วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 06, 2561

ถอดแล้วป้ายไอทู้บ 'โกอินเตอร์' ไวกว่าประกาศ ปปช. ให้กรรมการบอร์ดแจ้งบัญชีทรัพย์สิน


ถอดไปแล้ว ป้ายหาเสียง โกอินเตอร์ให้ไอทู้บ ใครเป็นคนทำก็ตามแต่ เอาอะไรคิด อ้างว่าเป็นภาคีภาคประชาชนต้านคอรัปชั่น เชียร์ประยุทธ์เป็นนายกฯ ที่ไม่โกงกิน ขอให้เป็นนายกฯ อีก หลังเลือกตั้ง

Tanawat Wongchai @drballban จากสภานิสิตจุฬาฯ กลุ่มเนติวิทย์ ยกเอาข้อมูลดัชนีคอรัปชั่นไทยของ ม.หอการค้ามาโต้ “พบว่าความรุนแรงของปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในยุครัฐบาล คสช. เพิ่มขึ้นถึง ๓๗% สูงสุดในรอบ ๓ ปี

และคาดว่าสถานการณ์คอร์รัปชันในปี ๒๕๖๑ จะเพิ่มขึ้นเป็น ๔๘% ทั้งๆ ที่ไม่มีนักการเมืองแม้แต่คนเดียว มีแต่ทหารและรัฐราชการที่ครองอำนาจอยู่ครับ”

ทางด้านพรรคการเมืองที่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้หาเสียง คสช. ยังดึงเกมไม่ยอมปลดล็อค ถามว่า “กกต.จะว่าไง” Chaturon Chaisang ดักคอไว้แล้ว “สงสัยจะบอกว่าใครทำให้ไม่รู้” ถ้างั้น “พรรคอื่นหรือนักการเมืองคนอื่นทำบ้างจะได้มั้ย แต่ก็คงไม่มีนักการเมืองคนไหนเอารูปผู้นำประเทศอื่นมาใช้หาเสียงหรอกนะ”

ถามกันให้แซดทั่วโซเชียลมีเดีย เอารูปนายกฯ อังกฤษมาใช้ ขออนุญาตเขาแล้วยัง มิหนำซ้ำมีคนตั้งข้อสังเกตุว่าคำ ‘Go Inter’ นี่ไม่มีในสารบบภาษาอังกฤษนะ เป็นคำรากศัพท์ละตินโบราณ แปลว่า ‘between’ แปลเป็นไทยมันๆ ได้ว่า หว่างขา

อย่างไรก็ดี เช้านี้ Pongsak Phusitsakul โพสต์ว่า “ป้าย GO INTER หายไปแล้วครับ เช้านี้ขับรถผ่าน
ไม่ผิดจากที่คาด ป้ายเชลียร์ลุงหายไปแล้ว มีป้ายอื่นมาแทน” (เปลี่ยนจากประยุทธ์โกอินเตอร์เป็น ปิดทองฝังลูกนิมิตวัดพิกุลทอง)
 
หมอพงษ์ศักดิ์เช่นกันที่เปิดเบิ่งเมื่อวันก่อน “ป้ายนี้ เพิ่งมาติดวานนี้เอง ริมถนนเพชรเกษมสายหลัก ช่วง ราชบุรี-นครปฐม ตรงแยกบางแพ-ดำเนิน (อุปการะคุณโดยเครือข่ายต้านคอรัปชั่น)” เชิดชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซะไม่มี

“ปราบปรามการทุจริต การซื้อขายตำแหน่งต้องหมดไป...ตามนโยบาย ยุทธศาสตร์คนดี ขอเป็นกำลังใจให้ท่าน...” ยุทธศาสตร์คนดีนี่นะจัดเลือกสรรผู้สมัครเข้าแข่ง ๒๐๐ คนไปให้ คสช. คัดตัวเป็น สว. แค่ ๕๐ คน ปรากฏว่ามีผู้เสนอตัวทั้งประเทศแค่ ๗,๒๑๐ คน

ต่ำกว่าเป้าหมายที่อ้างจะมีคนสมัครเป็นแสน จึงตั้งงบประมาณแผ่นดินให้ใช้ ๑,๓๐๐ ล้านบาท เท่ากับ สว. หนึ่งคนที่ คสช. หยิบขึ้นนมานี่ใช้เงินถึง ๒๖ ล้านบาท บวกกับ ค่าเบี้ยเลี้ยงกรรมการ ทั้งในระดับอำเภอและจังหวัด แห่งละ ๗ คน

