วันศุกร์, มีนาคม 29, 2567

ศาลปกครองสูงสุดหักดิบศาลชั้นต้น เล่นลิ้นกลับคำพิพากษา ยอม ‘พระคลังข้างที่’ สร้างตึก ๔๑ ชั้น ‘มหาดเล็กเรสซิเดนส์’ ได้แม้ผิดกฏกระทรวง

คดีนี้มีความ เป็นพิเศษ หลายอย่าง ที่ประชาชนคนธรรมดาพึงให้ความสนใจ ไม่เพียงโครงการที่เป็นปัญหามีชื่อว่า หมาดเล็กเรสซิเดนส์ แต่เหตุผลที่ศาลปกครองสูงสุดใช้กลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ก็แสดงให้เห็นว่า ใครใหญ่กว่าใคร ด้วย

เป็นคดีดั้งเดิมตั้งแต่ปี ๒๕๖๒ ซึ่งสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม ๔๙ คน ฟ้องผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ผอ.สำนักการโยธา ผู้ว่า กทม. สำนักงานพระคลังข้างที่ บริษัทไทยพัฒนา และโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย

ฟ้องว่าการอนุญาตก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษ ๔๑ ชั้นในซอยมหาดเล็กหลวง ๒ ในเนื้อที่ ๑ ไร่ ๓ งาน ๒๘ ตารางวา หรือ ๒,๙๒๑ ตารางเมตร ผิดกฏกระทรวง ตาม พรบ.ควบคุมอาคาร ซึ่งกำหนดว่าการสร้างอาคารต้องมีพื้นที่ว่างจำนวน ๓๐% ของเนื้อที่อาคารส่วนกว้างที่สุด

แต่ปรากฏว่าตึกมหาดเล็กฯ นี้ ไม่มีที่ว่างดังกฏกระทรวงฯ กำหนด อีกทั้งอยู่ในซอยซึ่งเป็นถนนมีความกว้างไม่ถึง ๑๐ เมตร อันเป็นการขัดแย้งกฏกระทรวงซึ่งระบุว่า อาคารซึ่งมีพื้นที่รวมทุกชั้นมากกว่า ๓ หมื่นตารางเมตร จะต้องอยู่ติดถนนที่มีความกว้างอย่างน้อย ๑๖ เมตร

ศาลปกครองชั้นต้นวินิจฉัยให้จำเลยที่ ๑-๓ เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง ส่วนผู้ขออนุญาตก่อสร้างนำโฉนดที่ดินติดกันแปลงอื่นๆ เจ้าของเดียวกันทั้งหมดอีก ๒๘ แปลง เนื้อที่ ๖๗ ไร่มาอ้างว่าเป็นที่ดินเดียวกันกับอาคารที่จะสร้าง ไม่จำเป็นต้องพิจารณา

ครั้นเมื่อเจ้าของโครงการ คือ สำนักพระคลังข้างที่ยื่นอุทธรณ์ ศาลปกครองสูงสุดรับฟังแต่โดยดีแล้ววินิจฉัยแย้งศาลชั้นต้น (เมื่อ ๒๘ มีนานี้เอง) ว่า ปัญหาที่ว่างรอบอาคารต้องเกิน ๓๐% แน่ๆ เมื่อนับที่ดินแปลงอื่นๆ อีก ๒๗ แปลงมารวมด้วย

ส่วนปัญหาที่จะต้องติดถนนใหญ่กว้างกว่า ๑๖ เมตรก็สบายบรื๋อ เพราะที่ดินทั้งหมดตามโฉนดเลขที่ ๒๒๒๐ นี้อยู่ติดถนนราชดำริ (ผ่านทางซอยมหาดเล็กหลวง ๑, ๒ และ ๓) ซึ่งมีหน้าถนนกว้าง ๓๗ เมตร แล้วถนนราชดำรินี้ยังไปเชื่อมต่อถนนใหญ่อื่นๆ

อันนี้เป็นตรรกะที่พิเศษมาก ศาลปกครองสูงสุดทั่นว่า ถนนราชดำริทอดยาวไกลไปเชื่อมต่อถนนพระราม ๑ กับ ๔ ที่มีหน้ากว้าง ๒๙ และ ๓๐ เมตร ตามลำดับ ดังนี้ไม่มีปัญหาที่รถดับเพลิงจะเข้าถึงได้ แม้ตัวอาคารจะอยู่ลึกเข้าไปในซอยมหาดเล็กหลวง ๒ ก็ตาม

อย่างนี้เข้าเค้าคำปรารภของ ธงทอง จันทรางศุ ที่เปรยไว้ในเรื่องอื่น ว่าคนในกระบวนการยุติธรรมบ่นกันมาก “ต้องทำคดีตาม ธงที่ผู้ใหญ่ปรารถนา ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ว่าผิดหลักการ ขัดหลักกฎหมาย และก่อให้เกิดผลเสียในระยะยาว เราจะอยู่กันอย่างนี้จริงๆ หรือ”

อ้อแล้วก็ ชื่อ พระคลังข้างที่นั่นเป็นชื่อโบราณของสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ก่อนจะมีการเปลี่ยนชื่อ และเนิ่นนานก่อนจะมีการผ่องโอนไปเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ ของพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่สิบ ทั้งหมด

(https://www.isranews.org/article/isranews-news/127416-Supreme-Administrative-Court-Mahadlek-2-Residence-judgement-news.html)