วันพุธ, พฤศจิกายน 02, 2559

ลองอ่านความเห็นของ คุณกรณ์ จาติกวณิช ดูครับ แล้วจะเข้าใจถึงโอกาสและความน่ากลัวของภาพนี้





ภาพนี้คนไทยเห็นอาจจะนึกถึงทั้งโอกาสและความน่ากลัว

วูบแรกที่ผมคิดเมื่อเห็นภาพนี้คือความน่ากลัว 
ลองอ่านความเห็นของ คุณกรณ์ จาติกวณิช ดูครับ แล้วจะเข้าใจถึงความน่ากลัวของระบบผูกขาดที่กำลังจะกลืนกินประเทศไทย



Pat Hemasuk 


ooo

ภาพนี้คนไทยเห็นอาจจะนึกถึงทั้งโอกาสและความน่ากลัว

ผมคุยกับน้องในแวดวง Fintech เขามีแนวคิดที่น่าสนใจครับ ว่า การจับมือระหว่าง 2 เจ้าสัวนี้ทำให้ 'เราสามารถจินตนาการเห็นลูกค้า True และลูกค้า Seven Eleven ใช้บริการทางการเงินทั้ง Online และ Offline ผนวกเข้ากับชีวิตประจำวันออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ เช่น ฝากถอนเงินได้ที่เซเว่น, โอนต่อให้ใครก็ได้ทางแอพมือถือ, กู้เงิน Peer to peer ได้ทางมือถือ และจ่ายดอกเบี้ยได้ผ่านเซเว่น, บิลค่าใช้จ่ายไปเก็บรวมกับบิลมือถือทรู, ใช้ระบบ Seven Eleven เพิ่มประสิทธิภาพเรื่องโลจิสติกส์เวลาซื้อขายของผ่าน Lazada ฯลฯ'

นี่คือความสะดวกของผู้ใช้บริการ แต่เมื่อเราแทบนึกไม่ออกว่าจะมีคู่แข่งคู่ไหนที่สามารถให้บริการในระดับเดียวกันได้ เราจึงอดไม่ได้ที่จะนึกเป็นห่วงว่าการครองตลาดในระดับนี้จะมีผลอย่างไรต่อผู้ประกอบการอื่นรวมไปถึงผลต่อการพัฒนา SME และนวัตกรรมโดยทั่วไปที่ต้องอาศัยสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขัน

"ดังนั้นสิ่งที่เราอยากขอคือ อย่ากีดกันทางการค้าคนอื่น ให้โอกาสฟินเทคอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ในเครือ Alibaba หรือ CP เติบโตบ้าง และเติบโตไปด้วยกัน เช่น ถ้าจะใช้บริการฟินเทคที่สร้างขึ้นใหม่ ก็ให้คนใช้มือถือค่ายอื่นใช้ได้ด้วย จะจ่ายเงินด้วย e-wallet ที่เซเว่นก็ให้โอกาส e-wallet เจ้าอื่นเป็น payment gateway ได้บ้าง แล้วการแข่งขันจะทำให้ประเทศไทยรวมถึงกลุ่ม CP เองพัฒนาได้อีกเยอะครับ"

เรื่องแบบนี้ไม่มีประเทศใดที่เพียงแค่ฝากความหวังไว้ว่าผู้ประกอบการยักษ์ใหญ่จะใจกว้าง ทุกประเทศเขาใช้อำนาจรัฐและกฎหมายกำกับดูแลเพื่อให้การแข่งขันมีจริง รัฐเราต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้ใครมาปิดประตูตีแมวในบ้านเราครับ

(แนวคิดจากการสนทนาและบทความของคุณเจษฎา สุขทิศ เลขาฯชมรมไทยฟินเทค)


Korn Chatikavanij