วันเสาร์, ตุลาคม 26, 2567

อดีตเลขาฯ สมช.เปิดเบื้องหลังสัมพันธ์แน่นแฟ้น ทักษิณ ชินวัตร กับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ผู้ต้องหาหนีคดีตากใบจนหมดอายุความ

ภราดรอดีตเลขาฯ สมช.เปิดเบื้องหลังสัมพันธ์แน่นแฟ้น ทักษิณ ชินวัตร กับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาค ๔ คดีตากใบ ในรายการ จอมขวัญไล้ฟ์ Thanapol Eawsakul สรุปไว้เกือบ ๑๐ ข้อ

เริ่มจากความเป็นเพื่อนนักเรียนมงฟอร์ต เชียงใหม่ ใกล้ชิดกันมานาน จึงได้ดึงมาลงปาร์ตี้ลิสต์พรรคเพื่อไทย อันดับ ๒๗ อันนี้คนเก็บเอามาเล่าบอก “เอาเข้าจริง อันนี้ถ้ามีใครไปฟ้องทักษิณครอบงำพรรคได้เลย”

พิศาลในครั้งนั้นก็ไม่เบา “ถ้าไม่มีเหตุการณ์ตากใบ เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว พิศาลจากแม่ทัพภาค ๔ มีสิทธิ์ขึ้น ๕ เสือ ทบ.และก้าวสู่ตำแหน่ง ผบ.ทบ.ด้วยซ้ำ” แล้วยังมีการเตรียมชื่อพิศาลไว้ในโผแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีอีกด้วย

นอกจากนั้นพิศาลเข้าไปอยู่พรรคเพื่อไทยมือเปล่า “พิศาลเข้ามาในพรรคเพือไทย โดยไม่มีเพื่อนและ ส.สในมือ ทุกคนรู้อย่างเดียวคือ พิศาลคือ เพื่อนนายดังนั้นไม่แปลกเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จึงไม่มีใครมาช่วย และหายไปเงียบๆ”

การตัดสินใจไม่มาขึ้นศาลไม่ใช่พิศาลคนเดียว จำเลยทั้ง ๗ คนเห็นพ้องต้องกันหมด ดังนั้นจึงต่างคนต่างหนีไปกันหมด พิศาลไปอังกฤษ อีกคนไปญี่ปุ่น บางคนหนีไปอีสาน และข้ามไปลาว “ต่อให้พิศาลตั้งใจจะมาสู้คดี แต่ถ้าอีก ๖ คนที่เหลือไม่มาขึ้นศาล

พิศาลก็จะซวยเพราะไม่มีใครมาช่วยให้การ” การหนีไปจนกว่าคดีจะหมดอายุความ จึงเป็นอุบายที่แยบยล อีกทั้ง “การที่พิศาลจะมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีก็ไม่แปลก ซึ่งทั้งหมดเป็นการประเมินที่ผิดพลาด” ถึงอย่างไร “ทั้งหมดก็จบลงที่การรัฐประหาร ๒๕๕๗”

การปล่อยให้คดีหมดอายุความในสมัยรัฐบาลแพทองธาร แน่นอนย่อมทำให้ “เครดิตทักษิณก็หมดไปด้วยในการแก้ปัญหาชายแดนใต้ ทั้งในระดับนานาชาติ และในระดับพื้นที่”

(https://www.facebook.com/somsakjeam/posts/2B12WNDrVU4D)