็นถึงความไม่เป็นธรรม และรู้สึกโกรธมากขึ้น
.
5-ผู้คนที่ออกมาชุมนุมกันที่ใจกลางกรุงมอสโกต่างแสดงจุดยืนด้วยข้อความ และการตะโกนให้ “ปล่อย Navalny” และมีการตะโกนขับไล่ปูตินไปด้วย ซึ่งผู้ชุมนุมบางคนก็บอกว่า “รัสเซียกำลังถูกทำให้เป็นค่ายกักกัน” และบางคนก็ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวจากสำนักข่าว Reuters ว่า
.
.“ฉันเบื่อที่จะกลัวแล้ว และฉันไม่ได้สู้เพื่อตัวเองหรือสู้เพื่อ Navalny แต่ฉันกำลังสู้เพื่อลูกชายของฉัน ที่กำลังจะไม่มีอนาคตในประเทศนี้”
.
6-ด้วยความที่ชุมนุมครั้งนี้เต็มไปด้วยคนรุ่นใหม่ และ “จุดติด” ด้วยกระแสจากในโซเชียลมีเดีย ทำให้สื่อเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือของมวลชนในการปลุกมวลชน มีการแชร์วิดิโอของ Navalny อยู่ในแอพ TikTok เต็มไปหมด ทำให้รัฐบาลรัสเซียเรียกร้องให้ TikTok ลบข้อมูลเหล่านั้น เพื่อไม่ให้เป็นการ “สนับสนุนให้เยาวชนทำผิดกฎหมาย”
.
อีกทั้งในวันที่เกิดการชุมนุม พื้นที่โยรอบก็ไม่สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายโทรศัพท์ได้เลย ซึ่งมีการคาดว่าเป็นเพราะถูกทางการสั่งให้ระงับสัญญาณ
.
7-นอกจากนี้ภาพการชุมนุมจากหลายสำนักข่าวฟ้องให้เห็นชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม เช่นภาพจากสำนักข่าว AFP เจ้าหน้าที่มีการทุบตีผู้ประท้วงด้วยกระบอง
.
8-ในขณะที่สำนักข่าวและผู้สังเกตการณ์ต่างกล่าวว่าการชุมนุมในรัสเซียครั้งนี้ เป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 10 ปี แต่รัฐบาลรัสเซียก็พยายามที่จะระบุตัวเลขให้น้อยลงเพื่อลดภาพของพลังมวลชน โดยกระทรวงมหาดไทยของรัสเซียระบุว่าผู้คนที่ออกมาในมอสโกกว่า 40,000 นั้นมีจำนวนแค่ 4,000 และระบุว่าผู้ชุมนุมที่ออกมาในวลาดิวอสต็อกประมาณ 3,000 คนนั้น มีแค่ 500
.
9-นอกจากในรัสเซียแล้ว ยังมีผู้ชุมนุมที่ออกมาเคลื่อนไหวให้ปล่อย Navalny ในอีกหลายเมืองทั่วโลก อาทิ สถานทูตรัสเซียที่เบอร์ลิน มิวนิก ปารีส ฯลฯ
.
10-สหรัฐอเมริกาออกมาประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ ที่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม และเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว Navalny และผู้ที่ถูกจับกุมทั้งหมด ส่วนสหภาพยุโรปก็ออกมาประณามการกระทำของรัสเซียเช่นกัน ว่ามีการใช้กำลังอย่างไม่เป็นธรรมและตัดการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์ ซึ่งงานนี้สหภาพฯกล่าวว่าจะมีการหารือกันเพื่อจะจัดการรัสเซียต่อไป
.
อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่เว็บไซต์ : http://www.wethink.social/.../free-navalny-russia.../
.....