ไข่แมวชีส
15h
·
นัดแต่งชุดดำ ยืนหยุดขัง 1.12 ชม. “พรเพ็ญ คงขจรเกียรติ” แต่งชุดทนาย วอนศาลทบทวนคำสั่งอนุญาตฝากขัง “ตะวัน-แฟรงค์” คดี ม.116 ชี้ เป็นการคุมขังเกินความจำเป็น ไม่เป็นไปตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
วันนี้ (9 มี.ค. 67) เวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะทนายความ พร้อมด้วย นายสายน้ำ นภสินธุ์ และ แบม อรวรรณ เดินทางมาเพื่อยื่นหนังสือขอให้ศาล พิจารณาทบทวนคำสั่งอนุญาตฝากขัง ตะวัน และแฟรงค์ ที่พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง มายื่นคำร้องขอฝากขังผัดที่ 3 เมื่อวานนี้ (8 มี.ค. 67) และศาลรับคำร้อง
นางสาวพรเพ็ญ กล่าวว่าวันนี้มาในฐานะทนายความสิทธิมนุษยชน ขอยื่นคำร้องให้ศาลได้ทบทวนคำสั่งเมื่อวานนี้ ที่อนุญาตให้พนักงานสอบสวน ขยายระยะเวลาการฝากขัง ตะวัน และ แฟรงค์ เป็นเวลาอีก 12 วัน เป็นครั้งที่ 3 โดยมองว่า บทบาทของตุลาการ สามารถที่จะเข้าแทรกแซงและดำเนินการอำนวยความยุติธรรมในคำสั่งนี้ได้ทันที อีกทั้งพนักงานสอบสวนเอง ก็ได้เขียนเอาไว้ในคำร้องขอฝากขังว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ไม่สามารถยุ่งเหยิงพยานหลักฐานได้ และผู้ต้องหาก็เป็นเพียงเยาวชน จึงเชื่อว่าผู้พิพากษาจะพิจารณาถึงความจำเป็นและเหตุผลทางกฎหมายและทางมนุษยธรรม ให้มีการปล่อยตัวผู้ต้องหาชั่วคราว โดยไม่มีเงื่อนไขประกันตัว
“ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เป็นเพียงเยาวชนที่ร่วมกันแสดงอารยะขัดขืนในการอดอาหารด้วยความสงบไม่สามารถทำร้ายใคร ไม่สามารถที่จะทำให้เกิดความรุนแรงในสังคมด้วยวิธีการใดๆ ดังนั้นเหตุและผลที่เราต้องการนำเสนอ คือ ข้อเท็จจริงกฎหมาย และมนุษยธรรม ซึ่งผู้พิพากษาซึ่งเป็นนักกฎหมายด้วยกัน สามารถพิจารณาเนื้อหาสาระได้อย่างมีความเป็นธรรม เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบตุลาการต่อไป” นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าว
ด้านนางสาวอรวรรณ หรือ แบม กล่าวว่า ผู้หญิงในสังคมนี้เข้มแข็งและอดทนกันมาก พลังผู้หญิงสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมเป็นอย่างมาก ตนอยากจะพูดถึงเรื่องกระบวนการยุติธรรม อยากให้ทุกคนในประเทศนี้ได้รับความยุติธรรม สำหรับตะวันและแฟรงค์ที่ทำทุกวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่เป็นการทำเพื่อไม่อยากให้ใครมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ เพราะกระบวนการยุติธรรมที่บิดเบี้ยวทำร้ายประชาชนและเยาวชนในประเทศนี้ เราควรจะปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมไม่ว่าเร็วหรือช้าจะต้องทำให้ได้ เพราะประเทศไทยยังมีปัญหาเรื่องสิทธิสิทธิ เสรีภาพในการแสดงออกอย่างมาก และประเทศไทยไม่สมควรที่จะได้เป็น คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเพราะทุกวันนี้ยังมีผู้ต้องขังและคนถูกดำเนินคดีเพิ่มขึ้นมากขึ้น และประชาชนที่ถูกติดปากมากขึ้นทุกวันทั้งที่เรามองเห็นและมองไม่เห็น
กฎหมายไม่ได้ให้อำนาจตำรวจตัดสินใจเรื่องการฝากขังเอง ทั้งหมด แต่ให้ศาลเป็นผู้พิจารณาความสมควรของการฝากขัง ซึ่งต้องกลั่นกรองให้เกิดความยุติธรรม ไม่ใช่ให้รับฝากขังทุกครั้ง ดังนั้น ศาลไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับตำรวจทุกครั้งในการรับคำร้องขอฝากขัง โดยขอเป็นกำลังใจให้กับตะวันและแฟรงค์ ส่วนการที่หลายคนบอกว่า แค่ให้ตะวันกับแฟรงค์กลับไปรับประทานอาหารนั้น เชื่อว่า ทุกคนต้องหิวข้าว หิวน้ำ แต่นักกิจกรรมที่อดอาหารอยู่ตอนนี้นั้น หิวความยุติธรรมมากกว่า
“ตนขอเป็นกำลังใจให้กับนักกิจกรรมที่เผชิญกับความยากลำบากในการอดอดอาหาร สุดท้ายกระบวนการยุติธรรมยังบิดเบี้ยว ทุกคนในสังคมบอกว่า ”แค่ให้น้องกินอาหารกินน้ำ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม“ แต่สำหรับพวกเขาเหล่านี้มองว่าหิวความยุติธรรมมากกว่า นอดจากนี้ตนขอย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง คือ ต้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ต้องไม่มีใครติดคุกเพราะเห็นต่าง ประเทศไทยไม่ควรเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน และหลังจากนี้เราจะมีกิจกรรมยืนอยู่ขัง 1.12 ชั่วโมง“
สำหรับการยื่นประกันตัว ตะวัน และ แฟรงค์ นั้น สายน้ำ ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่ได้มีการยื่นประกัน หลังทราบคำสั่งศาลเมื่อวานนี้ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักพักก่อน เพื่อปรึกษาตะวันและแฟรงค์ รวมถึงครอบครัวด้วย
จากนั้นกลุ่มนักกิจกรรม ได้ร่วมกัน ยืน หยุด ขัง ที่บริเวณหน้าอาคารศาลอาญา เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที โดยมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการถือดอกทานตะวัน หมายถึง พลังของตะวัน และมีการอ่านบทกลอนถึงตะวัน อ่านบทรำลึกอาจารย์ป๋วย อึ๊งภากรณ์ รวมถึงร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธาและบทเพลงของสามัญชน ทั้งนี้ศาลได้มีคำสั่งต่อกรณีพรเพ็ญ ยื่นแถลงขอทบทวนคำสั่งปล่อยตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง โดยศาลอ่านคำสั่งว่า ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา และเป็นวันหยุด จึงไม่รับคำร้อง คงไว้ในสำนวนเท่านั้น