Thanapol Eawsakul
19h
·
ทักษิณ ชินวัตรเจ้านายของภูมิธรรม เวชยชัย ยังเชื่อว่าคนเสื้อแดงรักและศรัทธาทักษิณอย่างไม่มีเงื่อนไขกูจะทำอะไรก็ได้ หรือถ้าพรุ่งนี้ได้เงินก็จะกลับมารักกูเอง
---นี่คือความสำคัญของนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท จำนวน 560,000 ล้านบาท ที่ทักษิณเชื่ออย่างสุดใจ---
(ส่วนลูกน้องที่ซื่อสัตย์อย่างภูมิธรรมก็รับสารของทักษิณมาขยายผลต่อ ไม่ว่าจะพูดโกหกอะไรก็ได้)
ใครที่ออกมาคัดค้านการกระทำของพรรคเพื่อไทยคือพวก เสื้อแดงปลอม/แดงเทียม หรือไม่ก็เป็นพวกก้าวไกลปลอมตัวมา
อยากให้อ่านความคับแค้นของคนเสื้อแดง ในรายงานชิ้นนี้จากอีสาน เรคคอร์ด
...........
“ตอนสมัยประชาธิปัตย์ เลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ 2 จะจัดตั้งรัฐบาลตอนนั้นไปบอกว่าเขาเป็นรัฐบาลโจร แล้วอนุทินก็เป็นคู่กรณีกับเพื่อไทยเสื้อสีน้ำเงินในวันนั้นที่ไล่ทุบตีพวกเรา แล้ววาทกรรมในวันนั้น มันทำให้คนเสื้อแดงติดคุก ผมก็เป็นคนหนึ่งที่วิ่งหลบลูกปืนมาด้วยกัน มันทำให้มีคนตาย แต่คุณกำลังจะทำแบบนั้นเสียเอง จริงๆ พรรคอันดับที่สองสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่คุณพูดช้าไป ถ้าพูดตั้งแต่ปี 2552-2553 คงไม่มีใครตาย
“เพื่อไทยตอนนี้เหมือนแก้ผ้าเดินให้ชาวบ้านดู ตอนปี 2562 คุณชนะการเลือกตั้งทำไมไม่จัดตั้งรัฐบาล วันนี้ปี 2566 คุณแพ้ แต่คุณถีบพรรคที่ชนะไปเป็นฝ่ายค้าน เขาให้คุณเสนอชื่อภายใต้จำนวน 312 เสียงเดิม แต่คุณหักหลังเขา มันก็เข้าทางที่คุณเคยบอกว่าภูมิใจไทยเป็นงูเห่า แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยคืองูเห่าของ 312 เสียงเสียเอง”
อ่าน - ไม่มีสัจจะ ไม่เห็นหัวประชาชน เสียงพูดคนเสื้อแดง เมื่อเพื่อไทยกลายเป็นพรรคงูเห่า https://theisaanrecord.co/2023/08/10/cobra-party/
---
เรื่อง: กฤติมา คลังมนตรี
ทักษิณ ชินวัตรเจ้านายของภูมิธรรม เวชยชัย ยังเชื่อว่าคนเสื้อแดงรักและศรัทธาทักษิณอย่างไม่มีเงื่อนไขกูจะทำอะไรก็ได้ หรือถ้าพรุ่งนี้ได้เงินก็จะกลับมารักกูเอง
---นี่คือความสำคัญของนโยบายแจกเงิน 10,000 บาท จำนวน 560,000 ล้านบาท ที่ทักษิณเชื่ออย่างสุดใจ---
(ส่วนลูกน้องที่ซื่อสัตย์อย่างภูมิธรรมก็รับสารของทักษิณมาขยายผลต่อ ไม่ว่าจะพูดโกหกอะไรก็ได้)
ใครที่ออกมาคัดค้านการกระทำของพรรคเพื่อไทยคือพวก เสื้อแดงปลอม/แดงเทียม หรือไม่ก็เป็นพวกก้าวไกลปลอมตัวมา
อยากให้อ่านความคับแค้นของคนเสื้อแดง ในรายงานชิ้นนี้จากอีสาน เรคคอร์ด
...........
