อ๊ะ พอพระบรมฯ เสด็จเยอรมนี บิ๊กตูบออกมาปากจัดอีกแระ
ที่พูดถึงนี่ไม่มีนัยยะอะไร อดแซะไม่ได้ ก็แหม สงบปากสงบคำมาได้สองอาทิตย์กว่าช่วงโศกาอาดูร ดีไปอย่าง ทีวีชาวบ้านไม่พังเพราะถูกเจ้าของถีบ
สำหรับการเสด็จฯ เยอรมนี ดูที่นี่ http://www.reuters.com/arti…/us-thailand-king-idUSKBN12V0S5… รอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวนายทหารวงในว่าจะเสด็จกลับภายในเดือนนี้ (พฤศจิกายน) เพื่อการเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ ๑๐
ส่วนที่มีนักวิชาการสถาบันศึกษาเอเซียน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดร.พอล เชมเบอร์ส วิเคราะห์ว่า “ในไม่ช้าทหารก็จะกระชับย้ำให้สถาบันกษัตริย์สยบยอมอย่างเงียบๆ เป็นจริงชัดเจนยิ่งขึ้น” (..the military may soon insist that the monarchy’s quiet subordination become more explicit.)
นั่นก็ไม่มีหลักฐานอื่นที่แน่นเหนียวแจ้งชัดมาสนับสนุน นอกจากการยกเอาอำนาจของ คสช. ตามมาตรา ๔๔ มาเป็นข้ออ้างว่า “เป็นอำนาจเบ็ดเสร็จเผด็จการที่กีดกันสถาบันกษัตริย์ออกไปจากการควบคุมกองทัพโดยปริยาย” (This section, which enshrines the junta’s right to dictatorship, does, however, implicitly exclude the monarchy from military control.)
(http://foreignpolicy.com/…/thailands-junta-wants-the-monar…/)
ทั้งที่มีเสียงซุบซิบเรื่องความไม่เป็นเอกภาพภายในกองทัพอยู่เหมือนกันก็ตาม (#Thailand RN: Military faction opposition to this junta starts to use international channel to do information operation against this regime. 7:25 PM - 30 Oct 2016)
คำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในระหว่างการให้นโยบายต่อแม่น้ำ ๕ สาย ในการประชุมร่วมที่รัฐสภาเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ใช้คำรุนแรง (อย่างเคย) โดยไม่มีปี่มีขลุ่ยเมื่อเอ่ยถึง “ไอ้พวกกเฬวรากด้านนอก" ที่บอกว่าตน ‘สืบทอดอำนาจ’
“ตนไม่อยากเข้ามา เพราะเข้ามาแล้วเหมือนถูกซักฟอก มันเปลืองตัว ต้องยอมรับว่าไม่มีอะไรในโลกเท่าเทียมกัน...
เขียนทุกวันว่าตนจะอยู่ในอำนาจ ถ้าไม่สงบเรียบร้อย ตนก็อยู่ต่อ ปิดประเทศก็ต้องปิดกันไป ถ้าเอามวลชนมา แกนนำต้องโดนก่อน โดยเฉพาะคนที่พูดมาก ตนมีอำนาจอยู่”
(http://www.thairath.co.th/content/535530)
อาจเป็นไปได้ว่าทั่น ‘ยั๊ว’ เรื่องข้าวเปลือกถูกข้าวสารแพง ชาวนาย่ำแย่ พวกลูกชาวนาจึงก่อกระแสสีข้าวเองใส่ถุงพล้าสติกขายตรง ซึ่งทีแรกบิ๊กตูบตำหนิผ่านการแถลงของโฆษกห่านอู แต่มีผู้รู้จริงหลายคนชี้ว่าทำได้ เลยต้องกลับหลังหันทันควันแทบหัวคะมำ
