วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 17, 2566

ซาบซึ้ง พรรคเพื่อไทย จนน้ำตาจิไหล - ยอมเจ็บ ยอมถูกด่า อุ้มประชาชนข้ามเหวนรก ฝ่าแดนคนชั่ว เพื่อสร้างสะพาน


Atukkit Sawangsuk
13h·
ซาบซึ้งน้ำตาจิไหล
.....

Atukkit Sawangsuk
21h ·
พี่อ้วนรู้นะว่าเสียต้นทุนทางการเมือง
แล้วบอกว่าอนาคตจะเป็นบทพิสูจน์
ผมว่าอนาคตจะยิ่งหนักครับ

Phumtham Wechayachai
21h·
พรรคเพื่อไทยมีจุดกำเนิดต่อมาจากพรรคไทยรักไทยซึ่งเริ่มต้นขึ้นภายใต้รธน. ปี40 ที่ร่างขึ้นภายหลังจากวิกฤติการเมือง พค 35 ครั้งนั้น ทหารทุกเหล่าทัพยอมถอยออกจากการเมือง กระทั่งไม่มีใครคิดว่าประเทศไทยจะมีการรัฐประหารอีกแล้ว
แต่ต่อมาเมื่อสังคมไทยเกิดความขัดแย้ง แบ่งกลุ่ม แบ่งสี กันอย่างรุนแรง พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน กระทั่งถึงพรรคเพื่อไทย
ซึ่งยืนหยัดต่อสู้บนหลักการประชาธิปไตยมาโดยตลอด
มาถึงวันนี้ เรายังคงยืนยันบนหลักการประชาธิปไตยไม่เปลี่ยนแปลง
การดำเนินงานการเมืองของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้กับความพยายามคลี่คลายความขัดแย้งที่ดำรงอยู่มาเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปี หัวใจสำคัญคือแต่ละฝ่ายยอมถอยออกคนละก้าว ให้มาอยู่ในจุดที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับประเทศและประชาชน
กระบวนทัศน์เดิมในทางการเมืองมองพรรคการเมืองคู่แข่งคือการเอาชนะคะคานกัน กระทั่งปัจจุบัน ยังเพิ่มอารมณ์เหยียดหยาม
ด้อยค่าอีกฝ่ายที่ไม่ใช่ฝ่ายเราอย่างหนักหน่วงโดยเฉพาะในสื่อสังคมออนไลน์
หากเปลี่ยนมุมคิดโดยใช้การเมือง เป็นเวทีที่ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ทำงานร่วมกัน ช่วยสลายขั้วความขัดแย้ง และนำพาบ้านเมืองออกจากหล่มความขัดแย้งดังกล่าว
การคิด และดำเนินการเพื่อให้ประสบผลสำเร็จในภารกิจใหญ่เช่นนี้ มิใช่เรื่องง่าย สำหรับพรรคเพื่อไทย เพราะในอดีตเราเคยเป็นฝ่ายถูกกระทำมาโดยตลอด แต่ภายหลังการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันภายในพรรค พวกเราได้ข้อสรุปที่ตระหนักดีว่าหากจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีของสังคมอย่างที่ทุกคนคาดหวัง
พรรคเพื่อไทยต้องคิดใหญ่ ด้วยใจที่ใหญ่ ใจที่กว้าง ภายใต้สถานการณ์ทางเลือกที่คับแคบอย่างยิ่ง
พรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องทำงานกับความคิด ความรู้สึกของทุกคนภายในพรรคอย่างมาก เมื่อมองเห็นเป้าหมายที่ใหญ่กว่าผลประโยชน์ของพรรคเพียงฝ่ายเดียว พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้อง แสวงหาทางเลือกที่ดีที่สุด และเป็นรูปธรรม ภายใต้หลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
โดยเปิดใจกว้าง จับมือทำงาน
ร่วมกับทุกพรรคการเมืองที่ล้วนแล้วแต่ได้รับคะแนนเสียงการเลือกตั้งมาจากประชาชนที่หลากหลาย ในจำนวนสัดส่วนที่แตกต่างกัน เพราะ
นี่คือ ตัวแทนของประชาชนส่วนหนึ่งของประเทศที่ต่างก็มีสิทธิ์และเสียงเท่าเทียมกัน
การตัดสินใจครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทยเรายอมเสียต้นทุนทางการเมืองบางส่วนด้วยความเชื่อว่า “ทารกที่คลอดจากครรภ์มารดา ล้วนผ่านความเจ็บปวดฉันใด การเปลี่ยนแปลง เพื่อสิ่งใหม่ที่ดีขึ้น ย่อมต้องผ่านความเจ็บปวดฉันนั้น”
พรรคเพื่อไทยจะใช้ความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน เพื่อพิสูจน์ตัวเองต่อพี่น้องประชาชน เรารับผิดชอบ ในสิ่งที่เราคิด เราทำ
โดยอนาคตจะเป็นบทพิสูจน์ ความคิด และความเชื่อของเรา
ภูมิธรรม เวชยชัย
รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
16 สิงหาคม 2566
.....