“ตอนสมัยประชาธิปัตย์ เลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ 2 จะจัดตั้งรัฐบาลตอนนั้นไปบอกว่าเขาเป็นรัฐบาลโจร แล้วอนุทินก็เป็นคู่กรณีกับเพื่อไทยเสื้อสีน้ำเงินในวันนั้นที่ไล่ทุบตีพวกเรา แล้ววาทกรรมในวันนั้น มันทำให้คนเสื้อแดงติดคุก ผมก็เป็นคนหนึ่งที่วิ่งหลบลูกปืนมาด้วยกัน มันทำให้มีคนตาย แต่คุณกำลังจะทำแบบนั้นเสียเอง จริงๆ พรรคอันดับที่สองสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่คุณพูดช้าไป ถ้าพูดตั้งแต่ปี 2552-2553 คงไม่มีใครตาย
“เพื่อไทยตอนนี้เหมือนแก้ผ้าเดินให้ชาวบ้านดู ตอนปี 2562 คุณชนะการเลือกตั้งทำไมไม่จัดตั้งรัฐบาล วันนี้ปี 2566 คุณแพ้ แต่คุณถีบพรรคที่ชนะไปเป็นฝ่ายค้าน เขาให้คุณเสนอชื่อภายใต้จำนวน 312 เสียงเดิม แต่คุณหักหลังเขา มันก็เข้าทางที่คุณเคยบอกว่าภูมิใจไทยเป็นงูเห่า แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยคืองูเห่าของ 312 เสียงเสียเอง”
อ่าน - ไม่มีสัจจะ ไม่เห็นหัวประชาชน เสียงพูดคนเสื้อแดง เมื่อเพื่อไทยกลายเป็นพรรคงูเห่า https://theisaanrecord.co/2023/08/10/cobra-party/
---
เรื่อง: กฤติมา คลังมนตรี
.....
ไม่มีสัจจะ ไม่เห็นหัวประชาชน เสียงพูดคนเสื้อแดง เมื่อเพื่อไทยกลายเป็นพรรคงูเห่า
สิงหาคม 10, 2023
เรื่อง กฤติมา คลังมนตรี
Isaan Record
เป็นเวลาเกือบ 4 เดือนที่ประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งมา ได้เห็นความพยายามจัดตั้งรัฐบาลของพรรคอันดับ 1 คือ พรรคก้าวไกล มีการร่วมลงนาม MOU ร่วมกันของ 8 พรรคการเมือง นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกลร่วมกับตัวแทนจากทุกพรรค ก่อนที่สถานการณ์จะพลิกผัน หลังจากโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 1 ที่เสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ผ่าน เนื่องจากมีเสียงสนับสนุนไม่ถึง 376 เสียง มรสุมเรื่องหุ้นสื่อของ พิธา ทำให้ต้องยุติการทำหน้าที่ ส.ส. รวมถึงถูกปัดตกการโหวตเสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ ในรอบ 2 ว่าเป็นญัตติซ้ำ และขณะรอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาประเด็นญัตติซ้ำนี้ จึงทำให้เพื่อไทยกลายเป็นตัวแทนจัดตั้งรัฐบาล
เพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับ 2 เสนอให้พรรคก้าวไกลถอยเรื่องนโยบายแก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขที่เกรงว่าจะไม่ได้เสียงจาก ส.ส. บางพรรค รวมทั้ง ส.