(“บิ๊กตู่ยันไม่ผิด เชียร์ชาวนาขายข้าวเองทางออนไลน์”http://www.dailynews.co.th/politics/533153 นับว่ายังดีกว่าทั่นรองฯ เมื่อนักข่าวจี้ว่าราคาข้าวตกมากถูกกว่าราคาปุ๋ยเสียอีก ‘บิ๊กตือ’ แนะให้ไปขายปุ๋ยแทนเสียนี่)
“นายกรัฐมนตรีรับทราบและขอบคุณ พร้อมให้กำลังใจ แต่มีกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีบอกว่าการขายตรงดังกล่าวผิดกฎหมายเรื่องการขายตรง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมาย สามารถทำได้” รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ก็ได้แถลงแล้วเช่นกันว่าทำได้
อีกอย่างที่น่าจะทำให้ทั่นผู้นัมพ์ ‘หัวเสีย’ ได้เหมือนกัน จากข้อความบนเฟชบุ๊คของเซเล็บนายหนึ่งนามว่า ‘รุ่งคุณ กิติยากร’ เมื่อสามสี่วันก่อน
เขาเขียนถึงเจ้าสัวสองคน ที่ Thanapol Eawsakul ตีความว่าอันดับหนึ่งคือ เจริญ ศิริวัฒนภักดี (เบียร์ช้าง) อันดับสองเป็น ธนินทร์ เจียรวนนท์ (เครือซีพี)
“กลุ่มบริษัทที่อ้าง คำว่า 'ประชา' และ คำว่า 'รัฐ' ของเจ้าสัวทั้งสอง ร่วมกับกลุ่มทุนผูกขาดอื่นๆ ได้รับการสนับสนุนของรัฐบาล มีอำนาจถึงขั้นร่วมเขียนนโยบายรัฐ เพื่อให้พวกตนเองรวบกินเบ็ดเสร็จประเทศไทย...
ออกนโยบายจ้างชาวนาให้เลิกปลูกข้าว ให้มาปลูกข้าวโพดให้ตัวเองแทน โดยใช้เงินหนึ่งหมื่นล้านจากภาษีประชาชนมาจ้าง ไม่ต้องลงทุนจ้างเอง...
เช่นเดียวกับที่ชาวนาที่ถูกกดราคาข้าวเปลือก ทั้งที่ข้าวสารยังคงราคาเดิม จนต้องขายที่ดินตัวเองทิ้งมากมาย อย่างที่ปรากฎในปัจจุบัน...
คำหนึ่งก็อ้าง 'เศรษฐกิจพอเพียง' สองคำก็อ้าง 'ศาสตร์พระราชา' แสแสร้งแสดงความจงรักภักดีสารพัด
แต่แม้จะอดใจรอให้พ้นสิบวันในการถวายอาลัย ก็ยังรอไม่ไหว เหล่าทหารเหล่านี้ก็ได้รีบสานต่อแผนการชั่วเพื่อนายทุนที่ตนรับใช้ เซ็นสัญญาข้อตกลงในการให้ชาวนาเลิกปลูกข้าวสองล้านไร่ไปปลูกข้าวโพดแทน ตั้งแต่ไม่กี่วันในระหว่างที่ทั้งประเทศกำลังอาลัยโศกเศร้า”
(https://www.facebook.com/roongunaml/posts/1784209388503036)
เหมือนตีเข้าขนดหลัง เขาไม่ได้อ้าง ‘เหล่าทหาร’ เฉยๆ แต่เป็นเรื่องของ “การที่มีการเงินโอนเข้าบัญชีผู้มีอำนาจ ๖๐๐ ล้านบาท จากบัญชีบนเกาะลึกลับเกี่ยวโยงกับเจ้าสัวอันดับหนึ่ง โดยมีการอ้างว่าซื้อที่ดิน ทั้งที่ราคาที่ดินไม่ได้มีมูลค่าใกล้เคียงจำนวนเงิน นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”
โดนจี้จุดเดือดอย่างนี้ถ้าโมโหโกรธาก็พอเข้าใจ แต่มันอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างที่รุ่งคุณเขาว่า ไอ้การเปลืองตัว ตกปลัก ถูกซักฟอก มันเป็นผลจากการเสาะหาและวางแผนแยบยลของตนเองทั้งนั้น
จะไปเที่ยวฟาดหางใส่นักการเมืองบ้าง ใส่คนที่อยู่ต่างประเทศบ้าง มันเป็นการตอแหล ยัดความผิด กล่าวหาอย่างไม่มียางอาย