วันอังคาร, กรกฎาคม 02, 2567
ตัวอย่าง ปัญหาคลาสสิกของไทย
Theerapat Charoensuk
14 hours ago
·
หนึ่งในสาเหตุที่วงการงานสร้างสรรค์ไทยไม่ไปไหน นอกจากที่ผ่านมารัฐไม่สนับสนุนโครงสร้างเท่าที่ควรแล้ว คนในวงการยังไม่เก็บข้อมูลตัวเลขให้เป็นระบบ ไม่ตั้งอยู่บนหลักฐาน ไม่มีงานศึกษาวิจัย ไม่ใช้วิทยาศาสตร์สถิติ ไม่วัดผลประเมินผลให้จับต้องได้ ไม่แบ่งปันข้อมูลกัน ฟังแต่เสียงลือ ข่าวลือ ความคิดเห็น ทฤษฎีสมคบคิด คนโน้นว่างั้นคนนั้นว่างี้ มองแต่ในจุดเดียวของตัวเอง ผู้หลักผู้ใหญ่ว่ามา แล้วใส่อารมณ์กันไปมาจนพังด้วยนี่แหละ!
เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ก่อนจะสนับสนุนอะไร เขามาพร้อมรายงานตัวเลขสถิติละเอียดยิบ เอาไปขอทุนรัฐ ขอสปอนเซอร์ธุรกิจ โน้มน้าวให้สนับสนุนได้ ไม่เห็นเขาจะกลัวสรรพากร
เวลาออกมาคุยงานกับองค์กรต่างชาติ เค้าส่งตัวเลขฐานข้อมูลมาให้เราเต็มที่มีรีพอร์ตยาวพร้อมวิเคราะห์ ของเรานี่จะควานหาแต่ละทียากยิ่งนัก ตัวเลขประมาณการเท่าที่พอหาได้ ก็กำลังทำให้มีดีมากขึ้นเท่าเขาบ้าง คงต้องใช้เวลาอีกสักพัก!
.....
Chatbodin Artharn
a day ago
·
“ผมขออนุญาตไม่จัดกิจกรรมต่อ ทุกคนกลับบ้านได้เลย”
.
วันนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมบอกยกเลิกจัดเวิร์กช็อปกลางคัน เนื่องจากวันนี้ในเวลา 9.00 น. ที่ต้องเริ่มงาน มีผู้เข้าร่วมอยู่ในห้องเพียง 1 จาก 12 คนเท่านั้น
เวลาล่วงเลยมาถึง 9.30 น. ผมสื่อสารกับทุกคนที่เพิ่งทะยอยเข้ามาอย่างตรงไปตรงมาว่าผมรู้สึกแย่ ไม่ใช่เพราะการมาสาย 30 นาทีเท่านั้น แต่เพราะผมกระทบกับการกระทำหลาย ๆ อย่างที่ดูเหมือนไม่ให้เกียรติกันในฐานะคนทำงานคนหนึ่งตั้งแต่วันแรก
ผมย้ำว่าผมไม่ต้องการเกียรติในฐานะวิทยากรผู้สูงส่ง หรือผู้ทรงคุณวุฒิ ขอได้รับความเคารพในฐานะมนุษย์คนหนึ่งก็พอ
.
แต่เหตุการณ์ก่อนหน้า 30 นาทีดังกล่าว ทำให้ผมจำเป็นต้องยืนยันกับจุดยืนและทางเลือกของตัวเอง เนื่องจากการกระทำดังนี้
1. จากรายชื่อผู้เข้าร่วม 25 คน มีผู้เข้าร่วมที่เข้ามาเซ็นชื่อ ถ่ายรูปตอนเปิดงาน และเดินหายไปจำนวน 13 คนโดยไม่มีการบอกกล่าวแต่อย่างใด ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมที่เตรียมมาอย่างมาก
2. มีความพยายามของผู้เข้าร่วมบางท่านที่เดินเข้าไปบอกพิธีกรในงานให้ขยับกำหนดการ จากการพักเบรกในช่วง 10.30 น. เป็น 9.00 น. (พักตอนงานเริ่มทันที) โดยอ้างชื่อผู้บริหาร เพื่อที่จะหยิบอาหารว่างก่อนกลับบ้านไป ผมต้องรีบวิ่งไปบอกพิธีกรว่าไม่ต้องขยับแต่อย่างใด
3. ผู้เข้าร่วม 12 คนที่ยังอยู่ มีการเดินเข้า-ออกตลอดทั้งงาน บางช่วงเวลาเหลือ 9 คน ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมอยู่เรื่อย ๆ แม้ว่าทางผมเองจะแจ้งให้กับทุกคนรับรู้ว่าสามารถแจ้งก่อนได้ เวลาใครจะออกหรือจะเข้าร่วม แต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
4. มีการเรียกร้องและแซวอยู่บ่อยครั้ง (4 ครั้ง) ว่าให้เลิกงานเร็วกว่ากำหนดการ จาก 16.30 น. เป็น 12.00 น. (เร็วกว่าที่วางไว้ 4 ชั่วโมงครึ่ง) บ้างก็แซวว่าให้จัดกิจกรรมเพียงวันเดียว (จาก 2 วัน)
5. การถ่ายรูปรวมในช่วงเปิดงาน ผู้เข้าร่วมทุกท่านเลือกที่จะถ่ายรูปกันเอง กล่าวคือ ไม่มีการสื่อสารกับวิทยากรว่าจะต้องร่วมถ่ายอย่างไร เรียกภาษาง่าย ๆ ว่า “ทิ้งให้นั่งเฉย ๆ” ทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเกินของงานนี้
6. เมื่อผมสื่อสารถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้น มีการสะท้อนกลับมาว่าการมาสายครั้งนี้ที่จริงแล้วเป็นบททดสอบของผู้เข้าร่วมว่าวิทยากรจะจัดการกับคนที่มาสายอย่างไรให้เกิดการเรียนรู้ ในขณะที่ผมต้องการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาเพื่อทำความเข้าใจ
.