ว. ก่อนจับมือกับพรรคภูมิใจไทย ตั้งต้นตั้งรัฐบาลจำนวน 212 เสียง ในเงื่อนไข “ไม่มีลุง ไม่มีก้าวไกล” พร้อมแถลงการณ์ว่าจะเร่งฟื้นฟูปัญหาเศรษฐกิจและแก้ไขเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระแรก จะมีการทำประชามติขอจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการจัดตั้ง สสร. และอื่นๆ ก่อนจะรวมเสียงกับอีก 7 พรรคการเมืองเพื่อตั้งรัฐบาลที่เสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ชิงเกาอี้นายกรัฐมนตรี ได้แก่พรรคประชาชาติ เสรีรวมไทย ชาติพัฒนากล้า พลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย เพื่อไทรวมพลัง และชาติไทยพัฒนา โดยหวังสลายขั้วการเมืองให้ตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ
การเคลื่อนไหวเพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย มิเพียงทำให้กลุ่มฐานเสียงพรรคก้าวไกลไม่พอใจในท่าทีเท่านั้น แต่จังหวะการเคลื่อนในหลายครั้ง ยังนำมาสู่การตั้งคำถามของคนเสื้อแดง ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคมาตลอดหลายสิบปีด้วย
วรพจน์ สวัสดิ์ถาวร วัย 64 ปี เริ่มสวมเสื้อแดงตั้งแต่ฟังปราศรัยที่บึงแก่นนคร ในปี 2552-2553 ผ่านความรู้สึกของความไม่ยุติธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร เล่าว่านายกฯ ที่สนับสนุนกี่คนก็โดนกลั่นแกล้งทางการเมือง โดยยกตัวอย่างของ สมัคร สุนทรเวช ในคดีทำรายการชิมไปบ่นไป เลยมาเข้าร่วมกับกลุ่มคนรักประชาธิปไตยขอนแก่น จนถึง 12 มีนาคม 2553 ตนเข้าร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ ผ่านการปะทะกับเจ้าหน้าที่ รถถังและแก๊สน้ำตาในวันที่ 9-10 มีนาคม 2553 ท่ามกลางการเมืองคุกรุ่น ครั้งนั้นญาติที่เคยให้เช่าที่ทำร้านโชว์ห่วยตัดสินใจไม่ให้เขาเช่าต่อเพียงเพราะสวมเสื้อแดง และครั้งนี้เขาให้ความเห็นต่อท่าทีของพรรคเพื่อไทยในปัจจุบันว่า
“เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยต้องหาทางจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะว่าหลุดจากก้าวไกลมาแล้ว พรรคก้าวไกลไม่สามารถไปต่อได้ เพื่อไทยต้องรีบจัดตั้งรัฐบาลไม่อย่างนั้น ฝ่ายเผด็จการจะขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เราจะลำบากกัน จะมีการแจกกล้วย มีงูเห่าจากฝ่ายเรา บางครั้งต้องยอมกลืนเลือดตัวเอง แต่บอกตรงๆ ผมไม่เห็นด้วยกับการที่ไปรวมกับภูมิใจไทย แต่มันเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องเอาอำนาจรัฐมาให้ได้ก่อน เป้าหมายคือต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าฝ่ายนั้นได้อำนาจต่อ กลัวว่าจะเข้าไปแก้ไขอำนาจ ส.ว. ให้อยู่ต่ออีก ถ้าเราจะปิดสวิตช์ ส.ว. เราต้องเข้าไปเป็นรัฐบาลให้ได้ เราไม่สามารถรอได้ถึง 10 เดือน ฝั่งนั้นไม่รอเรา เท่ากับเปิดโอกาสความชอบธรรมให้เขาจัดตั้งรัฐบาลทันที เรามีบทเรียนมาตั้งแต่ปี 2552-2553 กับพรรคภูมิใจไทย ว่าโดนกระทำอะไรมา แต่เราต้องคำนึงถึงความจำเป็นว่า ทำไมต้องไปจับมือกับภูมิใจไทย ลึกๆ ในใจผมไม่โอเค แต่ยอมรับในความในความคิดของเพื่อไทย”
