วันอังคาร, สิงหาคม 08, 2566

พรรคฝ่ายประชาธิปไตย คำที่กว่าจะได้มา ต้องใช้เวลากว่าสิบปี แต่สูญสลายไปได้ ในชั่วข้ามคืนเดียว


ในทางทฤษฎี พรรคการเมืองทุกพรรคในระบอบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งและยอมรับผลการตัดสินของประชาชน ย่อมล้วนต้องมีพื้นฐานปรัชญาแนวคิดแบบประชาธิปไตย คงไม่มีพรรคการเมืองไหนจะบอกว่าพรรคตนนั้นไม่ใช่พรรคฝ่ายประชาธิปไตย



ในทางสากล การจำแนกอุดมการณ์ของพรรคการเมืองที่แตกต่างกันสองขั้ว จะจำแนกเป็นพรรคแนวอนุรักษนิยม หรือพรรคหัวโบราณ (Conservative) กับ พรรคแนวเสรีนิยม หรือพรรคหัวก้าวหน้า (Liberal) โดยทั้งสองจะมีแนวทางและนโยบายของพรรคที่แตกต่างกัน ฝ่ายหนึ่งมองสิ่งที่เป็นมาในอดีตนั้นดีงามแล้ว ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ แต่อีกฝ่ายหนึ่งจะเห็นในทางตรงข้าม

ในสังคมไทย กลับมีวาทกรรมเพื่อจำแนกความแตกต่างของพรรคการเมืองเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเรียก พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย อีกฝ่ายหนึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตย หรือเรียกให้แรงกว่านั้นว่าเป็นฝ่ายเผด็จการทหาร หรือพรรคสืบทอดอำนาจเผด็จการ

แม้วาทกรรมดังกล่าว อาจมีจุดมุ่งหมายในเชิงการเมืองเพื่อประโยชน์ในการหาเสียงสนับสนุนจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าวาทกรรมดังกล่าวมีผลต่อชัยชนะในการเลือกตั้งของฝ่ายที่กล่าวอ้างว่าเป็นพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2566 มิใช่น้อย

โดยพรรคก้าวไกลได้ ส.ส.มา 151 คน และพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.มา 141 คน รวม 2 พรรคเป็นจำนวนถึง 292 เสียง

ซึ่งหากอยู่ในสถานการณ์ปกติก็เป็นจำนวนมากพอที่จะสามารถร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลสองพรรคที่มีความมั่นคงมากได้ด้วยซ้ำ

คุณค่าและราคาของคำว่า พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย จึงมีความหมายไม่น้อยที่ต้องประคองรักษา เพราะกว่าจะได้มาต้องใช้เวลาพิสูจน์ แต่หากจะไป อาจไปได้ในชั่วข้ามคืน
.
.
คุณค่าและราคาที่ต้องจ่าย
เมื่อมีการตัดสินใจ


เกมยากนั้น ยืดเยื้อ ยาวนาน เสี่ยง เป็นราคาที่ต้องจ่าย คือ การไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เป็นปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะรัฐบาลรักษาการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีข้อจำกัดในการบริหารราชการแผ่นดินตามมาตรา 169 ที่ระบุในรัฐธรรมนูญ

อาทิ การไม่สามารถอนุมัติงาน โครงการ ที่มีผลผูกพัน ครม.ชุดถัดไป การไม่สามารถแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ เว้นแต่ กกต.ให้ความเห็นชอบ การไม่สามารถอนุมัติงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่ กกต.เห็นชอบ ในขณะที่ภาคเอกชนก็ออกมาส่งเสียงอยากได้รัฐบาลใหม่ เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการลงทุนทางธุรกิจ และเป็นที่มั่นใจของนักลงทุนต่างชาติ

เกมง่ายนั้นได้รัฐบาลทันทีที่ประกอบด้วยพรรคการเมืองในขั้วรัฐบาลเดิมร่วมกับพรรคเพื่อไทย แต่ย่อมสร้างความผิดหวังและความไม่พอใจให้แก่ประชาชนที่เขาตั้งใจเลือก 2 พรรคการเมืองนี้เพื่อมาทำหน้าที่แทนรัฐบาลจากขั้วรัฐบาลเดิม รัฐบาลน่าจะมีจำนวนเสียงที่มีความมั่นคง ในขณะที่พรรคก้าวไกลจะออกไปเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง

ความเสี่ยงของเกมง่ายดังกล่าว คือ ความไม่พอใจของประชาชนจะพัฒนาไปสู่การปฏิเสธรัฐ และใช้การแสดงออกเพื่อกดดันรัฐบาลบนท้องถนน ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากสำหรับการชุมนุมขนาดใหญ่โดยสงบในกรุงเทพมหานคร และหากรัฐเป็นฝ่ายเริ่มต้นการใช้ความรุนแรง สิ่งที่ตามมานั้นอาจจะยากคาดการณ์ได้

ภาคเอกชน ที่หวังว่า เมื่อได้รัฐบาลใหม่ เศรษฐกิจจะเดินต่อไปข้างหน้าตามกลไกที่ควรจะเป็น อาจต้องพะวงหลังกับการชุมนุมทางการเมืองที่รุนแรงได้

แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่เกิดกับพรรคเพื่อไทย เป็นคุณค่าและราคาที่ต้องจ่ายในกรณีจับมือกับพรรครัฐบาลเดิมที่พรรคเพื่อไทยเองเคยตราหน้าเขาว่าเป็นพรรคเผด็จการทหาร พรรคสืบทอดอำนาจของ คสช. คือคำว่า “พรรคฝ่ายประชาธิปไตย” ของพรรคเพื่อไทยที่อยู่ในใจของประชาชน และใช้เวลานับสิบปีกว่าที่จะได้ชื่อดังกล่าวมา

อาจจะหายวับไปกับตา ในชั่วข้ามคืน


อ่านบทความเต็มที่ มติชนสุดสัปดาห์
คุณค่าและราคา ของคำว่า ‘พรรคฝ่ายประชาธิปไตย’