วันอังคาร, สิงหาคม 15, 2566

ผีป่าเข้าเมืองเป็นลาง เมื่อบ้านเมืองเกิดทุรยศ โบราณมักจะกล่าวว่าผีป่าเข้าเมือง


รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล
8h
·
ผีป่าเข้าเมืองเป็นลาง
เมื่อบ้านเมืองเกิดทุรยศ โบราณมักจะกล่าวว่าผีป่าเข้าเมือง ซึ่งเรื่องราวผีป่าเข้าเมืองเท่าที่ค้นได้มีดังต่อไปนี้
1. ในบทพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์กล่าวอากาศตะไลพระเสื้อเมืองอยู่ที่กลางกรุงลงกาเห็นหนุมานเหาะจึงออกไปขวางจนเกิดการต่อสู้ หลังจากที่หนุมานสามารถประหารพระเสื้อเมืองกรุงลงกาได้ ในบทละครรามเกียรติ์พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2 ได้กล่าวไว้ว่า
“ครั้นเสื้อเมืองม้วยชีวันบรรลัย พเอิญให้เยือกเย็นทุกเส้นหญ้า
พระยายักษ์ตึงเศียรเวียนนัยนา นิทราเคลิ้มระงับหลับไป”
ในบทพระราชนิพนธ์รามเกียรติ์ไม่ระบุว่าที่กลางเมืองลงกาของสถานที่แห่งใด หากแต่ในคำให้การชาวกรุงเก่าบอกที่กลางกรุงศรีอยุธยาคือ ศาลพระเทพารักษ์ และข้อความภาษาบาลีในสมุททโฆสชาดกกล่าวว่า “ตสฺสา ปิตา สิริสีหนรคุตฺโต ราชา อตฺตโน นครมชฺเฌ เทวกุลํ การาเปตฺวา” แปลว่า บิดาของเธอสิริสีหนรคุตตะราชาได้สร้างศาลเทพารักษ์ ที่กลางนคร ด้วยเหตุนี้จึงชวนให้น่าจะอากาศตะไลเป็นพระอารักษ์จะสถิตที่ศาลพระเทพารักษ์กลางเมือง
2.ในลิลิตพระลอ ฝ่ายหมอเมืองแมนสรวงจัดการเหล่าผีปีศาจอารักขาพระลอ โดยให้อารักษ์อยู่ตรงกลาง ส่วนปู่เจ้าสมิงพรายก็ได้ใช้ผีป่ามารบให้อารักษ์ฝ่ายเมืองแมนสรวงหนีปู่เจ้าจึงจะเสกสลาเหินไป เมื่อผีฝ่ายปู่เจ้าสมิงพรายมาถึงผีฝ่ายเมืองแมนสรวงก็ทำการสู้รบ สุดท้ายปู่เจ้าสมิงพรายจึงใช้ผีแดนยากมาส่งข่าวกับพระเสื้อเมือง พระเสื้อเมืองเมื่อได้รับสารนั้นก็ตกใจกลัวก้ตกใจกลัว และในท้ายที่เทวดาผู้เป็นอารักษ์เมืองแมนสรวงก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้
3. จากเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” ก่อนที่ขุนแผนจะแอบเข้าเมืองเชียงใหม่จับพระเจ้าเชียงอินทร์ก็ได้แต่งพลผีไพรเข้าไปรบกับพระเสื้อเมืองซึ่งเป็นพระอารักษ์หลักของเมืองเชียงใหม่และผีไพร่พล พระอารักษ์เมืองเชียงใหม่ไม่สามารถทานกำลังผีป่าได้จึงหนีออกจากเมืองและในคืนนั้นพระเจ้าเชียงอินทร์สุบินเป็นนิมิตรร้ายความว่า
“เวลานั้นเจ้าเชียงใหม่เธอไสยาสน์ ครั้นทัพผีวิปลาสเกิดสังหรณ์