หลังจากนี้ อาจมีบทสนทนาบางอย่างที่กล่าวถึงผมในเชิงว่า “สายแค่ 30 นาที ทำไมวิทยากรคนนี้ถึงใจร้ายจัง“
ผมจึงขอใช้พื้นที่สื่อสารตรงนี้ว่า ผมมีสปิริตมากพอที่จะศึกษารายละเอียดและแนวทางการทำงานขององค์กรเพื่อนำมาออกแบบกระบวนการให้สอดคล้องกับความต้องการมากที่สุด หรือการศึกษาเอกสารต่าง ๆ เพื่อนำมาออกแบบแนวทางการขับเคลื่อนในอนาคต
นอกจากนี้ผมยังเห็นถึงความสำคัญของค่าตอบแทนที่มาจากภาษีของประชาชน ที่ทำให้ผมต้องใส่ใจทุกรายละเอียดในกิจกรรม นำไปใช้ได้จริง และไม่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์
.
ผมต้องขอขอบคุณและขอโทษผู้เข้าร่วมที่ตั้งใจมาเรียนรู้เป็นอย่างสูง ผมรู้สึกเสียใจที่ยกเลิกกิจกรรมในครั้งนี้ไป หากมีโอกาส ผมอยากชวนมาพูดคุยและแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างการเรียนรู้กันอีกครั้ง ผมรู้สึกผิดกับตัวเองที่ทำให้คนที่ตั้งใจต้องได้รับผลกระทบไปด้วย
แต่ใด ๆ ก็ตาม ผมยืนยันที่จะคืนเงินค่าตอบแทนวิทยากรในวันที่ 2 และยินดีจะชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หากมีผู้เข้าร่วมคนใดต้องแบกรับค่าใช้จ่ายดังกล่าว ด้วยเงินส่วนตัวของผมเอง
จึงขอใช้พื้นที่สื่อสารถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนที่อาจจะส่งผลต่องานของผมในอนาคต
ขอบคุณครับ
.....
สหพร ทิพย์จำนงค์
19 hours ago
·
ก่อนประเทศจะพินาศเพราะล่มสลายทางเศรษฐกิจ จะมีสิ่งหนึ่งที่คล้ายยันเหมือนกันทั้งโลก
1.ปลอมตัวเลขให้ดีและปิดบังปิดบังด้านเสีย
2.กู้และกู้จนชนเพดานลามไปเกินเพดาน
3.เร่งผันงบผ่านโครงการต่างๆอย่างเร่งด่วนโดยเฉพาะถนนหนทางและเมกาโปรเจ็กท์
และถนนสร้างเพื่อซ่อมยันซ่อมใหญ่ทั้งๆที่ยังไม่พัง
4.ไม่ลดราคามีแต่เพิ่มราคาสาธารณูปโภค
5.โครงการช่วยคนจนต้องผ่านนายทุน
6.ปล่อยให้ราคาเกษตรตกต่ำเพื่อผันเงินชดเชยให้นายทุน
7.คอรัปชั่นรุนแรงทุกระดับ
8.ออกกฎหมายรองรับหรือสนองชนชั้นอำนาจ
9.เร่งสร้างโครงการขายแผ่นดินและทรัพยากรที่เหลือให้ทุนต่างชาติที่มีทุนยักษ์ภายในถือหุ้นเป็นไม้กันหมาภายใต้โครงการชื่อดูดีเช่นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อสร้างอาณาจักรใหม่กัดกินประเทศและเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ตัวเอง(ข้อนี้เป็นของใหม่ที่เกิดจากการถอดบทเรียนเก่า)
มีแต่ชนชั้นนำที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป การกัดกินทุกอย่างอย่างสวาปามในยุคสุดท้ายก็เริ่มขึ้นก่อนพังเพื่อตุนและกว้านซื้อทุกอย่างหลังพัง..อย่างน้อยก็ไปสุขสบายต่างประเทศ