วันพุธ, ตุลาคม 04, 2560

"ความสุข" ของประยุทธ์หลังเยือนสหรัฐฯ: คนไทยต้องจ่ายเท่าไร? - BBC Thai



GETTY IMAGES


"ความสุข" ของประยุทธ์หลังเยือนสหรัฐฯ: เท่าไรที่คนไทยต้องจ่าย


ที่มา BBC Thai


การเดินทางเยือนสหรัฐฯของนายกรัฐมนตรีไทยและคณะดูเหมือนประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ กระเตื้องขึ้นอย่างมากหลังความอึมครึมตั้งแต่รัฐประหาร 2557 แต่ภาคประชาสังคมเห็นว่า ประชาชนไทยอาจจะต้องจ่ายค่าความสำเร็จ ของรัฐบาลกับนักธุรกิจในครั้งนี้ในราคาที่แสนแพง

"สุขกว่าทุกครั้ง"

หลังการหารือกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พล.อ.ประยุทธ์ ถึงกับออกปากว่า "การมาสหรัฐฯ ในครั้งนี้มีความสุขกว่าทุกครั้งเพราะว่ามีความรู้สึกว่าได้พบเพื่อนที่แท้จริง"



GETTY IMAGES ผู้นำทั้งสองเมื่อพบกันบนพรมแดง


เขาพรรณนาความรู้สึกของการประชุมในห้องรูปไข่ ของทำเนียบขาวว่า "วันที่ผมเองได้พบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พูดแหย่เหมือนคนคุ้นเคยกันรู้ว่าท่านเป็นคนจริงใจ พูดจาสุภาพกับผม ครั้งแรกที่ผมพบท่าน คือตอนที่พูดคุยโทรศัพท์กัน ท่านพูดด้วยวาจาที่ไพเราะ ทำให้ผมได้รู้สึกว่า ผมจะได้พบเพื่อนของผมอีกคน และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมมาครั้งนี้เพราะท่านได้แสดงให้เห็นถึงความจริงใจ แล้วมีอะไรท่านก็พูดกับผม"

หัวหน้าคณะรัฐประหารของไทย อ้างถึง ถนนมิตรภาพเ พื่อชี้ให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่อาจงอกงามกว่าเดิมในอนาคต

"คนไทยคุ้นเคยกับสหรัฐฯมากที่สุด ถนนเส้นทางแรกคือถนนมิตรภาพ เป็นถนนเส้นที่ดีที่สุด ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยการร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการสร้างถนนที่มีความเรียบ และรออยู่ว่าจะมีการสร้างเส้นที่ 2 เส้นที่ 3 หรือไม่" นายกฯ กล่าว ในคณะร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ที่จัดโดยสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา-อาเซียน และสภาหอการค้าสหรัฐอเมริกาในคืนวันที่ 3 ต.ค. ตามเวลาท้องถิ่น





GETTY IMAGES นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว. ตปท. สหรัฐฯ พบกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย (ขวา) รมว.ตปท. เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา


"เราจะพยายามขายของให้คุณเพิ่มมากขึ้น"

ทว่า เบื้องหลังการต้อนรับที่อบอุ่นของทางการสหรัฐฯนั้นก็คือ ความคาดหมายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มุ่งลดการขาดดุลทางการค้ากับไทยลงให้ได้ ตามนโยบาย "อเมริกา เฟิร์สท์" โดยทรัมป์แสดงชัดเจนว่าความสัมพันธ์ในขณะนี้ เรื่องด้านเศรษฐกิจการค้านั้นมาก่อนประเด็นอื่น

"ความสัมพันธ์ทางด้านการค้าระหว่างเรากลายเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า และนี่เป็นประเทศที่ยอดเยี่ยมที่จะทำการค้าด้วย" ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวกับคณะผู้แทนรัฐบาลไทยต่อหน้าผู้สื่อข่าว

"ผมคิดว่าเราจะพยายามขายให้คุณเพิ่มมากขึ้น หากว่านั่นเป็นไปได้"

รอยเตอร์อ้างรายงานของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ว่าสหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับไทยราว 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 11 ของประเทศที่สหรัฐฯขาดดุลการค้าด้วย



อย่างไรก็ตามรัฐบาลไทยก็ดูเหมือนจะเตรียมพร้อมรับมือกับประเด็นนี้ไว้แล้ว เพราะนักธุรกิจที่ร่วมคณะเข้าไปด้วยนั้นต่างก็มีดีลอยู่ในใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุนในสหรัฐฯหรือซื้อสินค้า

นายคริสโตเฟอร์ พงยา กาลนิล ผู้บริหารบริษัทบ้านปูจำกัด (มหาชน) นักธุรกิจด้านพลังงานที่ร่วมคณะมาเยือน ชี้ว่าขณะนี้นับเป็นโอกาสดีในการที่จะลงทุนด้านพลังงานในสหรัฐฯ เนื่องจากรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์มีนโยบายหลักในการส่งเสริม เพราะเป็นการสร้างงานในประเทศ อีกทั้งเป็นโอกาสดีที่จะได้แลกเปลี่ยนเทคโนโลยีด้านการผลิตและการสำรวจพลังงาน ขณะเดียวกันไทยยังมีโอกาสที่จะดึงนักลงทุนอเมริกันไปลงทุนด้านพลังงานในไทย



GETTY IMAGES คนงานในเหมืองถ่านหินขนาดเล็กในรัฐเวสต์เวอร์จิเนียของสหรัฐฯ หนึ่งในพื้นที่ประสบปัญหาคลาดแคลนรายได้ที่สุดในปี 2015


นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรม ก็ระบุว่าเป็นโอกาสดีที่จะผลักดันธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอีของไทย ได้เข้าสู่ตลาดของสหรัฐได้มากขึ้นโดยจะขับเคลื่อนผ่านสภาหอการค้าไทยมายังหอการค้าสหรัฐต่อไป

ส่วนนายกลินทร์ สารสิน ผู้บริหาร SCG ชี้แจงกรณี SCG ลงนามซื้อถ่านหินจากภาคเอกชนสหรัฐฯ ทั้งหมด 155,000 ตัน ทดแทนการซื้อถ่านหินจากอินโดนีเซีย เพื่อใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์ และหากการซื้อครั้งแรกนี้พบว่ามีคุณภาพดี ก็คิดว่าจะสั่งซื้อต่อ ๆ ไป และกลินทร์ก็เชื่อว่าถ่านหินของสหรัฐฯ คุ้มค่าต่อการลงทุน

สัมพันธ์หวานชื่น แต่สิทธิมนุษยชนหล่นหาย

กลุ่มทำงานด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ วิจารณ์รัฐบาลทรัมป์ต่อการปรับนโยบายให้ความสำคัญกับรัฐบาลทหารบนพื้นฐาของการค้ามากกว่าคุณค่าประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

กลุ่มฮิวแมน ไรส์ วอทช์ออกเอกสารเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงกดดันรัฐบาลทหารของไทยให้ฟื้นฟูประชาธิปไตย นอกจากนี้ก็ยังเรียกร้องให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ "ลดระดับความร่วมมือและความใกล้ชิด"กับบรรดาผู้นำรัฐบาลทหารของไทยลงอีกด้วย



GETTY IMAGES ทรัมป์ จับมือกับ ปีเตอร์ ธีล นักธุรกิจชาวสหรัฐฯ ในการพบปะกับผู้นำด้านเทคโนโลยีเดิอนธ.ค.ปี 2016


จอห์น สติฟตัน ผู้อำนวยการฮิวแมน ไรท์ วอทช์ด้านเอเชีย ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กล่าวกับรอยเตอร์ว่า สหรัฐฯควรจะยืนยันหนักแน่นว่ากฎหมายของสหรัฐฯ นั้นห้ามมิให้ให้ความช่วยเหลือทางด้านการทหารกับประเทศไทย และต้องมีเงื่อนไขให้รัฐบาลทหารของไทยปรับปรุงทางด้านต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับสิทธิมนุษยชนก่อนที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์สองฝ่ายระหว่างกัน

การที่สหรัฐฯลดความสนใจที่จะกดดันไทยทางด้านสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น รวมทั้งประชาธิปไตยลงไปยังมีส่วนทำให้กลุ่มเรียกร้องประเด็นเหล่านี้ภายในไทยอ่อนแรงลงไปด้วย เนื่องจากตลอดมาการกดดันของสหรัฐฯ เป็นหลักสำคัญที่พวกเขาใช้พึ่งพิงมาตลอด และก็เป็นเสาค้ำยันที่ช่วยได้ในระดับหนึ่ง



GETTY IMAGES ผู้ประท้วงในนิวยอร์กชูป้ายต่อต้าน โดนัลด์ ทรัมป์ และเบ็ตซี เดวอส รัฐมนตรีศึกษาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา


ผลกระทบต่อประชาชน
น.ส. กรรณิการ์ กิจติเวลกุล รองประธานกลุ่มเอฟทีเอวอทช์ ซึ่งเป็นกลุ่มนักพัฒนาเอกชนที่ศึกษาเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ชี้ว่า สิ่งที่นายกรัฐมนตรีและคณะทำคือการคงผลประโชน์ทางการค้าเดิมเอาไว้ไม่ให้รับผลกระทบ เช่น คงสิทธิพิเศษทางการค้าหรือจีเอสพีเอาไว้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้าสูงเกินไป แต่ไม่ได้มองในประเด็นที่ว่า จะขยายการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น หรือมั่นคงยั่งยืน และเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายเสมอกัน

น.ส. กรรณิการ์คิดว่าประชาชนไทยจะเป็นผู้ที่ต้องจ่ายค่าความสำเร็จครั้งนี้ เพราะหลังจากนี้สหรัฐฯจะออกนวปฏิบัติมาให้รัฐบาลไทยยอมตาม เช่น ไม่ห้ามการใช้สารเคมีทางการเกษตรบางชนิด ที่หลายประเทศระงับใช้ไปแล้วเพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน, กดดันไทยให้แก้ไขกฎหมายสิทธิบัตร ให้จดทะเบียนสิทธิบัตรง่าย ๆ เพื่อให้สามารถผูกขาดเรื่องสิทธิบัตร ซึ่งจะทำลายการวิจัยและพัฒนาในประเทศ และทำลายความสามารถด้านการแข่งขันของไทย

นอกจากนี้ก็ยังพยายามกดดันให้ไทยนำเข้าหมูและสัตว์ปีกจากสหรัฐฯ ซึ่ง ทางสหรัฐฯนั้นอนุญาตให้ใช้สารเร่งเนื้อแดง ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่ค้างอยู่ในอวัยวะภายในของหมู หากมีการนำเข้ามาในประเทศไทยเพื่อให้ประชาชนไทยบริโภคก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ และอาจทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูในประเทศต้องประสบปัญหาเพราะว่าในขณะนี้ไทยก็ผลิตเนื้อหมูเกินพอต่อความต้องการบริโภคภายในประเทศอยู่แล้ว

"เหล่านี้เป็นผลกระทบต่อประชาชน นับเป็นราคาที่ประชาชนต้องจ่ายภายใต้การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างรัฐบาล" กรรณิการ์กล่าว

...



...