มีราชกิจจาฯ เรื่องคำสั่ง คสช. ๙/๒๕๖๒ “ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
บางฉบับที่หมดความจำเป็น”
แต่อย่าหลงดีใจว่า ‘ไอทู้บ’ ใจดี จะเป็นนายกฯ
ในระบอบประชาธิปไตยอารยะ นั่นอย่าหวัง
ในจำนวนคำสั่งและประกาศของ
คสช.ตลอด ๕ ปี กว่า ๕๐๐ ฉบับ ยกเลิกไปแค่ ๖๖ ฉบับ
และถ้าไม่มีการยกเลิกเพิ่มเติมจากนี้ก่อนคณะรัฐมนตรี ‘ตู่ ๒’ ราวกลางกรกฎานี้ละก็
คำสั่งที่เหลือจะกลายเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับต่อไป
จนกว่าประชาชนจะมีปัญญากำจัด การสืบทอดอำนาจ ของ คสช. ออกไปจากสาระบบการเมืองไทยอย่างถาวรได้
ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญที่ คสช.สั่งให้เขียนหมกเม็ดไว้ ในมาตรา ๒๗๙
คำสั่งใดบ้างที่จะอยู่ค้ำหัวประชากรไทยตราบชั่วนิจนิรันดร์
ถ้าไม่มีใครสามารถกำจัด ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพวกพ้องคณะรัฐประหาร พลังประชารัฐ
และลิ่วล้อที่ ‘ตู่ตั้ง’ เช่นวุฒิสภาทั้ง
๒๕๐ คน เท่าที่เครือข่ายสิทธิมนุษยชนเอกชนมองเห็น อย่างน้อยๆ
มีสามสี่รายการที่เป็นเผด็จการอย่างร้ายแรง
สุนัย ผาสุก แห่งฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์
รีบบอกก่อนให้มหาชนรับรู้ไว้ สองคำสั่ง คือ “คำสั่งหัวหน้า คสช.ทึ่ ๓ และ ๑๓
ซึ่งให้อำนาจทหารจับกุมพลเรือนไปคุมตัวไว้ในค่ายทหารโดยไม่มึข้อหาได้ ๗ วัน
ห้ามญาติ และทนายเยี่ยม ไม่ต้องแจ้งว่าอยู่ที่ไหน ศาล และ กสม.ตรวจสอบไม่ได้”
ก่อนจะไปถึงรายละเอียดคำสั่งกดหัวประชาชนต่างๆ
ที่จะยังอยู่คู่สุวรรณภูมิของมหาชนก มาดูประเด็นการ ‘ตรวจสอบ’ ที่ @sunaibkk เอ่ยถึงสักหน่อย สำหรับองค์กรศาลเอาไว้โอกาสหน้า
(ไม่ใช่ว่าไว้วางใจได้นะ) ทว่า กสม. หรือ ‘คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ’ นั้น เดี๋ยวนี้ทำท่าจะเป็นกระบอกเสียง ‘เถียงแทน’ คสช.ไปแล้ว
วันเดียวกันนี้เองมีเอกสาร กสม.ฉบับที่
๑/๒๕๖๒ ออกมา แก้ตัว แก้ต่าง แก้ผ้าเอาหน้ารอดให้กับ คสช. ซะงั้น “พิจารณาแล้วเห็นว่า
รายงานสรุปสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนดังกล่าว เป็นรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ในช่วงปี
๒๕๖๑ ซึ่งบางเรื่องมีข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม”
รายงาน ‘ดังกล่าว’ ที่อ้างถึงเป็นขององค์กรฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์ สรุปสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก
ครั้งที่ ๒๙ ประจำปี ๒๕๖๒ ที่กล่าวถึงประเด็นต่างๆ ได้แก่ “การบังคับบุคคลให้สูญหายและการทรมาน
กรณีเหตุการณ์ประท้วงทางการเมืองในปี ๒๕๕๓...” เป็นอาทิ
เหล่านั้นเป็นการเสนอความเห็นต่างระหว่างองค์กรสิทธิมนุษยชนด้วยกัน
ถึงแม้ HRW จะเป็นองค์การนานาชาติ
กสม.แค่ในกะลาแลนด์ ก็ไม่มีใครเป็นพ่องใคร ไม่เหมือน กอ.รมน.ที่กำลังจะมาแทนที่
คสช. ในอีกไม่กี่วัน
แต่ว่าจะจะแจ้งแจ้งให้เห็น
กสม.ทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์ คสช. ตรงประเด็นเสรีภาพในการแสดงออกที่ฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์บอกว่า
จนกระทั่งมีเลือกตั้งแล้ว “รัฐบาลชะลอการยกเลิกมาตรการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก การสมาคม
และการชุมนุมอย่างเข้มงวด”
กสม.เถียงแทน คสช.ว่า “ในช่วงก่อนการเลือกตั้งได้มีคำสั่งหัวหน้าคสช.
