วันศุกร์, ตุลาคม 11, 2567

ผู้สมัครพรรค ปชน.เลือกซ่อมเขต ๑ พิษณุโลกยื่นร้อง กกต. ค้านผล ๔ ข้อ สงสัยจะไม่บริสุทธิยุติธรรม เพราะ พท.หาเสียงกาเบอร์สองเดี๋ยวได้เงินหมื่น

อ้ะ ถึงทีพรรคประชาชนร้องเรียนมั่ง ณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ผู้สมัครเลือกซ่อมเขต ๑ พิษณุโลก คิดอยู่เกือบเดือนก่อนตัดสินใจเปิดหน้า ยื่น กกต. ๔ ข้อ สงสัยการเลือกตั้งเมื่อ ๑๕ กันยา จะไม่บริสุทธิยุติธรรม

เขาอ้าง “พรป.เลือกตั้ง บอกไว้ว่า ถ้าไปพูดปราศรัยทำให้คนเข้าใจผิด แล้วเป็นผลทำให้ผู้สมัครเสียคะแนน มีความผิด” ยกเอากรณีปราศรัยของแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ว่า “จริงๆ เงินหมื่นดิจิตอลวอลเล็ตต้องออกมานานแล้ว ถ้าไม่เจอฝ่ายค้านฟันน้ำนมน่ะ

ไอ้โน่นก็ค้าน ไอ้นี่ก็ค้าน แต่ไม่มีปัญหาครับ ไม่มีปัญหา ก่อนจะเดินทางไปถึง ๓๐ กันยา ท่านมีภาระสำคัญคือ กาเบอร์ (สอง) ๆ หลังจากนั้นวันที่ ๓๐ กันยางบประมาณคนละหมื่นลงไปที่ชุมชนเปราะบาง ๑๔ ล้านกว่าคน สบายไหมล่ะพี่น้องพิษณุโลก”

อันนั้น ณฐชนนบอก “ปรึกษานักกฎหมายและนักภาษาศาสตร์แล้วเข้าข่ายมาตรา ๗๓ จูงใจให้เลือกโดยการสัญญาเชิงนโยบาย” ส่วน วรรค ๕ มาตราเดียวกัน ถือได้ว่า “เป็นการใส่ร้ายทำให้เข้าใจผิด จูงใจให้คนไม่เลือก” เขามั่นใจเรื่องนี้ผิดแน่ จึงได้ร้องค้านด้วยตนเอง

“เรื่องที่สอง มีประชาชนผู้หวังดีส่งรูปมาให้ดู ว่ามีการกระทำของคนกลุ่มหนึ่ง ประกอบด้วย อสม. ประธานและรองประธานคณะทำงานชุมชน และกรรมการ ได้เดินแจกทรายป้องกันลูกน้ำยุงลายตามบ้าน” สนนราคาไม่เท่าไหร่ แต่มีใบ ๕๐๐ ติดใต้ถุง

ข้อสำคัญคนที่เดินแจกพร้อมใจกันใส่เสื้อแดง บางตัวมี ข้อความบนหน้าอกเขียนว่า พรุ่งนี้เพื่อไทย แล้วลงรูปถ่ายคู่กับรถแห่ของผู้สมัครเพื่อไทย อีกเรื่อง มีผู้หวังดีถ่ายรูปเขาตอนที่รับทรายอะเบด วิธีการคือ จะเรียกเจ้าของบ้านออกมารับบนถนนกลางซอย

“จึงต้องร้องเรื่องนี้ให้ กกต.ตรวจสอบหน่อย ให้ไปขอดูกล้องวงจรปิดของตำรวจว่าการแจกทรายแบบนี้ทำเป็นแบบแผนเดียวกันอย่างมีนัยยะสำคัญหรือเปล่า เป็นกระบวนการหรือเปล่า ขอ กกต.ใช้ดุลพินิจว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่”

ส่วนอีกเรื่อง มีคลิปของกรรมการเฝ้าหน่วยเลือกตั้งนั่งคุยกัน ๓ คน ประชาชนผู้หวังดีเอามาให้ “ในคลิปมีสามีภรรยาคุยกับอีกคนที่ตั้งคำถามว่าแจกครบไหม แจกยังไง ใช้วิธีการไหนบ้าง เช็คหัวคิวยังไง เช็คคนยังไง ไอ้คนนั้นแจกแล้วได้มาเลือกตั้งหรือเปล่า”

เขาว่า “โอ คุยกันละเอียด...ขยันแฉตัวเอง ขยันพูด หมดเปลือกเลย” แต่ก็ชั่งใจอยู่นานว่าจะเปิดคลิปสู่สาธารณะไหม เนื่องจากในคลิปเห็นหน้าคนที่แจ้งเบาะแสชัดมาก  “ถ้าผมเปิดเผยเลย ผมไม่สามารถดูแลชีวิตเขาได้เลย

จึงต้องไปยื่นขอให้คนเหล่านี้ (ผู้แจ้งเรื่อง ผู้ทำคลิป ผู้สนันสนุน) เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานเสียก่อน ซึ่งมันจะไม่ได้ไว คลิปได้มาตั้งแต่หลังเลือกตั้งใหม่ๆ “ถึงแม้จะมีคำสั่งให้คุ้มครองพยานแล้ว ผมก็ยังต้องชั่งน้ำหนักอยู่ดี”

(https://x.com/Js_live2/status/1844383604409037028)