เมื่อสองวันก่อน @suthichai หยุ่น กระแซะ รมว.กลาโหม ‘พ่องหย่าย’ คลังแสง “ผ่านมาหลายอาทิตย์ยังอ้อมๆ แอ้ม ๆ ‘สุทิน’ ไม่บอกว่าทางออกเรื่อง ‘เรือดำน้ำจีน’ เป็นอย่างไร” แค่บอกนักข่าวว่าคุยนอกรอบกับ ผบ.ทร.แล้ว “ทุกฝ่ายพอใจ”
เรื่องเล่าเมื่อเช้าวานนี้รายงาน ผู้บัญชาการทหารเรือ “แถลงนโยบายและแนวทางปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๗ เกี่ยวกับพันธกิจ ๕ ประการ เช่นพิทักษ์สถาบันกษัตริย์ เตรียมกำลังรบให้พร้อมสรรพ และสนับสนุนการพัฒนาประเทศ เป็นต้น
นอกเหนือจากนั้น ผบ.ทร.คนนี้ยังพูด ทำนองว่าเมื่อก่อนทหารเรือมีแต่คนชื่นชอบ การเป็นสุภาพบุรุษ “เพราะเราเคยช่วยเหลือประชาชนและชุมชน” พลเรือเอก อะดุง พันธ์เอี่ยม คงหมายถึงชื่อสียงครั้งเก่าย้อนไปถึงตอนกบฏแมนแฮ้ทตันโน่นด้วย
“แต่ปัจจุบันนี้กองทัพเรือเกิดอะไรขึ้น มีแต่ข่าวการจัดซื้อจัดจ้าง กระสุน นย.หายมหาศาล มีข่าวกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย เรือรบเกิดอุบัติเหตุ มีข่าวธำรงวินัยแม้แต่ผู้บัญชาการทหารเรือเองก็เคยถูกธำรงวินัย” แถมบอกว่าตนเองก็เคยโดน
“ตอนผมเป็นเจ้ากรมสื่อสาร ทร. ก็ถูกธำรงวินัยด้วย” คงถือโอกาสระบายความจริงจากใจในวิธีการ ‘ปกครอง’ อย่างพิเศษของรัชกาลนี้ พร้อมทั้งไม่ละไว้ให้อึมครึมเกี่ยวกับ “การลงโทษที่เขาห้ามทำกัน และมีข่าวเรือดำน้ำที่ไม่จบไม่สิ้นสักที”
อีกเรื่องที่ ผบ.ทร.คนใหม่นี่พูดถึงประเด็นปัญหาไม่อ้อมค้อม กับการ “เลื่อนไหลของการรับราชการที่มีระบบอุปถัมภ์มากเกินกว่าคุณธรรม” แม้ตนเองยอมรับว่าโตมาในระบบนี้ ไม่ได้รังเกียจอะไร ขอแต่ให้บาล้านซ์ พอเหมาะพอสม และต้องอุปถัมภ์ ‘คนดี’
“เรายังพบว่าปัจจุบันกำลังพลหย่อนยานในวินัย และขาดอุดมการณ์ทหารอาชีพ เพราะกองทัพเรือไทยไม่ใช่กองทัพเรือที่รบจริง เพราะไม่ได้มีภัยคุกคามที่รบจริง ทำให้เราเลยประมาท” หมายถึง ‘เหลิง’ แบบเอาฝูงบินไปบินโฉบงานวันเกิด ผบ.ใช่ไหมล่ะ
สูตรสำเร็จของ ผบ.ทร.คนนี้จึงหนีไม่พ้น ทหารเรือต้องเป็นทั้งคนดีและคนเก่ง ทั้งที่ตัวเองก็ยอมรับว่า ‘ดูยาก’ แต่ประเมินได้ เสียดายที่งานนี้ไม่มีให้สัมภาษณ์สื่อ น่าจะเพราะ ผบ.เป็นห่วงว่า “ทำไมเอกสารลับถึงหลุดไปถึงมือสื่อมวลชนได้”
ข้อสงสัยของสุทธิชัยจึงคงยังไม่มีคำตอบต่อไปอีกนาน จนกว่าการส่งมอบเรือดำน้ำจะเสร็จสิ้นเสียก่อน