ไม่ทราบว่าคนที่เปิดประเด็น ‘แอมมี่’ แต่งกายเลียนแบบ ร.๙ นั้นเป็น วัน อยู่บำรุง หรือเปล่า ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าเขลามากๆ หาก ‘วัน’ เป็นผู้จงรักภักดีแท้ทรู มิใช่เพียง ‘สลิ่มลูกชุบ’ เช่นที่เขานินทากัน เพราะเหมือนเปิดกระป๋องเจอหนอนอย่างฝรั่งว่า
เป็นที่น่าสังเกตุว่านับแต่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลนี้ ต้องประทับอยู่ในราชธานีแบงค็อคเป็นเวลานานกว่าเคยเป็นมา นัยว่าอาจจะประทับถาวร หากเงี่ยหูฟังเสียงขบวนการล้มเจ้า ที่ว่าฝ่ายค้าน ‘เจอมัน’ ชักจะจิกหนัก จนบรรยากาศไม่เหมาะจะทรงพระเกษมสำราญ
อีกทั้งข่าวลือจะมี ‘วรราชเทวี’ รายใหม่ในวันที่ ๒๖ มกรา ซึ่งฝ่อไป แต่มีการเลื่อนขั้นยศทหารหญิงผู้ติดตามเจ้าคุณพระเป็นพันโท จนให้พวก ‘ตลาดหลวง’ ลือกันไปอีกว่าคนนี้แหละหมายเลข ๓ เพราะนามสกุลพระราชทาน สิริวชิรภักดิ์
แล้วยังมีสร้อยข้อมือกับแหวนงามเพริดประดับข้างซ้ายและนิ้วนาง ก็เลยฟันธงชัยเฉลิมพลกันว่าพวกที่ตกค้างอยู่ ร.ร.การ์มิสซ์ บาวาเรีย ซึ่งฝรั่งเรียกฮาเร็มนั่น ย้ายถิ่นฐานกลับพระนครหมดแล้ว เพื่อปักหลักอยู่ยาว เอาอย่างขี้ตู่นักยึดอำนาจชั้นดี
ตานี้มันมีรูปไชยอมร แก้ววิมลพันธุ์ “ในชุดสูท สวมแว่นตา สะพายกล้อง ถือสมุด นั่งอยู่ข้างรถกระบะ อยู่กับ ทราย เจริญปุระ ในชุดเสื้อยืดสีดำ แว่นดำ ชี้นิ้วไปข้างหน้า” ซึ่งแม่ยกประชาธิปไตยบรรยายภาพว่า “ชมเหมือง” ตอนลงพื้นที่จังหวัดเลย
ส.ส.วัน พรรคเพื่อไทย ก็เอาเชียว โพสต์เฟชบุ๊คว่าเป็นการ “แต่งตัวล้อเลียนเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน...ติดคุกอย่ามาร้องก็แล้วกัน” แต่ กานดา นาคน้อย @kandainthai แย้งว่ายังไม่สมบูรณ์ “คอสตูมฝ่ายหญิงขาดหมวกปีกกว้าง ขอหัก ๑ แต้ม”
สำหรับเราไม่รู้นะ ว่าเขาจงใจล้อเลียนกันจริงหรือเปล่า เห็นรูปมิสเตอร์ ‘บ้อทท่อมบลูส์’ ไปไหนๆ ก็ชุดนี้มาตั้งนานแล้วนี่ ก็เลยเฮ้ย วัน ‘เม้คซีน’ เหมือนสยามไบโอไซน์หรือป่าวฮะ ก็เลยโดน Somyot Pruksakasemsuk ใส่ซะเจียนจะบรรลัย
“คือ ๑. เป็นนักการเมืองเมื่อวานซืน ที่รู้จักโลกมากไม่เกินกว่ารอยเท้าของตัวเอง ๒. มีนิสัยข่มขู่ประชาชนที่ไม่แตกต่างไปจากพวกเผด็จการ” แถมคำจำกัดความ “นักการเมืองเมื่อวานซืนหลายคนที่เติบโตมากับสุรา นารี ในผับในบาร์