วาสนา เคนหล้า หรือ ติ๋ม ซีโฟว์ ชาวเสื้อแดงที่เคยเป็นแรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตในเกาหลีใต้ หรือที่เรียกว่า ผีน้อย มากว่า 14 ปี ได้กลับมาประเทศไทยในปี 2553 ซึ่งตรงกับรัฐบาลของ ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตอนนั้นกระทรวงแรงงานของไทยประสานกับกระทรวงแรงงานของเกาหลีใต้ ทำให้คนที่เป็นผีน้อยสามารถขึ้นทะเบียนให้มีวีซ่าทำงานได้ นั่นทำให้ตนประทับใจ เมื่อเดินทางกลับมาเดือนมีนาคม ปี 2553 เกิดการประท้วง ตนได้เข้าร่วมในการชุมนุมครั้งนั้นด้วย
วาสนาร่วมชุมนุมตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง 10 เมษายน 2553 เกิดการใช้แก๊สน้ำตา มีคนเสียชีวิตมากมาย กระทั่งวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งมีการสลายการชุมนุม วาสนากล่าวว่าเห็นทุกเหตุการณ์ และทุกคมกระสุน
“เลือกตั้งที่ผ่านมาสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่จนมาถึงก้าวไกล ก่อนหน้านี้มีความรู้สึกดีๆ ต่อเพื่อไทย แต่การกระทำของเพื่อไทยมันไม่เหมือนเดิม สัจจะมีไหม ถ้าเพื่อไทยจริงใจ จะต้องไม่อ้างว่ารีบจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาวบ้าน เพราะคุณรีบไปมันก็แก้ไม่ได้ภายใน 4-6 เดือนนี้ คุณทำไมไม่จับมือกับก้าวไกลทั้งๆ ที่ก้าวไกลเขามีตั้ง 151 เสียง คุณ มี 141 เสียง แล้วคุณไปเอาภูมิใจไทยเข้ามาทำไม ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า ช่วงโควิดอนุทิน ทำอะไรไว้ แก้ปัญหาอะไร คนตายไปเท่าไหร่ เราเห็นด้วยกับแนวทางที่ทั้งสองพรรคเพื่อไทยก้าวไกลกอดกันไว้ ยังไงสองพรรคก็รวมกันได้กว่า 300 เสียง ถ้าจะเป็นฝ่ายค้านก็เป็นฝ่ายค้านเสียงข้างมาก รวมกันไว้ ดีกว่าอ้างว่าทำเพื่อประชาชน คิดว่า 4 ปีเพื่อไทยก็ไม่สามารถแก้ปัญหาที่สร้างมา 9 ปีให้เสร็จได้”
ขณะที่ สุภาพ นามมนตรี หนึ่งในคนเสื้อแดง กล่าวว่า ตนรับไม่ได้เช่นกันกับท่าทีของเพื่อไทยขณะนี้ เพราะตอนหาเสียงได้ประกาศต่อประชาชนชัดเจนว่าพรรคจะมีนโยบายอย่างไร การตัดสินใจของเพื่อไทยจึงไม่ต่างจากการตบหน้าประชาชน
“ตอนคุณหาเสียงบอกว่าไม่เอาลุง พอคุณมาบอกตอนนี้ว่าเป็นแค่การหาเสียงไม่ใช่นโยบายพรรค คุณไม่ถามประชาชนว่าที่เขาเลือกคุณเข้าไปเพราะอะไร ให้คุณเข้าไปบริหารหรือเลือก 3 ป. เป็นผู้บริหาร ประชาชนก็เหมือนว่า คุณจะลากจะจูงไปทางไหนก็ทำได้เหรอ ที่ผ่านมาเราสู้เพื่อประชาธิปไตยจริงๆ เสื้อแดงที่เขายอมไปลุยไปสู้กับคุณ เพราะนโยบายตอบโจทย์ชาวบ้าน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ คุณสวนกระแสชาวบ้านหมดเลย
“ตอนที่ไม่เอา MOU ชาวบ้านเขาบอกว่าไม่อยากฟังข่าวเลย เขาไม่เห็นหัวประชาชน การตัดสินใจของเพื่อไทยในชั่วโมงนี้ เราก็รับไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งแสดงออกมาแบบนี้ มันเหมือนตบหน้าประชาชน จะร่วมกับฝ่ายที่ยิงเราสั่งทำร้ายเรา”
