วันอังคาร, สิงหาคม 04, 2558

คำเตือน คสช. ทั้งคณะ พร้อมผู้ร่วมขบวนการ (Accomplis) ทุกคน ต้องหาหลวงพ่อโกย วัดหน้าตั้ง องค์ใหญ่ๆ มาสวมใส่บนคอ แล้วต้องสวดมนต์บท "ตัวใคร ตัวมัน" - บทความแพร่หลายในเวป




(แฟนเพจ)ว่าด้วยเรื่อง การใช้กฏหมายสิทธิมนุษยชนของ EU ใน ASEAN และการต้องส่งต่อคดี (Refer case to) จากศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป สู่ ศาลอาญาพิเศษขององค์การสหประชาชาติ ในกรณีของชาวอุยกูร์ (Uighur) เพื่อความเข้าใจ ที่ตรงกันอีกสักครั้ง

๑. ที่ถามผมมาว่า อีกนานแค่ไหน เรื่องราวในประเทศไทย ที่ยุ่งวุ่นวายจะจบสิ้น ผมพอจะให้ Clues ได้ว่า ให้ดูไปที่ EU ในเรื่อง การจัดการการประมง ดูที่ FAA ในเรื่องการจัดการการบินของไทย

๒. ดูที่สั้นที่สุด คือดูไปที่ UN HCR หรือ คณะกรรมาธิการที่ดูแลเกี่ยวกับเรื่อง ผู้อพยพ ชาวอุยกูร์ (Uighur)

๓. ที่UN HCRให้เวลาที่สั้นที่สุด ในการจัดการกับปัญหา ที่ผิดกฏหมาย

๔. ที่ประเทศไทย โดยคณะผู้บริหารประเทศ[เถื่อน] ได้กระทำผิดต่อ หลักการ Non - Refoulement Principles ที่แตกตัวเอง ออกมาจาก the Fourth Geneva Convention, 1949 including the Common Article 3 ว่า

๕. เขาสั่งจัดการอย่างไร?ภายในเวลา ๔๕ วัน นับแต่วัน ที่ส่งมอบชาวอุยกูร์ ให้แก่ จีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเวลาก็เหลือไม่มากแล้ว

๖. เขาสั่งว่าอย่างไร? ตุรกี ก็รออยู่ ที่รออยู่ คือ รอ คำสั่งชี้ขาดของคณะกรรมาธิการ คณะนี้ ที่จะชี้ขาดในเรื่องนี้อย่างไร?

๗. ประเทศไทย รออยู่อย่างเดียว คือ รอการไปเป็น จำเลย ในศาลสิทธิมนุษยชนของยุโรป (the European Human Rights Court, EHRC เท่านั้น

๘. คดีนี้ง่ายต่อการตัดสินชี้ขาด โดยศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป เพราะคดี มีมาตรฐาน การตัดสินชี้ขาดอยู่แล้ว

๙. จากคดีของ ศาลสิทธิมนุษยชนของยุโรป ในคดีตามคำฟ้องที่ 46827/99 กับ คดีตามคำฟ้องหมายเลขที่ 46951/99 คดีชื่อ Mamatkulov and Askarov v. Turkey

๑๐. ที่ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป ตัดสินให้ตุรกี แพ้คดี ในกรณีที่ส่ง ชาวอุซเบค ๒ คน แก่รัฐบาลอุซเบค ไปจองจำ อันเป็นการทรมาน

๑๑. แต่ในคดีในระหว่าง ตุรกี v. ประเทศไทย เราเข้าไปเป็นจำเลยตาม Procedure ที่รัฐสภายุโรปประกาศบังคับใช้ในวันที่ ๑๕ มกราคม ปีค.ศ.2014 ที่มีผลบังคับมาถึง Hua - Hin Cha- Am Declaration, 2011 คำประกาศฝ่ายเดียว เพื่อให้เกิดผลผูกพันไทย โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

๑๒.เมื่อประเทศนี้ไม่มี เครื่องมือชี้ขาดเกี่ยวกับ "สิทธิมนุษยชน" ก็ต้องไปใช้เครื่องมือของ EU

๑๓. ทั้งนี้เป็นไปตามหลักกฎหมายใหม่ของ EU คือ " Aquis Communuataire"

๑๔. (นั่นคือ กฎหมาย ของ EU ทั้งสิ้น รวมคำพิพากษาของศาลใน EU มีผลบังคับทั่วทั้ง ASEAN จำนวน ๑๐๘,๐๐๐ ฉบับ)

๑๕. เพราะ EU เข้ามาควบรวมกับ ASEAN โดยสมบูรณ์แล้ว ตั้งแต่ ปีค.ศ.1995 โน่นแล้ว

๑๖. ปัญหาต่อไปหลังจากชี้ขาดคดี ในระหว่าง ตุรกี v. ไทยแลนด์ คือ การส่งต่อคดี (Refer the case to) ของศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป สู่ศาลอาญาพิเศษแห่งสหประชาชาติ

๑๗. ตาม Resolutions ของคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ที่ 827 (1993) เพราะเป็นเรื่องโดยแจ้งชัดอยู่ในตัวว่า ประเทศไทย ก่อการละเมิดตามthe Fourth Geneva Convention, 1949 including the Common Article 3

๑๘. ต้องนำResolutions ของคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ที่ 827 (1993) มาใช้บังคับกับ คณะ คสช. และ ผู้บริหารประเทศไทย [เถื่อน] ในศาลอาญาพิเศษของสหประชาชาติ ทันที

๑๙. ตรงนี้แหละ ผมว่า ไม่น่าจะเกินวันที่ ๓๑ ธันวคม พ.ศ.๒๕๕๘ วันใกล้ๆสิ้นปีทุกปี สหประชาชาติ มักสำแดงเดช เกือบทุกปี

๒๐. ผมเตือนไว้แล้ว คณะคสช. ทั้งคณะ พร้อมผู้ร่วมขบวนการ (Accomplis) ทุกคน ต้องหาหลวงพ่อโกย วัดหน้าตั้ง องค์ใหญ่ๆ มาสวมใส่บนคอ แล้วต้องสวดมนต์บท "ตัวใคร ตัวมัน"

เอวัง ก็มีด้วยประการ ฉะนี้.
...
แพร่หลายในเวป... โปรดใช้พิจารณา