ระดับอำเภอ นายอำเภอเป็นประธาน ฟาดไปคนละ ๑๘,๐๐๐ บาท กรรมการอื่นๆ คนละ ๑๕,๐๐๐ บาท ส่วนระดับจังหวัด ตัวผู้ว่าฯ ที่เป็นประธานงาบไปคนละ ๒๒,๕๐๐ บาท กรรมการอื่นได้ ๑๘,๐๐๐ บาทต่อคน ‘Frequency @HS2_QRK5_s9 เขาถึงบอกว่า “อ้วนท้วนสมบูรณ์พูลสุข” เชียวละ

ไหนจะวิธีการหาคะแนนเสียงแบบ แจกซิมคาร์ด“จะเติมเงินให้ซิมคนจนเบอร์ละ ๕๐ บาทต่อเดือน นั่นคือจ่ายให้บริษัทเจ้าของซิมเดือนละ ๕๐ บาทต่อเบอร์ คนจน ๑๔ ล้านคนก็เดือนละ ๗๐๐ ล้าน ๖ เดือน ๔,๒๐๐ ล้านบาท”

ถือแถน @pran2844 ถึงได้ชี้ว่า “เป็นซิมแก้จนให้ค่ายเจ้าของซิม ผ่านบัตรคนจนแบบเหนาะๆ ชิวๆ” นั่นเอง

แล้วยังข้ออ้างบนป้ายคัตเอ๊าท์เชลียร์ประยุทธ์ที่ว่า “เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมที่โปร่งใส” แต่ปรากฏว่ากฏเหล็กของ ปปช. ให้กรรมการบริหารองค์การต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน ทำให้พวก คนดี ทั้งหลายขยับตัวลาออกจากบอร์ดกันจ้าละหวั่น

ทั่นรองฯ ฝ่ายหัวหมอต้องออกมาหาทางผ่อนปรน ขอให้รอๆ กันก่อน ใครออกไปแล้วเดี๋ยวหาทางให้กลับมาใหม่ ปลอบใจว่า ปปช.กำลังคิดค้นวิธีแก้ไข ยกเว้นหรือยกเลิกการแจ้งทรัพย์สินกรรมการบางตำแหน่ง เรียกง่ายๆ ว่าจะให้ ปปช.เลียกลับน้ำลายที่ถ่มออกไปแล้ว

ก่อนหน้านี้ก็ใช้วิธีสั่งระงับบังคับใช้ เลื่อนไปถึง ๓๑ มกรา ๖๒ ตอนนี้กำลังปรับเปลี่ยนประกาศเสียใหม่อยู่ ยังไม่เสร็จ นายวิษณุ เครืองาม ว่า “จึงไม่ควรจะไปตื่นเต้นและรีบลาออกกัน” ส่วนที่ลาออกกันไปแล้ว การกลับเข้ามาใหม่บางตำแหน่งง่าย บางตำแหน่งอาจจะยาก

ถึงอย่างไรการแก้ไขประกาศใหม่คราวนี้ ปปช.จะรอบคอบถี่ถ้วน ไม่เหมือนก่อนที่รีบทำตามข้อจำกัดกฎหมาย ปรึกษาใครไม่ได้อีกด้วยแน่ะ ระเบียบใหม่จะแบ่งตำแหน่งที่เข้าข่ายเป็น ๓-๔ กลุ่ม รวมทั้งที่ไม่มีความสุ่มเสี่ยง ก็ไม่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สิน

จำเพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ “ควรจะต้องให้ยื่น แต่ไม่ต้องเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งส่วนใหญ่เท่าที่ทราบ จะกลัวเรื่องการเผยแพร่” ซึ่งร้องแรกแหกกะเฌอกันว่าถ้าต้องแจ้งรายการทรัพย์สินแล้วจะมีโจรผู้ร้ายไปปล้น เป็นต้น


ข่าวว่าพวกที่ลาออกกันระนาว ไม่ต้องการแสดงทรัพย์สินนี่เป็น บอร์ดหมออย่างคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ทั้งฝ่ายนโยบายและฝ่ายบริหารออกไปแล้ว ๘ คน ก็เลยไม่พ้นโดนนินทา
 
มีคนตั้งข้อสังเกตุไว้บนอินเตอร์เน็ตว่า เอ๊ะพวกหมอเหล่านี้หรือเปล่า เมื่อสมัยรัฐบาลที่แล้วพากันไปเป่านกหวีดไล่รัฐบาลที่แล้ว หาว่าไม่โปร่งใส ใส่เสื้อกาวน์ไปร่วมชุมนุม กปปส. ยกป้ายข้อความน่าทึ่งว่า “หนีคนไข้มาไล่อีปู”