The101.world
12h
·
"เราต้องการเสียงจากพี่น้องประชาชน เราต้องดูว่าพี่น้องประชาชนต้องการอะไร ตอนนี้พี่น้องประชาชนยังไม่เปลี่ยนนะ ถ้าพรรคเพื่อไทยกลับมาตั้งหลักใหม่แล้วฟังเสียงประชาชน ส.ส. ในพื้นที่คงเอาเสียงประชาชนไปบอกพรรคว่าตอนนี้ประชาชนเรียกร้องเรื่องเศรษฐกิจน้อยกว่าอย่าไปจับมือกับสองลุง เพราะเขาเห็นว่าถ้าไปจับมือ การแก้ไขเศรษฐกิจก็จะยาก เพราะมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอีก เขาไม่ยอมให้เราแก้แน่"
.
101 สนทนากับทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส. เชียงใหม่จากพรรคเพื่อไทย หลังจากเมืองหลวงของเพื่อไทยถูกตีพ่าย ทำให้เธอไม่ได้กลับเข้าสู่สภาฯ ทัศนีย์ถอดบทเรียนการเมืองครั้งนี้อย่างไร และในห้วงเวลาที่เพื่อไทยกำลังถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงทิศทางการเมือง ภายใต้บริบทรัฐธรรมนูญปี 60 ทัศนีย์คิดเห็นต่อสถานการณ์การเมืองอย่างไร
.
อ่านบทสัมภาษณ์ได้ที่ : https://www.the101.world/tassanee-interview/
.
"เรายอมรับความพ่ายแพ้ แล้วเราจะโกรธก้าวไกลไม่ได้ด้วย เขาเป็นคู่แข่งที่มีนโยบายตอบโจทย์การแก้ไขระบบโครงสร้างของประเทศ ที่พูดว่าคู่แข่งก็คือคู่แข่งนะคะ ไม่ใช่ศัตรู คู่แข่งมีแพ้-ชนะ ในเมื่อเราแพ้ เราจะไปโกรธคู่แข่งที่ชนะได้อย่างไร เราก็กลับมาดูว่าเราผิดพลาดตรงไหน แน่นอนว่าคงผิดพลาดที่เราด้วยแหละ ไม่ใช่แค่นโยบายพรรคอย่างเดียว"
.
"เราคิดว่าน่าเห็นใจ ส.ส. ตอนนี้ ลงพื้นที่คุณจะตอบชาวบ้านไม่ได้ เพราะตอนเราเลือกตั้ง เราบอกว่าเราไม่เอา คะแนนที่เขากาเรา เพราะเขาอาจเห็นว่าเราจะไม่เอา"
.
"แล้วมาถึงตอนนี้เราบอกว่า ทำเพื่อพี่น้องประชาชน แต่พี่น้องประชาชนเขาบอกว่าไม่เอา แล้วจะมายืนยันอยู่อย่างเดิมว่าเพื่อประชาชนได้อย่างไร ถ้าเราเป็น ส.ส. ก็ต้องคุยกับพรรค"
.
"ถ้ากลืนเลือดแล้วแก้ไขสถานการณ์ได้ เราเห็นด้วยนะ แต่กลัวว่าที่กลืนจะเป็นยาพิษมากกว่า ถึงบอกว่าเมื่อดูจากสถานการณ์และปัจจัยหลายๆ อย่าง จะแก้ไขสถานการณ์ได้จริงหรือ ที่เพื่อไทยบอกว่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ เราจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ อย่าลืมว่าถ้าเรามีพรรคร่วมเป็นคนที่เคยเป็นรัฐมนตรีรัฐบาลสมัยที่แล้ว กระทรวงนั้นเขาก็ต้องการ กระทรวงนี้เขาก็ต้องการ แล้วเราแก้ไขได้ไหม เขาก็บอกว่าเขามีนโยบายของพรรค"
.
เรื่อง: สุดารัตน์ พรมสีใหม่