ทั้งตระกูลประยูรญาติราษฎร พากันนอนใฝ่ฝันออกฝั่นเฟือน
เห็นเป็นกองไทยไล่ฟันลาว ขุนนางเจ้าชาวบุรีหนีเข้าเถื่อน
ตื่นแซ่แก้ฝันกันทุกเรือน หลากจิตนิมิตเหมือนกันทั้งนั้น
บ้างก็ว่าเวลาเคาะระฆัง ได้ยินดังคึกคึกพิลึกลั่น
เห็นชะรอยภูตผีเราหนีมัน ต่างวิตกอกสั่นทุกคนไป”
เมื่อขุนแผนเข้าเมืองเชียงใหม่ไปจับพระเจ้าเชียงอินท์ กุมารทองสามารถเข้าพระเจ้าเชียงอินทร์ได้เพราะเทวดารักษากำภูฉัตรถูกไล่ไปอยู่ป่า
จากเนื้อความในบทละครรามเกียรติ์รัชกาลที่ 2 ที่ยกมาชี้ให้เห็นพระเสื้อเมืองถูกสังหารเป็นนิมิตร้ายและน่าจะเป็นสัญลักษณ์ว่า กองทัพพระรามจักพิชิตกรุงลงกาได้ รวมถึงเหตุการณ์ในท่อนนี้มีโครงสร้างเรื่องเหมือนกับอารักษ์เสื้อเมืองของพระลอได้พ่ายแก่ปู่เจ้าสมิงพรายจึงสามารถทำเสน่ห์ให้พระลอลุ่มหลงพระเพื่อน พระแพงและพระเสื้อเมืองของเมืองเชียงใหม่แพ้ผีไพร
ด้วยเหตุนี้การที่พระอารักษ์เมืองได้หายลับดับสูญถือว่าเป็นทุนิมิต ดังนั้นในเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยาที่ปรากฏในคำให้การขุนหลวงหาวัดกล่าวถึงนิมิตการเสียกรุงว่า “ยักษ์ป่าจะเข้าเมือง เสื้อเมืองทรงเมืองจะหลีกเลี่ยง”
อนึ่ง เป็นที่น่าสังเกตว่าพระเสื้อเมืองในวรรณคดีทั้ง 2 ชิ้น มีบริวารเป็นผี โดยเฉพาะในขุนช้างขุนแผนที่กล่าวว่าพระเสื้อเมืองสามารถเกณฑ์ผีบ้านผีป่าช้าออกมารบกับผีไพร และการที่เรื่องผีป่าเข้าเมืองเป็นเรื่องอาเพศ ชวนให้นึกถึงความเชื่อคนตายนอกเมืองไม่นำเข้ามาในเมือง ดังกรณีของพญากือนาสิ้นพระชนม์ไม่สามารถนำพระศพเขาเมืองเชียงใหม่ และใน มาตราที่ 164 ของพระไอยการลักษณะโจรข้อความว่า “ผู้ใดทนงอาจ์หามผีข้ามแขวงข้ามด่านข้ามแดนไปฝังไปเผาก็ดี ผีนอกพระนครเอาเข้าไปในพระนครก็ดี ผู้ใดทำดั่งนี้เลมิด ใหไหมทงพวกจงทุกคน”




·
ถ้าเป็นสมัยก่อนการบูชาแบบนี้เขาเรียกว่านอกรีต ไม่รู้ว่าคนที่สร้างมีความเชื่ออะไร การบูชาภูตผีปีศาจ คุณขอคุณได้คุณก็ต้องขายวิญญาณ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ ถ้าสิ่งที่คุณนับถือประทานพรที่คุณขอคุณก็ต้องชดใช้อะไรบางอย่างที่เขาต้องการเช่นเดียวกัน เคยดูหนัง the ghost rider ทำสัญญาขายวิญญาณกับปีศาจก็ต้องเป็นปีศาจ ของแบบนี้ ความศรัทธาและความเชื่อว่ากันไม่ได้แต่ต้องใช้สติและเชื่อในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนเอาไว้ ศีลสมาธิปัญญา