นิตยา รักษาภัย อายุ 72 ปี กล่าวว่า การกระทำของพรรคเพื่อไทยเป็นการตระบัดสัตย์ต่อประชาชน
“เขาไม่มีสัจจะ ตระบัดสัตย์ต่อประชาชน เขาคิดว่าตัวตัวเองทำเพื่อประชาชน พอโหวตนายกฯ ไม่ผ่าน ก้าวไกลมีสปิริตโยนให้พรรคอันดับ 2 พอเพื่อไทยไม่เห็นคุณค่าของพรรคก้าวไกลและประชาชนที่เลือกเข้ามา หวังว่ามาให้สองพรรคจับมือกัน แม่เสียใจมาก แม่ไม่เชื่อว่าเพื่อไทยจะทำ (แก้ไข รธน.) กับการที่ไปรวมกับอำนาจเก่า อย่างน้อยๆ ให้เป็นฝ่ายค้านร่วมกันยังดีกว่าหรือ รวมกันแล้วเอาเสียงจากพรรคเล็กพรรคน้อยมาช่วย ไม่น่าเอาภูมิใจไทยเข้ามา หรืออย่างน้อยก็รอ จนกว่า ส.ว. จะหมดอำนาจ
“รอมา 8-9 ปียังรอได้ ทำไม 8-9 เดือนเราจะรอไม่ได้ ถ้าว่าจะยื้อไปหลายเดือนก็ทำความเข้าใจกับพี่น้องด้วย ถึงจะรอด ให้เรามีความหวัง”
ธนวัฒน์ โจกกระโทก กล่าวว่า ทั้งครอบครัวเป็นเสื้อแดงมาตลอด แต่ตั้งปี 2552-2553 ให้ความคิดเห็นว่า วันนี้เพื่อไทยคือพรรคงูเห่าที่ไม่เคารพเสียของประชาชน
“ตอนสมัยประชาธิปัตย์ เลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ 2 จะจัดตั้งรัฐบาลตอนนั้นไปบอกว่าเขาเป็นรัฐบาลโจร แล้วอนุทินก็เป็นคู่กรณีกับเพื่อไทยเสื้อสีน้ำเงินในวันนั้นที่ไล่ทุบตีพวกเรา แล้ววาทกรรมในวันนั้น มันทำให้คนเสื้อแดงติดคุก ผมก็เป็นคนหนึ่งที่วิ่งหลบลูกปืนมาด้วยกัน มันทำให้มีคนตาย แต่คุณกำลังจะทำแบบนั้นเสียเอง จริงๆ พรรคอันดับที่สองสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่คุณพูดช้าไป ถ้าพูดตั้งแต่ปี 2552-2553 คงไม่มีใครตาย
“เพื่อไทยตอนนี้เหมือนแก้ผ้าเดินให้ชาวบ้านดู ตอนปี 2562 คุณชนะการเลือกตั้งทำไมไม่จัดตั้งรัฐบาล วันนี้ปี 2566 คุณแพ้ แต่คุณถีบพรรคที่ชนะไปเป็นฝ่ายค้าน เขาให้คุณเสนอชื่อภายใต้จำนวน 312 เสียงเดิม แต่คุณหักหลังเขา มันก็เข้าทางที่คุณเคยบอกว่าภูมิใจไทยเป็นงูเห่า แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยคืองูเห่าของ 312 เสียงเสียเอง” ธนวัฒน์ กล่าว
ไม่มีสัจจะ ไม่เห็นหัวประชาชน เสียงพูดคนเสื้อแดง เมื่อเพื่อไทยกลายเป็นพรรคงูเห่า
สิงหาคม 10, 2023
เรื่อง กฤติมา คลังมนตรี
Isaan Record
เป็นเวลาเกือบ 4 เดือนที่ประเทศไทยผ่านการเลือกตั้งมา ได้เห็นความพยายามจัดตั้งรัฐบาลของพรรคอันดับ 1 คือ พรรคก้าวไกล มีการร่วมลงนาม MOU ร่วมกันของ 8 พรรคการเมือง นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกลร่วมกับตัวแทนจากทุกพรรค ก่อนที่สถานการณ์จะพลิกผัน หลังจากโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 1 ที่เสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ผ่าน เนื่องจากมีเสียงสนับสนุนไม่ถึง 376 เสียง มรสุมเรื่องหุ้นสื่อของ พิธา ทำให้ต้องยุติการทำหน้าที่ ส.ส. รวมถึงถูกปัดตกการโหวตเสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ ในรอบ 2 ว่าเป็นญัตติซ้ำ และขณะรอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาประเด็นญัตติซ้ำนี้ จึงทำให้เพื่อไทยกลายเป็นตัวแทนจัดตั้งรัฐบาล
เพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับ 2 เสนอให้พรรคก้าวไกลถอยเรื่องนโยบายแก้ไขมาตรา 112 เป็นเงื่อนไขที่เกรงว่าจะไม่ได้เสียงจาก ส.ส. บางพรรค รวมทั้ง ส.ว. ก่อนจับมือกับพรรคภูมิใจไทย ตั้งต้นตั้งรัฐบาลจำนวน 212 เสียง ในเงื่อนไข “ไม่มีลุง ไม่มีก้าวไกล” พร้อมแถลงการณ์ว่าจะเร่งฟื้นฟูปัญหาเศรษฐกิจและแก้ไขเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวาระแรก จะมีการทำประชามติขอจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการจัดตั้ง สสร. และอื่นๆ ก่อนจะรวมเสียงกับอีก 7 พรรคการเมืองเพื่อตั้งรัฐบาลที่เสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ชิงเกาอี้นายกรัฐมนตรี ได้แก่พรรคประชาชาติ เสรีรวมไทย ชาติพัฒนากล้า พลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย เพื่อไทรวมพลัง และชาติไทยพัฒนา โดยหวังสลายขั้วการเมืองให้ตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ
การเคลื่อนไหวเพื่อจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทย มิเพียงทำให้กลุ่มฐานเสียงพรรคก้าวไกลไม่พอใจในท่าทีเท่านั้น แต่จังหวะการเคลื่อนในหลายครั้ง ยังนำมาสู่การตั้งคำถามของคนเสื้อแดง ที่เป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคมาตลอดหลายสิบปีด้วย
วรพจน์ สวัสดิ์ถาวร วัย 64 ปี เริ่มสวมเสื้อแดงตั้งแต่ฟังปราศรัยที่บึงแก่นนคร ในปี 2552-2553 ผ่านความรู้สึกของความไม่ยุติธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร เล่าว่านายกฯ ที่สนับสนุนกี่คนก็โดนกลั่นแกล้งทางการเมือง โดยยกตัวอย่างของ สมัคร สุนทรเวช ในคดีทำรายการชิมไปบ่นไป เลยมาเข้าร่วมกับกลุ่มคนรักประชาธิปไตยขอนแก่น จนถึง 12 มีนาคม 2553 ตนเข้าร่วมชุมนุมในกรุงเทพฯ ผ่านการปะทะกับเจ้าหน้าที่ รถถังและแก๊สน้ำตาในวันที่ 9-10 มีนาคม 2553 ท่ามกลางการเมืองคุกรุ่น ครั้งนั้นญาติที่เคยให้เช่าที่ทำร้านโชว์ห่วยตัดสินใจไม่ให้เขาเช่าต่อเพียงเพราะสวมเสื้อแดง และครั้งนี้เขาให้ความเห็นต่อท่าทีของพรรคเพื่อไทยในปัจจุบันว่า