จึงอาจไม่รู้มาก่อนว่าพรรคเพื่อไทยถูกรัฐประหารมาหลายครั้ง” แหม่ จะไปว่าเขาอย่างนั้นไม่ใช่มั้ง เขาคงรู้ดีกว่าเราๆ คิด เห็น @phoom91 พาดถึงวลี ‘ใจถึงพึ่งได้’ ยี่ห้ออยู่บำรุง “ควรหยุดใช้...วลีนี้มันไม่เหมาะกับคนปากกล้าขาสั่นหรอก
กูนึกถึงวันที่มึงเอาดอกไม้ไปกราบขอขมาทหารวันนั้นได้ดี” หมายความว่าเขาก็ตั้งใจไปทางนั้นอยู่แล้ว พูดไปทำไรมี เมื่อก่อนนี้ (ไม่ไกล) คำว่า ‘เสื้อแดง’ ยังมีหลายเฉด ตั้งแต่ ล้มเจ้า เสรี ทักกี้ และสู้ไปกราบไป ฉันใดฉันนั้น ‘สลิ่ม’ ก็เช่นกัน
จึงได้มีคนเอารูปเก่าครั้ง สมีอิสระนั่งรถเข็นออกจากโรงพยาบาล ปิดตาข้างเดียว กับรูป ปรีชา สว.ทำงานออนไลน์ (ปีหนึ่งไปสภาสักสิบหน) กับมาดามผ่องพรรณภรรยาเจ้ายศเจ้าอย่าง มาเทียบเคียง รูปเหล่านั้นก่อกระแสทัวร์ลงเสียอ่วมเหมือนกัน
แต่ก็รอดมาได้สบายบรื๋อ เป็นพระอาจารย์ของ คสช. กับน้องสะใภ้หัวหน้าซะอย่าง ไม่รอดก็บ้าละสิ เช่นนี้เป็นความรอบคอบของ สมยศ พฤกษาเกษมสุข คนที่ติดคุกเพราะทำนิตยสารชื่อ ‘คนรักทักษิณ’ เขาจึงไปปรึกษา ‘อากู๋’ ก่อนอื่นใด
ได้ความว่ากษัตริย์ภูมิพลนั้นเวลาเสด็จลงพื้นที่ธุรกันดาร ทรง “ใช้เสื้อในหลายรูปแบบด้วยกัน ทั้งชุดสูทหลายสี เสื้อเชิต ชุดทหาร ฯลฯ มีเพียงชุดสูทเดียวที่ปรากฏมีลักษณะคล้ายคลึงกับชุดของแอมมีในภาพดังกล่าว”
อีกทั้งการสวมแว่นสายตาและสะพายกล้อง “กล้องถ่ายรูปในภาพของแอมมี่ใช้ยี่ห้อ ‘แคนนอน’ แต่ ร.๙ ใช้กล้องยี่ห้อ ‘นิคอน’ และ ‘มินอลต้า’ สายสะพายกล้องก็ไม่เหมือนกัน” แสดงว่า มิใช่จงใจ “แต่งกายเลียนแบบ ร.๙ อย่างแน่นอน”
ไม่เช่นนั้นรัฐบาลประยุทธ์จักต้องพิมพ์ภาพ ร.๙ ในชุดฉลองพระองค์ต่างๆ รวมทั้งพระอิริยาบถทั้งหลายแหล่ เช่น นั่งพับเพียบกับสนามหญ้าลูบหัวคุณทองแดง แจกให้อาณาประชาราษฎรเอาไปติดไว้บนข้างฝาบ้าน เพื่อคอยสำรวจตรวจสอบ
ให้แม่นมั่นเสียก่อนออกจากบ้าน อย่าได้แต่งตัวและแสดงอาการใดๆ ให้คล้ายคลึงกับภาพ ‘พ่อหลวง’ เหล่านั้นเป็นอันขาด มิฉะนั้นอาจต้องติดคุกหัวโตด้วยข้อหา ๑๑๒ โดยมิได้ตั้งใจ เด็กสมัยนี้ใส่คร็อปท้อป ยังโดนคดีไปแล้วเลย
(https://www.facebook.com/somyot.pruksakasemsuk/posts/791541568381883)