ความต่างระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านเรื่อง Virtual Banking อยู่ที่เพื่อไทยชอบทุนใหญ่ขนาดพันล้าน ขณะก้าวไกลต้องการดัน start-up จึงรับทุนย่อยระดับร้อยล้าน

ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์รายนี้ ดูจะสรุปประเด็นความเห็นต่างระหว่างรัฐบาลและฝ่ายค้าน ในเรื่อง Virtual Banking ได้จะแจ้งดี @SleeplessBKK บอกว่า “ต่างกันแค่ตรงเงื่อนไขในการตั้งบริษัทเท่านั้น” ซึ่งก็คือ

“เผ่าภูมิ (โรจนสกุล รอง หน.พรรคเพื่อไทย และผู้ช่วยนายกฯ เศรษฐา ที่กระทรวงคลัง) ต้องการให้บริษัทที่มาทำ Virtual bank ต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท โดยอ้างว่าต้องการให้เป็นบริษัทที่มั่นคง มีสภาพคล่องมากพอในการปล่อยกู้”

ทางด้าน ศิริกัญญา ตันสกุล หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล “เงื่อนไขทุนจดทะเบียนเพียง 500 ล้านเพื่อให้ start-up รายเล็กๆ ที่มีเทคโนโลยีสามารถกระโดดเข้ามาแข่งกับรายใหญ่ได้ จะได้เกิด FinTech ที่เป็น start-up จำนวนเยอะๆ

ไม่ใช่ให้บริษัทยักษ์ใหญ่เพียง 2-3 เจ้าเข้ามาผูกขาดตลาดสินเชื่อใน Virtual bank อีกเหมือนเดิม” เขายังมองเลยไปถึงความไม่เหมือนกันโดยรวม ว่า “เพื่อไทยมักจะมีนโยบายที่มองกลุ่มทุนยักษ์ใหญ่มีบทบาทในการขับเคลื่อนมากกว่า

เน้นการทำเมกะโปรเจ็คที่ต้องอาศัยบริษัทยักษ์ใหญ่เท่านั้น” ซึ่งต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับพรรคก้าวไกล “เขาต้องการเปลี่ยนโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจเพื่อทำให้ไทยเป็นประเทศ start-up ที่สร้างผู้ประกอบการที่จิ๋วแต่แจ๋วทั่วประเทศ”

มีคอมเม้นต์ท้ายสเตตัส โดย @Kuro19751 ด้วยว่า “อีกประเด็นที่ต่างกัน เผ่าฯ สารภาพกลางรายการไปแล้ว พท.ไม่มีนโยบาย Virtual Banking ใช้หาเสียงครับ อ้างว่าสื่อสารในพรรคและนำเสนอให้ผู้ลงคะแนนเสียงได้ยาก”

หมายเหตุ :ข้อวิจารณ์เหล่านั้นมาจากรายงานข่าวที่ว่า “ดีลร่วมทุน กรุงไทย-เอไอเอส-กั๊ลฟ์ ศึกษาตั้ง Virtual Bank เปิดทางบริษัทที่มี Big Data เข้าสู่ธุรกิจการเงิน” (The Standard Wealth)

(https://twitter.com/SleeplessBKK/status/1766626924200341903)