“เข้าใจว่าพรรคเพื่อไทยต้องหาทางจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะว่าหลุดจากก้าวไกลมาแล้ว พรรคก้าวไกลไม่สามารถไปต่อได้ เพื่อไทยต้องรีบจัดตั้งรัฐบาลไม่อย่างนั้น ฝ่ายเผด็จการจะขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เราจะลำบากกัน จะมีการแจกกล้วย มีงูเห่าจากฝ่ายเรา บางครั้งต้องยอมกลืนเลือดตัวเอง แต่บอกตรงๆ ผมไม่เห็นด้วยกับการที่ไปรวมกับภูมิใจไทย แต่มันเป็นความจำเป็นที่เราจะต้องเอาอำนาจรัฐมาให้ได้ก่อน เป้าหมายคือต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้าฝ่ายนั้นได้อำนาจต่อ กลัวว่าจะเข้าไปแก้ไขอำนาจ ส.ว. ให้อยู่ต่ออีก ถ้าเราจะปิดสวิตช์ ส.ว. เราต้องเข้าไปเป็นรัฐบาลให้ได้ เราไม่สามารถรอได้ถึง 10 เดือน ฝั่งนั้นไม่รอเรา เท่ากับเปิดโอกาสความชอบธรรมให้เขาจัดตั้งรัฐบาลทันที เรามีบทเรียนมาตั้งแต่ปี 2552-2553 กับพรรคภูมิใจไทย ว่าโดนกระทำอะไรมา แต่เราต้องคำนึงถึงความจำเป็นว่า ทำไมต้องไปจับมือกับภูมิใจไทย ลึกๆ ในใจผมไม่โอเค แต่ยอมรับในความในความคิดของเพื่อไทย”
วาสนา เคนหล้า หรือ ติ๋ม ซีโฟว์ ชาวเสื้อแดงที่เคยเป็นแรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตในเกาหลีใต้ หรือที่เรียกว่า ผีน้อย มากว่า 14 ปี ได้กลับมาประเทศไทยในปี 2553 ซึ่งตรงกับรัฐบาลของ ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า ตอนนั้นกระทรวงแรงงานของไทยประสานกับกระทรวงแรงงานของเกาหลีใต้ ทำให้คนที่เป็นผีน้อยสามารถขึ้นทะเบียนให้มีวีซ่าทำงานได้ นั่นทำให้ตนประทับใจ เมื่อเดินทางกลับมาเดือนมีนาคม ปี 2553 เกิดการประท้วง ตนได้เข้าร่วมในการชุมนุมครั้งนั้นด้วย
วาสนาร่วมชุมนุมตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึง 10 เมษายน 2553 เกิดการใช้แก๊สน้ำตา มีคนเสียชีวิตมากมาย กระทั่งวันที่ 19 พฤษภาคม ซึ่งมีการสลายการชุมนุม วาสนากล่าวว่าเห็นทุกเหตุการณ์ และทุกคมกระสุน
“เลือกตั้งที่ผ่านมาสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่จนมาถึงก้าวไกล ก่อนหน้านี้มีความรู้สึกดีๆ ต่อเพื่อไทย แต่การกระทำของเพื่อไทยมันไม่เหมือนเดิม สัจจะมีไหม ถ้าเพื่อไทยจริงใจ จะต้องไม่อ้างว่ารีบจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาวบ้าน เพราะคุณรีบไปมันก็แก้ไม่ได้ภายใน 4-6 เดือนนี้ คุณทำไมไม่จับมือกับก้าวไกลทั้งๆ ที่ก้าวไกลเขามีตั้ง 151 เสียง คุณ มี 141 เสียง แล้วคุณไปเอาภูมิใจไทยเข้ามาทำไม ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่า ช่วงโควิดอนุทิน ทำอะไรไว้ แก้ปัญหาอะไร คนตายไปเท่าไหร่ เราเห็นด้วยกับแนวทางที่ทั้งสองพรรคเพื่อไทยก้าวไกลกอดกันไว้ ยังไงสองพรรคก็รวมกันได้กว่า 300 เสียง ถ้าจะเป็นฝ่ายค้านก็เป็นฝ่ายค้านเสียงข้างมาก รวมกันไว้ ดีกว่าอ้างว่าทำเพื่อประชาชน คิดว่า 4 ปีเพื่อไทยก็ไม่สามารถแก้ปัญหาที่สร้างมา 9 ปีให้เสร็จได้”
ขณะที่ สุภาพ นามมนตรี หนึ่งในคนเสื้อแดง กล่าวว่า ตนรับไม่ได้เช่นกันกับท่าทีของเพื่อไทยขณะนี้ เพราะตอนหาเสียงได้ประกาศต่อประชาชนชัดเจนว่าพรรคจะมีนโยบายอย่างไร การตัดสินใจของเพื่อไทยจึงไม่ต่างจากการตบหน้าประชาชน