ที่ ๒๒/๒๕๖๑ เรื่องการให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง
ซึ่งมีผลให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้า คสช. จำนวนหลายฉบับ”
กสม.ยกคำสั่ง คสช.ฉบับต่างๆ เช่น ๒๒/๒๕๖๑ มาอ้างว่าได้ยกเลิกคำสั่ง
คสช.ที่ ๓/๒๕๕๘ ข้อ ๑๒ “ทำให้ศาลจำหน่ายคดีในข้อหาชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ ๕ คนขึ้นไป”
กสม.ยังว่าถึงประเด็นอื่นๆ เรื่องผู้ลี้ภัย ผู้แสวงหาที่ลี้ภัย แรงงานข้ามชาติ และแรงงานประมง
ล้วนเป็นการแก้ตัวให้กับรัฐบาล คสช.๑
ที่ผ่านมาทั้งสิ้น ในประเด็นที่ถูก HRW
ระบุว่าไม่ได้มีการแก้ไขปรับปรุงอย่างจริงจังตามครรลองของกติกาสากล
มีแต่กระทำการอย่างลูบหน้าปะจมูก ซึ่ง กสม.แก้แทน คสช.ว่าเห็นไหม “สหภาพยุโรปได้ประกาศปลดสถานะใบเหลืองของภาคประมงไทย”
แล้ว
ประเด็นเหล่านี้ผู้ที่จะมาเถียงควรเป็น ‘โฆษก คสช.’ มากกว่า กสม. นะ ว่ามั้ย จึงไม่ต้องแปลกใจกันอีกต่อไปว่ากรณีละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในระยะหลังๆ
อย่างกรณีดักตี ‘จ่านิว’ ทั้งที่เป็นข่าวไปทั่วโลก
องค์กรนานาชาติแสดงความกังวลกัน แต่ กสม.เงี่ยบฉี่
กลับมาที่เรื่อง มรดก คสช. ‘โจรป่าห้าร้อย’ หลังประกาศราชกิจจาฯ ออกมา ‘ไอลอว์’ ซึ่งรณรงค์ชวนประชาชนเรียกร้องยุติคำสั่ง
คสช.ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ๓๕ ฉบับ แจ้งว่ามีเพียง ๑๓
ฉบับจากจำนวนนั้นที่อยู่ในรายการยกเลิก
“ประกาศ คสช. ฉบับที่ ๒๕,
๒๗, ๔๑/๒๕๕๗
ที่กำหนดให้การไม่มารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. เป็นความผิด มีโทษ ๒ ปี ปรับ ๔๐,๐๐๐ ยังคงอยู่” และนอกจากคำสั่ง ๓/๒๕๕๘ ที่ให้อำนาจทหารจับคนไปขัง ๗
วันแล้ว
ยังรวมไปถึงคำสั่งที่ “ส่งผลกระทบต่อสิทธิชุมชนและมาตรการคุ้มครองประชาชนและสิ่งแวดล้อมอย่างร้ายแรง
เช่น คำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ ๓/๒๕๕๙ และ ๔/๒๕๕๙ ที่ให้ยกเว้นกฎหมายผังเมืองและผังเมืองในเขตเศรษฐกิจพิเศษ”
โดยเฉพาะ “อุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าขยะ
โรงไฟฟ้าชีวมวล โรงงานกำจัดขยะ” ที่กำลังเป็นปัญหากลิ่นเหม็น ฝุ่นละอองพิษอากาศ ที่ไม่เพียงพื้นที่ต่างจังหวัด
แต่ระบาดเข้าไปถึงชานเมืองกรุง รอวันพุพองขึ้นมาในไม่ช้า
ฉะนั้นอย่าได้มาดหมายว่าเมื่อเผด็จการได้ชุบตัวด้วยการจัดเลือกตั้งแล้ว
ประชาชนจะได้ประชาธิปไตยกลับมา ไม่เชื่อคอยดู หลังจากคู่กัด คสช. ‘ยุติบทบาททางการเมือง’
แล้ว เผด็จการในคราบประชาธิปไตยอย่าง คสช.๒ นี่จะทำให้บ้านเมืองจมปลักหนักกว่าเดิมขนาดไหน