“ตอนคุณหาเสียงบอกว่าไม่เอาลุง พอคุณมาบอกตอนนี้ว่าเป็นแค่การหาเสียงไม่ใช่นโยบายพรรค คุณไม่ถามประชาชนว่าที่เขาเลือกคุณเข้าไปเพราะอะไร ให้คุณเข้าไปบริหารหรือเลือก 3 ป. เป็นผู้บริหาร ประชาชนก็เหมือนว่า คุณจะลากจะจูงไปทางไหนก็ทำได้เหรอ ที่ผ่านมาเราสู้เพื่อประชาธิปไตยจริงๆ เสื้อแดงที่เขายอมไปลุยไปสู้กับคุณ เพราะนโยบายตอบโจทย์ชาวบ้าน แต่ตอนนี้ไม่ใช่ คุณสวนกระแสชาวบ้านหมดเลย
“ตอนที่ไม่เอา MOU ชาวบ้านเขาบอกว่าไม่อยากฟังข่าวเลย เขาไม่เห็นหัวประชาชน การตัดสินใจของเพื่อไทยในชั่วโมงนี้ เราก็รับไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งแสดงออกมาแบบนี้ มันเหมือนตบหน้าประชาชน จะร่วมกับฝ่ายที่ยิงเราสั่งทำร้ายเรา”
นิตยา รักษาภัย อายุ 72 ปี กล่าวว่า การกระทำของพรรคเพื่อไทยเป็นการตระบัดสัตย์ต่อประชาชน
“เขาไม่มีสัจจะ ตระบัดสัตย์ต่อประชาชน เขาคิดว่าตัวตัวเองทำเพื่อประชาชน พอโหวตนายกฯ ไม่ผ่าน ก้าวไกลมีสปิริตโยนให้พรรคอันดับ 2 พอเพื่อไทยไม่เห็นคุณค่าของพรรคก้าวไกลและประชาชนที่เลือกเข้ามา หวังว่ามาให้สองพรรคจับมือกัน แม่เสียใจมาก แม่ไม่เชื่อว่าเพื่อไทยจะทำ (แก้ไข รธน.) กับการที่ไปรวมกับอำนาจเก่า อย่างน้อยๆ ให้เป็นฝ่ายค้านร่วมกันยังดีกว่าหรือ รวมกันแล้วเอาเสียงจากพรรคเล็กพรรคน้อยมาช่วย ไม่น่าเอาภูมิใจไทยเข้ามา หรืออย่างน้อยก็รอ จนกว่า ส.ว. จะหมดอำนาจ
“รอมา 8-9 ปียังรอได้ ทำไม 8-9 เดือนเราจะรอไม่ได้ ถ้าว่าจะยื้อไปหลายเดือนก็ทำความเข้าใจกับพี่น้องด้วย ถึงจะรอด ให้เรามีความหวัง”
ธนวัฒน์ โจกกระโทก กล่าวว่า ทั้งครอบครัวเป็นเสื้อแดงมาตลอด แต่ตั้งปี 2552-2553 ให้ความคิดเห็นว่า วันนี้เพื่อไทยคือพรรคงูเห่าที่ไม่เคารพเสียของประชาชน
“ตอนสมัยประชาธิปัตย์ เลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ 2 จะจัดตั้งรัฐบาลตอนนั้นไปบอกว่าเขาเป็นรัฐบาลโจร แล้วอนุทินก็เป็นคู่กรณีกับเพื่อไทยเสื้อสีน้ำเงินในวันนั้นที่ไล่ทุบตีพวกเรา แล้ววาทกรรมในวันนั้น มันทำให้คนเสื้อแดงติดคุก ผมก็เป็นคนหนึ่งที่วิ่งหลบลูกปืนมาด้วยกัน มันทำให้มีคนตาย แต่คุณกำลังจะทำแบบนั้นเสียเอง จริงๆ พรรคอันดับที่สองสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่คุณพูดช้าไป ถ้าพูดตั้งแต่ปี 2552-2553 คงไม่มีใครตาย
“เพื่อไทยตอนนี้เหมือนแก้ผ้าเดินให้ชาวบ้านดู ตอนปี 2562 คุณชนะการเลือกตั้งทำไมไม่จัดตั้งรัฐบาล วันนี้ปี 2566 คุณแพ้ แต่คุณถีบพรรคที่ชนะไปเป็นฝ่ายค้าน เขาให้คุณเสนอชื่อภายใต้จำนวน 312 เสียงเดิม แต่คุณหักหลังเขา มันก็เข้าทางที่คุณเคยบอกว่าภูมิใจไทยเป็นงูเห่า แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยคืองูเห่าของ 312 เสียงเสียเอง” ธนวัฒน์ กล่าว